สะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

  • อ่าน (7,053)
  • ByWebmaster
  • 15:54:50 | 9 พ.ย. 2560

สะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
The Bridge of the River Kwai, Kanchanaburi Province, Thailand

               สะพานข้ามแม่น้ำแคว สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสะพานของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานเหล็กสัญลักษณ์ของเมืองกาญจนบุรี ซึ่งได้จารึกเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ ไว้มากมาย ถ้าไม่ได้มาเหยียบบนสะพานนี้ถือว่ายังมาไม่ถึงกาญจนบุรีเลยทีเดียว


อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

ประวัติความเป็นมาของสะพานข้ามแม่น้ำแคว 

               สะพานข้ามแม่น้ำแคว หนึ่งในสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่กองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คน สร้างสะพานในระยะเวลาเพียง 1 เดือน โดยทางรถไฟสายนี้สร้างข้ามแม่น้ำแควใหญ่ เพื่อเป็นเส้นทางไปสู่ประเทศพม่า 

           การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ สร้างโดยการนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้น ๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและโครงสะพานเป็นไม้ ซึ่งการก่อสร้างเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทั้งความทารุณของสงคราม และโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง

           ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 สถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้ง จนสะพานท่อนกลางหัก เมื่อสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมสะพานขึ้นใหม่ ด้วยเหล็กรูปเหลี่ยมจนสามารถใช้งานได้ดังเดิม และในปัจจุบันได้มีการยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ (สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: http://www.kanchanaburi.go.th/)

การเดินทางไป จ.กาญจนบุรี

           กรุงเทพมหานคร-->กาญจนบุรี

การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไป จ.กาญจนบุรี

           การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี โดย มีระยะทาง 123 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง  ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีการเดินทางได้หลายวิธี ดังนี้

               - รถไฟ การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง ต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลศิริราช แถวตลาดศาลาน้ำร้อน (เส้นทางที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านคือ ธนบุรี - ศาลายา - นครปฐม - หนองปลาดุก - ท่าเรือ - กาญจนบุรี - สะพานแควใหญ่ - วังเย็น - บ้านเก่า - ท่ากิเลน - ถ้ำกระแซ - วังโพธิ์ - เกาะมหามงคล - น้ำตก) โดยมีเวลาให้บริการ 2 ขบวน คือ เวลา 07.45 น.และ เวลา 13.55 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1960, หรือเว็บไซต์ https://www.thairailwayticket.com/)

               - รถโดยสารประจำทาง การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร (สถานีขนส่งหมอชิต2) ไปยัง จ.กาญจนบุรี รถโดยสารจะออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารราคา 120 บาท โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1490, 0-2936-2852 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th สถานีเดินรถกาญจนบุรี โทร. 034-511387)

           การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร (สถานีขนส่งสายใต้ใหม่) ไปยัง จ.กาญจนบุรี รถโดยสารจะออกทุก 20 นาที ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารราคา 120 บาท โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1490, 0-2894-2634 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th สถานีเดินรถกาญจนบุรี โทร. 034-512855)

               - รถตู้สาธารณะ การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - พุทธมณฑล - นครปฐม - กาญจนบุรี ซึ่งมีจุดให้บริการทั่วกรุงเทพฯ ราคา 120 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-20.00 น. (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ท่าอนุสาวรีย์ชัยฯ ตรงวิคตอรี่พลาซ่า ซอยข้างโชว์รูมรถซูซูกิ  โทร. 08-2243-7387, ท่าปิ่นเกล้า โทร. 08-4414-7979, ท่าสายใต้ใหม่ โทร. 08-5297-2772, ท่ากาญจนบุรี โทร. 08-4414-5885)

               - รถยนต์ส่วนตัว จาก จ.กรุงเทพมหานคร สามารถเดินทางไป จ.กาญจนบุรี ได้หลายเส้นทาง แต่เส้นทางที่ใกล้ที่สุด คือ จากกรุงเทพมหานครเข้าสู่ถนนบรมราชชนนี ผ่านพุทธมณฑล มุ่งสู่ จ.นครปฐม ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 จากนั้นเปลี่ยนเส้นทางไปทางราชบุรี - บ้านโป่ง ขับตรงต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 4 จนเห็นป้ายกาญจนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 323) พอเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 323 แล้ว ก็ถือว่าเป็นเส้นหลักถนนแสงชูโต ที่วิ่งเข้าตัวจังหวัดกาญจนบุรี รวมเป็นระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตร

การเดินทางไป สะพานข้ามแม่น้ำแคว

               อ.เมือง-->สะพานข้ามแม่น้ำแคว


            - รถโดยสารประจำทาง การเดินทางจาก อ.เมือง ไปยัง สะพานข้ามแม่น้ำแคว มีระยะทาง 1.3 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้โดยใช้บริการรถสองแถวหรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่อยู่บริเวณขนส่งหรือตลาดภายในจังหวัด

                 - รถยนต์ส่วนตัว การเดินทาง จาก อ.เมือง ไปยัง สะพานข้ามแม่น้ำแคว ด้วยระยะทาง 1.3 กิโลเมตร วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 800 เมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนแควใหญ่ วิ่งตรงต่อไป 500 เมตร ก็จะเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

               สะพานข้ามแม่น้ำแคว เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน

จุดที่น่าสนใจภายใน

            - จุดให้บริการรถราง Fairmong

           จุดให้บริการรถราง "Fairmong" สำหรับนำนักท่องเที่ยวและประชาชนชมทัศนียภาพสองข้างทางของสะพานข้ามแม่น้ำแคว  ช่วงเวลาให้บริการ รอบเช้า เวลา 08.00 - 10.00 น. รอบบ่าย เวลา 12.00 - 14.00 น. อัตราค่าบริการท่านละ 20 บาท (สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรถราง Fairmong ได้ที่เบอร์โทร. 034-511285)

           - มูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม

           มูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตั้งอยู่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว โดยมีองค์เจ้าแม่กวนอิม สูง 18 เมตร สลักด้วยหินหยกขาวจากประเทศจีน รวม 88 ชิ้น น้ำหนักรวม 220 ตัน ยืนบนฐาน 8 เหลี่ยม มองเห็นได้ชัดเจนจากด้านสะพานฝั่งตะวันออก ศูนย์ปฎิบัติธรรมแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ศาสนา และเพื่อปลุกจิตสำนึกให้ผู้คนประพฤติปฏิบัติดี

อัตราค่าเข้าชม

           ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เข้าชมได้ทุกฤดูกาล หากนักท่องเที่ยวต้องการเก็บภาพบรรยากาศที่สวยงาม สามารถ ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง ได้ที่เว็บไซต์ พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/   

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแคว

           นักท่องเที่ยวควรเดินด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากปลายสะพานอีกฝั่งมีความสูงและไม่มีรั้วกันขอบสะพาน

           เมื่อรถไฟกำลังจะวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว จะมีสัญญาณเตือนดังขึ้น ให้นักท่องเที่ยวสังเกตสัญญาณเตือนดังกล่าว และให้ยืนหลบอยู่ในจุดที่ปลอดภัย

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม สะพานข้ามแม่น้ำแคว สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                             สะพานข้ามแม่น้ำแคว

                             อัตราค่าเข้าชม : ฟรีค่าเข้าชม

                             เวลาเปิด – ปิด : 24 ชั่วโมง ของทุกวัน

                             ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                             ตั้งอยู่ที่ : ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี 71000

                             โทรศัพท์ : (+66)34-512795 และ Call 1155

                             เว็บไซด์ : http://www.kanchanaburi.go.th/

                             ระดับความนิยม : 

                             ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :  พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/ 

                                                  จองตั๋วรถโดยสารประจำทาง http://www.busticket.in.th

                                                  จองตั๋วรถไฟ  https://www.thairailwayticket.com/

                                                  จองตั๋วรถตู้ http://van.itthailand.net 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา (Pasaan, The Headwaters of the Chao Phraya River Symbol Building) ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านมาบรรจบกันและก่อกำเนิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนครสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม เดินเล่น ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพความสวยงามของอาคารและทิวทัศน์แม่น้ำโดยรอบกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ