ด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

  • อ่าน (7,075)
  • ByWebmaster
  • 13:30:20 | 10 พ.ย. 2560

ด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

Three Pagodas Pass, Kanchanaburi Province, Thailand

พระเจดีย์สามองค์ 

           ด่านเจดีย์สามองค์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "หินสามกอง" เป็นจุดกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย  – ประเทศพม่าในแนวเขาตะนาวศรี ตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณด่านมีเจดีย์ 3 องค์ ตั้งเรียงกันในแนวยาว ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยม ในอดีตเป็นเพียงกองหินที่ชาวบ้านนำมาวางไว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางผ่านไปยังประเทศพม่า 


อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ประวัติความเป็นมาของด่านเจดีย์สามองค์

               ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนตะวันตกของประเทศไทย กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่านั่นเอง ในสมัยก่อนที่แห่งนี้เคยเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญในการทำสงครามไทย–พม่า มีผู้สันนิษฐานว่า ตามธรรมเนียมผู้ที่เดินทางผ่านมาบริเวณนี้ จะนำหินมากองไว้สักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทาง และถือกันว่าต้องทำตาม มิฉะนั้นก็จะไม่มีความสบายใจ จนจะพาให้เกิดภัยอันตรายหรือเจ็บไข้ขึ้นได้

           ต่อมาใน พ.ศ. 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีก็ได้นำชาวบ้านมาก่อสร้างเจดีย์จากหินกองใหญ่ จนเป็นเจดีย์สามองค์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน 

  
พระเจดีย์สามองค์

           นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวที่ด่านเจดีย์สามองค์ สามารถแวะชมและซื้อของฝากตามร้านค้าที่อยู่บริเวณด่าน ซึ่งมีสินค้ามากมายที่มาจากฝั่งพม่า เช่น เครื่องประดับ เครื่องไม้ตกแต่งบ้าน รวมไปถึงเครื่องประทินผิวของพม่า


ด่านตรวจคนเข้าเมือง

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวพม่ายังสามารถทำใบผ่านเข้า-ออกแดนระหว่างประเทศโดยมีกำหนดอยู่ภายในประเทศนั้นๆได้ 1 วัน (เวลาเปิด-ปิดด่าน ตั้งแต่ 06.00 น.ถึง 18.00 น.) นักท่องเที่ยวที่ต้องการผ่านแดนไม่จำเป็นต้องมีหนังสือเดินทาง เพียงแค่แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอบัตรผ่าน เข้า-ออก และเสียค่าธรรมเนียมคนละ 40 บาท อีกทั้งสามารถขับรถเข้า-ออกได้โดยเสียค่าธรรมเนียมรถยนต์เพียง 50 บาท (สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: http://kanchanaburi.go.th/)

การเดินทางไป จ.กาญจนบุรี

               กรุงเทพมหานคร-->กาญจนบุรี

การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไป จ.กาญจนบุรี 

           การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี โดย มีระยะทาง123กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง  ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีการเดินทางได้หลายวิธี ดังนี้

               - รถไฟ การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง ต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลศิริราช แถวตลาดศาลาน้ำร้อน (เส้นทางที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านคือ ธนบุรี - ศาลายา - นครปฐม - หนองปลาดุก - ท่าเรือ - กาญจนบุรี - สะพานแควใหญ่ - วังเย็น - บ้านเก่า - ท่ากิเลน - ถ้ำกระแซ - วังโพธิ์ - เกาะมหามงคล - น้ำตก) โดยมีเวลาให้บริการ 2 ขบวน คือ เวลา 07.45 น.และ เวลา 13.55 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1960, หรือเว็บไซต์ https://www.thairailwayticket.com/)

          - รถโดยสารประจำทาง การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร (สถานีขนส่งหมอชิต2) ไปยัง จ.กาญจนบุรี รถโดยสารจะออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารราคา 120 บาท โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1490, 0-2936-2852 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th สถานีเดินรถกาญจนบุรี โทร. 034-511387)

            การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร (สถานีขนส่งสายใต้ใหม่) ไปยัง จ.กาญจนบุรี รถโดยสารจะออกทุก 20 นาที ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารราคา 120 บาท โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1490, 0-2894-2634 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th สถานีเดินรถกาญจนบุรี โทร. 034-512855)

          - รถตู้สาธารณะ การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - พุทธมณฑล - นครปฐม - กาญจนบุรี ซึ่งมีจุดให้บริการทั่วกรุงเทพฯ ราคา 120 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-20.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ท่าอนุสาวรีย์ชัยฯ ตรงวิคตอรี่พลาซ่า ซอยข้างโชว์รูมรถซูซูกิ  โทร. 08-2243-7387, ท่าปิ่นเกล้า โทร. 08-4414-7979, ท่าสายใต้ใหม่ โทร. 08-5297-2772, ท่ากาญจนบุรี โทร. 08-4414-5885)

          - รถยนต์ส่วนตัว จาก จ.กรุงเทพมหานคร สามารถเดินทางไป จ.กาญจนบุรี ได้หลายเส้นทาง แต่เส้นทางที่ใกล้ที่สุด คือ จากกรุงเทพมหานครเข้าสู่ถนนบรมราชชนนี ผ่านพุทธมณฑล มุ่งสู่ จ.นครปฐม ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 จากนั้นเปลี่ยนเส้นทางไปทางราชบุรี - บ้านโป่ง ขับตรงต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 4 จนเห็นป้ายกาญจนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 323) พอเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 323 แล้ว ก็ถือว่าเป็นเส้นหลักถนนแสงชูโต ที่วิ่งเข้าตัวจังหวัดกาญจนบุรี รวมเป็นระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตร

การเดินทางไป ด่านเจดีย์สามองค์

               อ.เมือง-->ด่านเจดีย์สามองค์

 

              - รถโดยสารประจำทาง การเดินทางภายในจังหวัด จาก อ.เมือง ไปยัง ด่านเจดีสามองค์ อ.สังขละบุรี ด้วยระยะทาง 229 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้โดยใช้บริการรถทัวร์ปรับอากาศ รถโดยสารประจำทางแบบไม่มีแอร์ และรถตู้ ที่มีให้บริการตลอดทั้งวัน ซึ่งสามารถขึ้นรถได้ที่ สถานีขนส่งกาญจนบุรี (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รถทัวร์ปรับอากาศ และรถโดยสารประจำทาง บขส. กาญจนบุรี โทร. 034-511387, รถไมโครบัส ปรับอากาศ 30 ที่นั่ง มีวันละ 3 เที่ยว ตั้งแต่ 9.00 น., รถตู้ เดินรถตั้งแต่ 07.30 - 16.30 น. (รถออกทุกๆ 1 ชั่วโมง) โทร. 034-513151, 034-622881, 034-599452)

              - รถยนต์ส่วนตัว การเดินทาง จาก อ.เมือง ไปยัง ด่านเจดีสามองค์ อ.สังขละบุรี ด้วยระยะทาง 229 กิโลเมตร วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ป้ายบอกทางไปอำเภอไทรโยค - ทองผาภูมิ ก่อนเข้าตัวอำเภอทองผาภูมิ จะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอสังขละบุรี ผ่าน อุทยานแห่งชาติเขาแหลม สะพานข้ามแม่น้ำรันตี ก่อนเข้าตัวอำเภอสังขละบุรีจะมีทางแยก ให้เลี้ยวขวาและเดินทางไปอีก 18 กิโลเมตร ก็จะถึงด่านเจดีย์สามองค์

เวลาเปิด-ปิดทำการ

              ด่านเจดีย์สามองค์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. ทุกวัน
          สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผ่านด่านชายแดนไปเที่ยวเมืองตองซู ประเทศพม่า ด่านเปิด-ปิด ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. ของทุกวัน (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สังขละบุรี โทร. 034-595335)

จุดที่น่าสนใจบริเวณ ด่านเจดีย์สามองค์

           - เทวรูปพระสยามเทวาธิราช

               เทวรูปพระสยามเทวาธิราช ที่ประดิษฐานอยู่ ณ ที่แห่งนี้ สืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า เมืองไทยมีเหตุการณ์ร้าย เกือบจะต้องเสียอิสรภาพมาหลายครั้ง แต่ก็มีเหตุให้รอดพ้นได้เสมอ น่าจะมีเทพยดาคอยพิทักษ์รักษาอยู่ สมควรสร้างรูปเทพยดาองค์นั้น ขึ้นไว้สักการบูชา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ นายช่างเอก ทรงปั้นรูปเทพยดาที่มีลักษณะเป็นเทวรูปหล่อยืน หล่อด้วยทองคำ ทั้งพระองค์ สูงประมาณ 8 นิ้ว งดงามได้สัดส่วนเหมาะแก่การเคารพสักการะเป็นอย่างยิ่ง

           - ตลาดชายแดนด่านเจดีย์สามองค์
 

 

           นักท่องเที่ยวคนใดที่มองหาของฝากไม่ควรพลาด ตลาดชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ตลาดแห่งนี้เป็นมีสินค้าจำพวกเครื่องประดับ พระพุทธรูป เครื่องสำอางของพม่า งานไม้ เฟอร์นิเจอร์สวยๆ และสินค้าอื่นๆที่มีราคาถูกอีกมากมาย

อัตราค่าเข้าชม

           ไม่มีค่าใช้ในการเข้าชม

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี หากนักท่องเที่ยวต้องการเก็บภาพบรรยากาศ สามารถ ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง ได้ที่เว็บไซต์ พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/  

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวด่านเจดีย์สามองค์

           ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ติดกับชายแดนระหว่างประเทศไทย-พม่า นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางข้ามไปยังประเทศพม่าได้ เพียงแค่แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอบัตรผ่าน เข้า-ออก และเสียค่าธรรมเนียมคนละ 40 บาท โดยด่านมีเวลา เปิด-ปิด ตั้งแต่ 06.00 น.ถึง 18.00 น.

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ด่านเจดีย์สามองค์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                             ด่านเจดีย์สามองค์

                             อัตราค่าเข้าชม : ฟรีค่าเข้าชม

                             เวลาเปิด – ปิด : 06.00-18.00 น.

                                  ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                             ตั้งอยู่ที่ : ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

                             โทรศัพท์ : (+66)34-590105

                             เว็บไซด์ : http://kanchanaburi.go.th/

                             ระดับความนิยม : 

                             ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :  พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/ 

                                                  จองตั๋วรถโดยสารประจำทาง http://www.busticket.in.th

                                                  จองตั๋วรถไฟ https://www.thairailwayticket.com/

                                                  จองตั๋วรถตู้ http://van.itthailand.net 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา (Pasaan, The Headwaters of the Chao Phraya River Symbol Building) ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านมาบรรจบกันและก่อกำเนิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนครสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม เดินเล่น ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพความสวยงามของอาคารและทิวทัศน์แม่น้ำโดยรอบกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ