- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (3,643)
- By Webmaster
- 16:37:05 | 13 มี.ค. 2564
ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
Matsumoto Castle, Nagano, Japan
ปราสาทมัตสึโมโตะมีสีดำตัดกับสีของท้องฟ้าจนมีอีกชื่อว่าปราสาทอีกา
ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) เป็นโบราณสถานที่มีอายุกว่าสี่ร้อยปี ตัวปราสาทมีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมท้องถิ่นโบราณของญี่ปุ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากสีดำของปราสาทที่ตัดกับสีของท้องฟ้าและภูเขาจนเกิดความงดงามแปลกตาและน่าเกรงขาม จนมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คาราสุโจ (Karasu Jo) ซึ่งแปลว่า ปราสาทอีกา นอกจากนี้เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นหอคอยหลักมีจำนวนห้าชั้น แต่เมื่อเข้าไปภายในกลับมีหกชั้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของนักออกแบบญี่ปุ่นโบราณที่ซ่อนชั้นตรงกลางปราสาทไว้เพื่อความปลอดภัยจากการถูกโจมตีจากข้าศึกภายนอก นอกจากนี้ยังมีบริเวณของสวนและคูเมืองให้เดินชมความสวยงามของบรรยากาศโดยรอบได้อีกด้วย
แผนที่ตั้ง ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
ปราสาทมัตสึโมโตะแต่เดิมมีชื่อว่าปราสาทฟูคาชิ (Fukashi Castle) สร้างขึ้นในช่วงต้นของยุคเออิโช (Eisho Era) ซึ่งเป็นยุคแห่งสงคราม ในช่วงเวลานั้น ผู้บัญชาการโอกาซาวาระ (Ogasawara) แห่งเมืองชินาโนะ (Shinano) ได้ย้ายฐานบัญชาการจากเขตพื้นที่อิกาว่า (Igawa) มายังเขตพื้นที่ฮายาชิ (Hayashi) ซึ่งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา ซึ่งก็คือบริเวณที่ปราสาทมัตสึโมโตะตั้งอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
โดยผู้บัญชาการโอกาซาวาระได้สร้างปราสาทฮายาชิ (Hayashi Castle) ขึ้นเพื่อใช้เป็นฐานบัญชาการ และเหล่าผู้ติดตามก็ได้สร้างปราสาทและฐานทัพโอบล้อมปราสาทของผู้บัญชาการไว้อีกทีเพื่อเป็นการอารักขากองบัญชาการหลัก โดยปราสาทที่สร้างอยู่ด้านหน้าปราสาทฮายาชิคือปราสาทฟูคาชิ (Fukashi Castle) ซึ่งใช้เป็นป้อมปราการ และยังได้ยอดแม่ทัพชินเง็น ทาเคดะ แห่งเมืองไค (Shingen Takeda of Kai) มาประจำการ จึงทำให้ในตอนนั้นกองบัญชาการแห่งนี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
เมื่อกาลเวลาล่วงเลยมาสู่ยุคเท็นโช (Tensho Era) ราวปีค.ศ.1582 กองบัญชาการได้ย้ายมายังปราสาทฟูคาชิที่ตั้งอยู่ด้านหน้าแทน และเปลี่ยนชื่อเป็นปราสาทมัตสึโมโตะนับแต่นั้นมา ทางด้านของตระกูลโอกาซาวาระที่เป็นผู้บัญชาการแห่งมัตสึโมโตะอยู่หลายปีจนถึงรุ่นของฮิเดะมาสะ โอกาซาวาระ (Hidemasa Ogasawara) ที่ได้ย้ายไปยังแคว้นคันโต (Kanto) จึงมีการแต่งตั้งผู้บัญชาการคนใหม่มารับตำแหน่งในปีค.ศ. 1590 โดยผู้มารับตำแหน่งนี้คือคาสุมาสะ อิชิคาวะ (Kazumasa Ishikawa)
คาสุมาสะ อิชิคาวะ และลูกชายของเขานามว่ายาสุนากะ (Yasunaga) ได้ทำการปรับเปลี่ยนผังปราสาทและพื้นที่โดยรอบ มีการต่อเติมหอคอยขึ้นอีกสามหลังและเพิ่มส่วนต่อขยายต่างๆ จนมีสภาพอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ปราสาทมัตสึโมโตะสร้างเสร็จในช่วงปีค.ศ. 1594
ตัวปราสาทประกอบด้วยอาคาร 5 หลังเชื่อมต่อกัน โดยอาคารหลักของปราสาทหลังที่สูงที่สุดอยู่ตรงกลางเรียกว่าไดเท็นชู (Dai-Tenshu) ทางด้านขวาเป็นป้อมปราการขนาดเล็กเรียกว่าอินุอิโคเท็นชู (Inui Kotenshu) โดยอาคารหลักกับป้อมปราการขนาดเล็กนั้นเชื่อมต่อกันด้วยหอวาตาริยากุระ (Watariyagura) สำหรับอาคารด้านริมซ้ายอีกสองหลังคือหอสึคิมิยากุระ (Tsukimi Yagura) และหอสึคิมิยากุระ (Tatsumi Tsukeyagura)
นอกจากความสวยงามแปลกตาของปราสาทแล้ว ปราสาทยังมีชื่อเสียงเรื่องการหลอกตาข้าศึก โดยอาคารหลักของปราสาทที่ดูภายนอกเหมือนมี 5 ชั้นเมื่อนับจากจากจำนวนชั้นของหลังคา แต่ด้านในกลับมี 6 ชั้น เพราะมีชั้นที่ 3 ซ่อนอยู่ซึ่งเป็นชั้นที่ไม่มีหน้าต่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยของปราสาทในสมัยนั้น ปัจจุบันปราสาทมัตสึโมโตะได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งจังหวัดนากาโนะอีกด้วย
ปราสาทมัตสึโมโตะเมื่อมองจากบริเวณสวนริมคูเมืองฝั่งตรงข้าม
ภาพจำลองปราสาทและเมืองในสมัยโบราณ
หุ่นจำลองชุดนักรบญี่ปุ่นโบราณ
ปืนโบราณที่จัดแสดงอยู่ด้านในปราสาท
อาวุธโบราณต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ด้านในปราสาท
ชุดเกราะที่ใช้ออกรบในสมัยก่อน
ทัศนียภาพของคูเมืองและสวนเมื่อมองจากหน้าต่างบนปราสาท
ตัวปราสาทใช้ผนังสีดำและมีหน้าต่างแบบบานพับดั้งเดิม
การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 314 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยรถไฟนั้น จะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ Tokyo Station โดยมีวิธีการเดินทางตามความสะดวกอยู่ 2 วิธี ดังนี้
วิธีแรก เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 2-3 Station เพื่อขึ้นรถไฟด่วนไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที
วิธีที่สอง เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 1 เพื่อขึ้นรถบัส Airport Limousine Bus ไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางมากกว่าวิธีแรกประมาณสิบห้านาที
หมายเหตุ 1. สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub
2. สามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถและค่าโดยสารของ Airport Limousine Bus เพิ่มเติมได้ที่ https://webservice.limousinebus.co.jp/web/en/
การเดินทางจากสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station) ไปยังปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)
- รถยนต์ (Car) จาก Nagano Station ไปยัง Matsumoto Castle มีระยะทางประมาณ 69 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 8 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Nagano Station ขึ้นรถไฟด่วนไปลง Matsumoto Station และเดินต่อไปยัง Matsumoto Castle ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 1 ชั่วโมง 12 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 8:30 น. – 17:00 น.
ปิดวันที่ 29 ธันวาคม - 31 ธันวาคม ของทุกปี
บริเวณสวนด้านหน้าปราสาท
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ราคา 700 เยน
เด็กชั้นประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 300 เยน
เด็กเล็กและเด็กอนุบาล เข้าฟรี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ความสวยงามของปราสาทและสภาพแวดล้อมโดยรอบ
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Matsumoto Castle สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
(Matsumoto Castle, Nagano, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ราคา 700 เยน / เด็กชั้นประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 300 เยน / เด็กเล็กและเด็กอนุบาล เข้าฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8:30 น. – 17:00 น. / ปิดวันที่ 29 ธันวาคม - 31 ธันวาคม ของทุกปี
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 267-42-5538
เว็บไซต์ : https://www.matsumoto-castle.jp/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/nagano-shi/224701/weather-forecast/224701
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองนากาโนะ http://en.nagano-cvb.or.jp/
เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน
มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน
วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม
อ่านต่อ
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
อ่านต่อ
หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อ่านต่อ
สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา
อ่านต่อ
วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ