- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (4,285)
- By Webmaster
- 11:41:00 | 13 พ.ย. 2562
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
Atsuta Jingu Shrine, Nagoya, Japan
บรรยากาศอันร่มรื่นบริเวณด้านหน้าศาลเจ้าหลัก
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดหลังหนึ่งของศาสนาชินโตแห่งนี้ ถือเป็นศาลเจ้าที่มีความโดดเด่นทั้งด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และยังแวดล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่นของเมืองนาโกย่า ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาสักการะขอพรที่ศาลเจ้ากันหนาแน่นทุกวัน
แผนที่ตั้ง อัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
สถาปัตยกรรมของตัวศาลเจ้าหลัก
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine) ชินโต (Shintoism) เป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดศาสนาหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยความเชื่อ พิธีกรรม ประเพณีที่สืบทอดกันมาจากศาสนาชินโตนั้น ถือเป็นรากเหง้าของวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะพบเห็นได้จากการกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองวันปีใหม่ งานรับขวัญเด็กแรกเกิด พิธีศพ ฯลฯ ที่มีพื้นฐานมาจากคำสอน และธรรมเนียมปฎิบัติของศาสนาชินโตทั้งสิ้น โดย ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่ป่าไม้ดูร่มรื่นของเมืองนาโกย่าแห่งนี้ นับเป็นศาสนสถานที่บ่งบอกถึงความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์ของศาสนาชินโต ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความนับถือที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาศาลเจ้าประจำศาสนาชินโตที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ โดยมีการสันนิษฐานว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในสมัยของพระจักรพรรดิเคโกะ (Emperor Keiko) ที่ครองราชย์สมบัติในช่วงปี ค.ศ. 71 – 103 จึงนับเป็นศาลเจ้าที่มีอายุกว่า 1,900 ปีเลยทีเดียว
จุกสักการะขอพรประจำศาลเจ้า
บ่อน้ำล้างมือโบราณของศาลเจ้า
ศาลาเก็บถังสาเกที่ผู้มาสักการะศาลเจ้านำมาบริจาค
โดยปี ค.ศ. 1893 ช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังอยู่ในยุคสมัย (Meiji Period) ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และมีการเปลี่ยนรูปทรงทางสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าเป็นแบบชินเม (Shinmei-Zukuri) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมหลักของศาลเจ้าส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น โดยสถาปัตยกรรมแนวนี้มีต้นแบบมาจากศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเสะ (The Grand Shrine of Ise) ศาลเจ้าที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาชินโต ก่อนที่ต่อมาศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู แห่งนี้จะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1955 หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และนอกจากตัวศาลเจ้าหลักแล้ว ภายในพื้นที่ยังมีโบราณวัตถุน่าสนใจเกี่ยวกับศาสนาชินโตอีกหลายจุด ทั้งเสาโทริอิ (Torii) ไอคอนสำคัญที่เป็นภาพจำเวลานึกถึงศาสนาชินโต หรือจะเป็นรั้วโนบุนากะ (Nobunaga Wall) สิ่งก่อสร้างสำคัญที่เป็นเหมือนบันทึกสำคัญของโชกุนโอดะ โนบูนางะ (Oda Nobunaga) ซึ่งเคยมาขอพรที่ศาลเจ้านี้ก่อนทำศึกและได้ชัยชนะกลับมาในศึกแห่งโอเค ฮาซามะ (Okehazama) สงครามซามูไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดศึกหนึ่งของประเทศ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นจุดสักการะสำคัญที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพร เวลาจะต้องทำการแข่งขัน หรือเริ่มต้นทำอะไรสำคัญด้วย ทั้งยังมีบ่อน้ำล้างมือโบราณ ศาลาเก็บถังสาเกเก่าแก่ ฯลฯ ให้ได้ไปเดินชมอีกหลายจุด
เสาโทริอิประจำศาสนาชินโตของศาลเจ้า
ต้นการบูรอายุกว่า 1,000 ปีของศาลเจ้า
อีกหนึ่งจุดเด่นของศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู คือพื้นที่โดยรอบซึ่งแวดล้อมไปด้วยป่าไม้ดูร่มรื่นเหมาะแก่การมาเดินเล่นที่สุด มีต้นการบูรสูงใหญ่อายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งบริเวณโคนต้นไม้จะมีไข่ที่คนในพื้นที่นำมาถวายตามความเชื่อของคนในพื้นที่ว่าต้นการบูรนี้เป็นที่สิ่งสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลเจ้า และมีความเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่เก็บ ดาบคุซานางิ (Kusanagi Sward) หนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ระดับตำนานของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แม้จะยังไม่มีการนำออกมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันก็ตาม แต่ศาลเจ้าก็มีพิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta Shrine Museum) เป็นอาคารที่จัดแสดงวัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นกว่า 4,000 ชิ้น ที่ได้รับการดูแลอย่างดี เป็นเหตุทำให้ที่นี่ สมควรต่อการถูกยกให้เป็นศาลเจ้าที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
โครงสร้างของศาลเจ้าที่ใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก
จุดเขียนแผ่นไม้ขอพรของศาลเจ้า
การเดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า
การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์สามารถทำได้อย่างสะดวก เพราะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยสารระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทเรียงรายอยู่บริเวณเดียวกับอาคารผู้โดยสารขาเข้า
- รถยนต์ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที อ่านบทความเกี่ยวกับการเช่าและใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=602
- รถบัส จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัส (Centrair Bus Terminal) ที่ป้ายรอรถบัสหมายเลข 6 ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงกับอีก 15 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/bus.html
- รถไฟ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถไฟที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เพื่อไปลงที่สถานี Nagoya Station ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/train.html
อ่านบทความวิธีเดินทางเข้าเมืองนาโกย่าจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ อย่างละเอียดได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=736
การเดินทางจากศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่าไปยังศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยังศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Tokaido Line เพื่อไปลงที่สถานี Atsuta Station ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึง ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดตลอดเวลา / พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ เปิดเวลา 09:00 น. – 16:30 น.
ทางเดินปูหินที่กว้างขวางและขนาบไปด้วยพื้นที่สีเขียวของศาลเจ้า
อัตราค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี แต่ส่วนพิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 300 เยน
ป้ายแสดงข้อมูลน่าสนใจต่างๆ ของศาลเจ้า
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ต้นการบูรที่ปลูกอยู่ภายในศาลเจ้า
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
(Atsuta Jingu Shrine, Nagoya, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี แต่จะมี พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ที่ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 300 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา / พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เปิดเวลา 09:00 น. – 16:30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองนาโกย่า, ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 52-671-0010
เว็ปไซต์ : http://www.atsutajingu.or.jp/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนาโกย่า https://www.nagoya-info.jp/th/information/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของประเทศญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ