- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- วัดเซนโคจิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
วัดเซนโคจิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (3,934)
- By Webmaster
- 22:56:37 | 19 ก.พ. 2566
วัดเซนโคจิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
Zenkoji Temple, Nagano, Japan
บรรยากาศภายในวัดเซนโคจิ
วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุ 1,400 ปี เป็นวัดที่ไม่มีนิกายเฉพาะเจาะจง นักท่องเที่ยวทั่วไปหรือพุทธศาสนิกชนไม่ว่านิกายใดก็ตามสามารถเข้ามาเยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ได้ โดยวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งถูกสลักขึ้นในประเทศอินเดียช่วงศตวรรษที่ 5 เรียกกันว่า องค์พระอมิตาภพุทธะอันมีรัศมีร่วมกัน (Amida Triad Sharing One Halo) ซึ่งอยู่ในวิหารหลักของวัด ซึ่งวิหารนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1953 และในทุกๆ เช้าวัดเซนโคจิจะมีการทำวัตรเช้าและให้พรด้วยลูกประคำ และเป็นสถานที่จัดงานประจำเมืองตามเทศกาลสำคัญทางศาสนาตลอดทั้งปี
แผนที่ตั้ง วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple) จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
วัดเซนโคจิสร้างขึ้นในปีค.ศ. 642 โดยโยชิมิสึ ฮอนดะ (Yoshimitsu Honda) และชื่อวัดเซนโคจินี้เมื่ออ่านแบบจีนจะหมายถึง "วัดของโยชิมิตสึ" โดยเมื่อสร้างวัดเสร็จได้มีการนำชุดพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธรูปสามองค์ที่อยู่ภายในวงรัศมีเดียว ที่เรียกว่า พระอมิตาภพุทธะอันมีรัศมีร่วมกัน (Amida Triad Sharing One Halo) เข้ามาจากประเทศอินเดียผ่านทางอาณาจักรแพ็คแจ (Paekche) ในคาบสมุทรเกาหลีใต้มายังประเทศญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 5 มาประดิษฐานไว้ในวิหารหลักของวัดหลังจากสร้างเสร็จ อย่างไรก็ตามพระพุทธรูปชุดดังกล่าวไม่ได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมหรือสักการะแต่อย่างใด แต่จะมีองค์พระปิณโฑลภารทวาชเถระ (Binzuru Sonja Statue) ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าวิหารหลัก ซึ่งมีความเชื่อกันว่าหากได้ลูบคลำส่วนใดของพระพุทธรูปนี้ซึ่งเป็นส่วนเดียวกับที่ร่างกายของเราเจ็บป่วย ความเจ็บป่วยนั้นจะทุเลาและหายไป
ในส่วนของวิหารหลักนั้นเป็นอาคารไม้ที่มีความเก่าแก่และสวยงามซึ่งเป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่ทดแทนหลังเดิมที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติในสมัยกลางของยุคเอโดะราวปีค.ศ. 1707 โดยมีความกว้าง 24 เมตรยาว 54 เมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1953
ในทุกๆ เช้าที่วัดแห่งนี้จะมีการทำวัตรเช้าและให้พรด้วยลูกประคำโดยหัวหน้านักบวชสองคนซึ่งจะเดินลงมาจากวิหารเพื่อสัมผัสศีรษะของผู้มานมัสการพร้อมถือลูกประคำขณะสวดให้พร
อีกหนึ่งงานสำคัญที่มักจะจัดทุกเดือนกุมภาพันธ์ในตอนกลางคืนคืองานเทศกาลนากาโนะโทเมียว (Nagano Tomyo Festival) ซึ่งเป็นงานประดับไฟในฤดูหนาวด้วยการจัดส่องไฟสีสันสว่างไสวให้กับอาคารต่างๆ ภายในวัด รวมถึงมีการตกแต่งร่ม และรูปปั้นต่างๆ ให้มีแสงสี เพื่อถวายแด่เทพเจ้าและเป็นการอธิษฐานขอให้สันติภาพจงอยู่กับเราทุกคนบนโลก
นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเช่น เทศกาลโอบ้ง (Obon Ennichi) ในช่วงฤดูร้อนของเดือนสิงหาคมโดยภายในวัดจะตกแต่งด้วยโคมสีแดงอย่างสวยงามและมีการจัดงานรำวงญี่ปุ่น และยังมีตลาดนัดบินซุรุอิจิ (Binzuru Ichi) ที่จะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนเมษายนและพฤษภาคมของทุกปี โดยมีทั้งของแฮนด์เมดและสินค้าท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อได้ตามต้องการ
และด้วยความเก่าทางประวัติศาสตร์และศาสนากว่า 1,400 ปี และสีสันของเทศกาลที่มีเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมทำให้วัดเซนโคจิเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 จวบจนถึงทุกวันนี้
บริเวณถนนที่ทอดยาวไปสู่วัดนั้นเรียงรายไปด้วยร้านค้า
ซุ้มประตูซันมงและกระถางธูปขนาดใหญ่
วิหารไม้เก่าแก่ภายในวัด
ความงดงามภายในวิหาร
บรรยากาศภายในวัด
พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่บริเวณสวน
พระพุทธรูปพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์หกพระองค์ (Roku Jizo/Six Jizo) ที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ในหกภพภูมิได้แก่ นรก เปรต สัตว์ อสูร มนุษย์ และสวรรค์
การประดับตกแต่งร่มเรืองแสงในเทศกาลนากาโนะโทเมียวในละแวกนั้น
การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 314 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยรถไฟนั้น จะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ Tokyo Station โดยมีวิธีการเดินทางตามความสะดวกอยู่ 2 วิธี ดังนี้
วิธีแรก เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 2-3 Station เพื่อขึ้นรถไฟ JR Narita Express ไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟชินคันเซ็นสาย Hokuriku-Shinkansen Hakutaka ไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที
วิธีที่สอง เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 1 เพื่อขึ้นรถบัส Airport Limousine Bus ไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟชินคันเซ็นสาย Hokuriku-Shinkansen Hakutaka ไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางมากกว่าวิธีแรกประมาณสิบห้านาที
หมายเหตุ 1. สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner: https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub
2. สามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถและค่าโดยสารของ Airport Limousine Bus เพิ่มเติมได้ที่ https://webservice.limousinebus.co.jp/web/en/
การเดินทางจากสถานีรถไฟนากาโนะไปยังวัดเซนโคจิ
- รถยนต์ (Car) จาก Nagano Station ไปยัง Zenkoji Temple มีระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- รถไฟ (Train) จากสถานี Nagano Station นั่งรถไฟ Wakatsuki Danchi Line Wakatsuki ไปลงยังสถานี Zenkojishita Station และเดินต่อไปยังวัดเซนโคจิ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 9.30 น. - 16.30 น.
เฉพาะวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีจะเปิดทำการเวลา 9.30 น. - 14.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
บริเวณวัดเข้าชมฟรี
ค่าเข้าชมด้านในอาคารและพิธภัณฑ์
- ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 500 เยน
- ตั๋วเด็กมัธยมปลายราคา 200 เยน
- ตั๋วเด็กประถมถึงมัธยมต้น 50 เยน
- เด็กเล็กและอนุบาล เข้าชมฟรี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Zenkoji Temple สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดเซนโคจิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
(Zenkoji Temple, Nagano, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : บริเวณวัดเข้าชมฟรี / ค่าเข้าชมด้านในอาคารและพิพิธภัณฑ์ 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.30 น. - 16.30 น.
เฉพาะวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีจะเปิดทำการเวลา 9.30 น. - 14.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 26-234-3591
เว็บไซต์ : https://www.zenkoji.jp
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/nagano-shi/224701/weather-forecast/224701
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองนากาโนะ http://en.nagano-cvb.or.jp/
เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ