- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (4,372)
- By Webmaster
- 16:37:05 | 13 มี.ค. 2564
ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
Matsumoto Castle, Nagano, Japan
ปราสาทมัตสึโมโตะมีสีดำตัดกับสีของท้องฟ้าจนมีอีกชื่อว่าปราสาทอีกา
ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) เป็นโบราณสถานที่มีอายุกว่าสี่ร้อยปี ตัวปราสาทมีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมท้องถิ่นโบราณของญี่ปุ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากสีดำของปราสาทที่ตัดกับสีของท้องฟ้าและภูเขาจนเกิดความงดงามแปลกตาและน่าเกรงขาม จนมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คาราสุโจ (Karasu Jo) ซึ่งแปลว่า ปราสาทอีกา นอกจากนี้เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นหอคอยหลักมีจำนวนห้าชั้น แต่เมื่อเข้าไปภายในกลับมีหกชั้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของนักออกแบบญี่ปุ่นโบราณที่ซ่อนชั้นตรงกลางปราสาทไว้เพื่อความปลอดภัยจากการถูกโจมตีจากข้าศึกภายนอก นอกจากนี้ยังมีบริเวณของสวนและคูเมืองให้เดินชมความสวยงามของบรรยากาศโดยรอบได้อีกด้วย
แผนที่ตั้ง ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
ปราสาทมัตสึโมโตะแต่เดิมมีชื่อว่าปราสาทฟูคาชิ (Fukashi Castle) สร้างขึ้นในช่วงต้นของยุคเออิโช (Eisho Era) ซึ่งเป็นยุคแห่งสงคราม ในช่วงเวลานั้น ผู้บัญชาการโอกาซาวาระ (Ogasawara) แห่งเมืองชินาโนะ (Shinano) ได้ย้ายฐานบัญชาการจากเขตพื้นที่อิกาว่า (Igawa) มายังเขตพื้นที่ฮายาชิ (Hayashi) ซึ่งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา ซึ่งก็คือบริเวณที่ปราสาทมัตสึโมโตะตั้งอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
โดยผู้บัญชาการโอกาซาวาระได้สร้างปราสาทฮายาชิ (Hayashi Castle) ขึ้นเพื่อใช้เป็นฐานบัญชาการ และเหล่าผู้ติดตามก็ได้สร้างปราสาทและฐานทัพโอบล้อมปราสาทของผู้บัญชาการไว้อีกทีเพื่อเป็นการอารักขากองบัญชาการหลัก โดยปราสาทที่สร้างอยู่ด้านหน้าปราสาทฮายาชิคือปราสาทฟูคาชิ (Fukashi Castle) ซึ่งใช้เป็นป้อมปราการ และยังได้ยอดแม่ทัพชินเง็น ทาเคดะ แห่งเมืองไค (Shingen Takeda of Kai) มาประจำการ จึงทำให้ในตอนนั้นกองบัญชาการแห่งนี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
เมื่อกาลเวลาล่วงเลยมาสู่ยุคเท็นโช (Tensho Era) ราวปีค.ศ.1582 กองบัญชาการได้ย้ายมายังปราสาทฟูคาชิที่ตั้งอยู่ด้านหน้าแทน และเปลี่ยนชื่อเป็นปราสาทมัตสึโมโตะนับแต่นั้นมา ทางด้านของตระกูลโอกาซาวาระที่เป็นผู้บัญชาการแห่งมัตสึโมโตะอยู่หลายปีจนถึงรุ่นของฮิเดะมาสะ โอกาซาวาระ (Hidemasa Ogasawara) ที่ได้ย้ายไปยังแคว้นคันโต (Kanto) จึงมีการแต่งตั้งผู้บัญชาการคนใหม่มารับตำแหน่งในปีค.ศ. 1590 โดยผู้มารับตำแหน่งนี้คือคาสุมาสะ อิชิคาวะ (Kazumasa Ishikawa)
คาสุมาสะ อิชิคาวะ และลูกชายของเขานามว่ายาสุนากะ (Yasunaga) ได้ทำการปรับเปลี่ยนผังปราสาทและพื้นที่โดยรอบ มีการต่อเติมหอคอยขึ้นอีกสามหลังและเพิ่มส่วนต่อขยายต่างๆ จนมีสภาพอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ปราสาทมัตสึโมโตะสร้างเสร็จในช่วงปีค.ศ. 1594
ตัวปราสาทประกอบด้วยอาคาร 5 หลังเชื่อมต่อกัน โดยอาคารหลักของปราสาทหลังที่สูงที่สุดอยู่ตรงกลางเรียกว่าไดเท็นชู (Dai-Tenshu) ทางด้านขวาเป็นป้อมปราการขนาดเล็กเรียกว่าอินุอิโคเท็นชู (Inui Kotenshu) โดยอาคารหลักกับป้อมปราการขนาดเล็กนั้นเชื่อมต่อกันด้วยหอวาตาริยากุระ (Watariyagura) สำหรับอาคารด้านริมซ้ายอีกสองหลังคือหอสึคิมิยากุระ (Tsukimi Yagura) และหอสึคิมิยากุระ (Tatsumi Tsukeyagura)
นอกจากความสวยงามแปลกตาของปราสาทแล้ว ปราสาทยังมีชื่อเสียงเรื่องการหลอกตาข้าศึก โดยอาคารหลักของปราสาทที่ดูภายนอกเหมือนมี 5 ชั้นเมื่อนับจากจากจำนวนชั้นของหลังคา แต่ด้านในกลับมี 6 ชั้น เพราะมีชั้นที่ 3 ซ่อนอยู่ซึ่งเป็นชั้นที่ไม่มีหน้าต่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยของปราสาทในสมัยนั้น ปัจจุบันปราสาทมัตสึโมโตะได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งจังหวัดนากาโนะอีกด้วย
ปราสาทมัตสึโมโตะเมื่อมองจากบริเวณสวนริมคูเมืองฝั่งตรงข้าม
ภาพจำลองปราสาทและเมืองในสมัยโบราณ
หุ่นจำลองชุดนักรบญี่ปุ่นโบราณ
ปืนโบราณที่จัดแสดงอยู่ด้านในปราสาท
อาวุธโบราณต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ด้านในปราสาท
ชุดเกราะที่ใช้ออกรบในสมัยก่อน
ทัศนียภาพของคูเมืองและสวนเมื่อมองจากหน้าต่างบนปราสาท
ตัวปราสาทใช้ผนังสีดำและมีหน้าต่างแบบบานพับดั้งเดิม
การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 314 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยรถไฟนั้น จะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ Tokyo Station โดยมีวิธีการเดินทางตามความสะดวกอยู่ 2 วิธี ดังนี้
วิธีแรก เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 2-3 Station เพื่อขึ้นรถไฟด่วนไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที
วิธีที่สอง เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 1 เพื่อขึ้นรถบัส Airport Limousine Bus ไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางมากกว่าวิธีแรกประมาณสิบห้านาที
หมายเหตุ 1. สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub
2. สามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถและค่าโดยสารของ Airport Limousine Bus เพิ่มเติมได้ที่ https://webservice.limousinebus.co.jp/web/en/
การเดินทางจากสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station) ไปยังปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)
- รถยนต์ (Car) จาก Nagano Station ไปยัง Matsumoto Castle มีระยะทางประมาณ 69 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 8 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Nagano Station ขึ้นรถไฟด่วนไปลง Matsumoto Station และเดินต่อไปยัง Matsumoto Castle ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 1 ชั่วโมง 12 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 8:30 น. – 17:00 น.
ปิดวันที่ 29 ธันวาคม - 31 ธันวาคม ของทุกปี
บริเวณสวนด้านหน้าปราสาท
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ราคา 700 เยน
เด็กชั้นประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 300 เยน
เด็กเล็กและเด็กอนุบาล เข้าฟรี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ความสวยงามของปราสาทและสภาพแวดล้อมโดยรอบ
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Matsumoto Castle สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
(Matsumoto Castle, Nagano, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ราคา 700 เยน / เด็กชั้นประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 300 เยน / เด็กเล็กและเด็กอนุบาล เข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8:30 น. – 17:00 น. / ปิดวันที่ 29 ธันวาคม - 31 ธันวาคม ของทุกปี
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 267-42-5538
เว็บไซต์ : https://www.matsumoto-castle.jp/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/nagano-shi/224701/weather-forecast/224701
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองนากาโนะ http://en.nagano-cvb.or.jp/
เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ