เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"นโยบายความเป็นส่วนตัว
โฮซิเออร์ เลน เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
Hosier Lane, Melbourne, Australia
เมลเบิร์นได้ชื่อว่าเป็นเมืองของ Stencil Art หรือ “Stencil Capital of the World” โดยเป็นที่แรกที่จัดงาน Stencil Festival in the World ในปีค.ศ. 2004 ตรอกซอยหรือถนนในเมลเบิร์นซึ่งเป็นที่แสดงผลงานกราฟิตี้นั้นมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน หนึ่งใน Laneway จุดสำคัญๆ ของเมืองที่สามารถหาชมผลงานกราฟิตี้ชั้นดีได้คือ โฮซิเออร์ เลน (Hosier Lane)
ประวัติ
แรกเริ่มกราฟิตี (Graffiti) หรือ สตรีทอาร์ต (Street Art) ในเมลเบิร์นนั้นได้รับอิทธิพลมากจากกราฟิตีที่ New York ในช่วงปีค.ศ. 1970 – 1980 ซึ่งเป็นการใช้สีสเปรย์พ่น เดิมกราฟฟิตีถือเป็นภัยคุกคามในเมลเบิร์นที่ทางเมืองต้องใช้งบประมาณเป็นพันๆ ดอลลาร์ทุกปีเพื่อทำความสะอาด แต่ปัจจุบันกราฟฟิตีถือเป็นศิลปะที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของเมืองซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเมืองนี้ กราฟิตีหรือสตรีทอาร์ตเป็นดังเฟรมผ้าใบผืนใหญ่ของเมืองเมลเบิร์นที่ดึงดูดให้ผู้คนอยากเดินทางมาชื่นชมผลงานศิลป์ที่เปิดกว้าง และการฝึกฝนศิลปะร่วมสมัยในถนนสายนี้ก็เป็นจุดกำเนิดศิลปินกราฟฟิตีจำนวนมากของเมืองที่ทำให้หลายๆ คนกลายเป็นศิลปินแนวสตรีทชื่อดังด้วยเช่นกัน
โฮซิเออร์ เลน (Hosier Lane) เป็นถนนสายเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสตรีทอาร์ตที่ทำให้วงการศิลปะเมืองเมลเบิร์นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก งานศิลปะกราฟิตีบนถนนสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ City Lights ซึ่งริเริ่มโดย Andrew Mac โดยโครงการนี้ได้เล็งเห็นถึงการสร้างนิยามใหม่ของคำว่า “หอศิลป์” และต้องการปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินเท้าบางส่วนของเมลเบิร์นให้กลายเป็นแกลเลอรีศิลปะที่เปิดให้ศิลปินท้องถิ่นและศิลปินจากนานาชาติได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนถนน สำหรับกราฟิตีบนถนน Hosier Lane ในฐานะของแกลลอรีศิลปะนั้นได้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1998
ภายในถนนโฮซิเออร์ เลน ทั้งเส้นนั้นเต็มไปด้วยผลงานศิลปะสีสันโฉบเฉี่ยวบนผนังอาคาร อาทิ ภาพการ์ตูน ภาพใบหน้าแวมไพร์ ภาพสัตว์ประหลาด ภาพนินจา รวมถึงภาพล้อเลียนนักการเมืองของออสเตรเลีย และอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกราฟฟิตีที่นี่มากถึงราวๆ 5,000 คนต่อวัน นอกจากเพลิดเพลินไปกับสีสันของศิลปะและความคึกคักบนท้องถนนแล้ว บริเวณรอบๆ โฮซิเออร์ เลน ยังเรียงรายไปด้วยคาเฟ่ บาร์ และร้านอาหาร ซึ่งเป็นจุดนัดพบยอดนิยมอีกจุดหนึ่งของชาวเมลเบิร์นและนักท่องเที่ยว
ภาพกราฟฟิตีบนผนังอาคารสองข้างทางของโฮซิเออร์ เลน
งานศิลปะกราฟิตีบนถนนสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ City Lights
กราฟิตีบนผนังอาคารที่ถนนสายนี้คือแกลเลอรีศิลปะที่เปิดให้ศิลปินได้แสดงออกอย่างอิสระ
ภาพกราฟฟิตีบนผนังอาคารของโฮซิเออร์ เลนมีทั้งภาพสวยงามและเสียดสี
Hosier Lane
การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง
ท่าอากาศยานเมลเบิร์น หรือ “ท่าอากาศยานทัลลามารีน” (Tullamarine Airport) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สนามบินเมลเบิร์น” หรือที่คนท้องถิ่นนิยมเรียกว่า “สนามบินทัลลามารีน” เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเพราะเมลเบิร์นมีมากกว่าหนึ่งสนามบิน โดยสนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินหลักของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย
การเดินทางจากสนามบินไปยัง Flinders Street Railway Station ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมรวมทั้งยังเป็นจุดนัดพบสำคัญที่อยู่ใจกลางตัวเมืองเมลเบิร์น มีระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและรูปแบบการเดินทางที่นักท่องเที่ยวเลือก โดยสนามบินเมลเบิร์นยังไม่มีเส้นทางรถไฟที่รวดเร็วให้บริการ การใช้รถชัตเทิลบัสสนามบิน หรือแท็กซี่ จึงยังเป็นทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วที่สุด
- รถยนต์ (Car) จากสนามบินเมลเบิร์นไปยัง Flinders Street Railway Station โดยใช้ทางหลายหมายเลข M2 มีระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- รถประจำทาง (Bus) มีบริการรถประจำทาง SkyBus รับส่งระหว่างสนามบินเมลเบิร์นกับตัวเมือง โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่ง SkyBus จากสนามบินมาลงที่ Skybus Coach Terminal ที่อยู่ใกล้ๆ กับ Flinder Street Railway Station เพียงเดินราวๆ 8 นาที
- แท็กซี่ (Taxi) สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ มีบริการรถแท็กซี่บริเวณหน้าอาคารผู้โดยสาร จากสนามบินเมลเบิร์นไปยัง Flinders Street Railway Station มีค่าบริการประมาณ 60 AUD
- รถไฟ (Train) ไม่มีรถไฟให้บริการจากสนามบินเมลเบิร์นโดยตรง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟนักท่องเที่ยวจะต้องนั่ง SkyBus หรือรถประจำทางสาย 901 จากสนามบินมาลงที่ Broadmeadows Station เพื่อขึ้นรถไฟสาย Craigieburn City ไปยัง Flinders Street Railway Station ใช้เวลาในการเดินทางโดยรวมประมาณ 40 - 50 นาที
การเดินทางไป Hosier Lane
- เดิน (Footpath) จากสถานีรถไฟ Flinders Station ไป Hosier Lane วิธีที่สะดวกและใช้เวลาสั้นที่สุดคือการเดิน โดยใช้เวลาประมาณ 4 นาที ระยะทาง 270 เมตร ส่วนวิธีการเดินทางอื่นๆ ด้วยรถสาธารณะหรือรถยนต์จะมีเส้นทางที่อ้อมออกไปและใช้เวลานาน
เวลาทำการเปิด – ปิด
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Hosier Lane ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
ภาพกราฟิตี้เสียดสี
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Hosier Lane คือการถ่ายคู่กับกราฟิตี้สวยๆ บนผนังอาคาร และแวะเข้าไปสำรวจคาเฟ่หรือบาร์ที่มีให้เลือกหลากหลายในบริเวณใกล้เคียงและดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองเมลเบิร์น
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารเดินทางไปเที่ยวชม Hosier Lane ได้ตลอดทั้งปี
ส่วนหนึ่งของกราฟิตี้ที่โฮซิเออร์ เลน
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
Stencil Art คือศิลปะการออกแบบลวดลายรูปภาพหรือตัวอักษรลงบนแผ่นกระดาษพลาสติก แผ่นกระดาษแข็ง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในรูปแบบของกราฟิตี แล้วตัดกระดาษตามลวดลายที่ออกแบบไว้ จากนั้นนำไปฉีดสเปรย์หรือทาสีทับลงไปตามลายฉลุที่ออกแบบไว้ทำให้เกิดเป็นรูปลายนั้นๆ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Hosier Lane สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
โฮซิเออร์ เลน เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
(Hosier Lane, Melbourne, Australia)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ตั้งอยู่ที่ : Hosier Lane, Melbourne 3000
โทรศัพท์ : -
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวเมืองเมลเบิร์น https://www.visitmelbourne.com
การท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลีย https://www.australia.com
ระบบขนส่งสาธารณะรัฐวิคตอเรีย https://www.ptv.vic.gov.au
ประเทศนิวซีแลนด์นั้นขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศทั้งบนเกาะเหนือและเกาะใต้ โดยจุดเด่นของเกาะเหนือคืออุทยานความร้อนใต้พิภพ ส่วนจุดเด่นของเกาะใต้คือเทือกเขาและทะเลสาบ ในบทความนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวที่เกาะใต้ ซึ่งสามารถเดินทางมาด้วยการต่อเครื่องบินจากสนามบินโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศนิวซีแลนด์ที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือ มาลงยังสนามบิน ควีนส์แลนด์หรือสนามบินไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ เพื่อไปชม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะใต้ที่ไม่ควรพลาดดังต่อไปนี้
อ่านต่อสวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณอันหลากหลายที่สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล เพราะจะมีต้นไม้และดอกไม้เติบโตและผลิบานแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เช่น ดอกกุหลาบที่บานในช่วงฤดูร้อน ดอกแดฟโฟดิลที่บานในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และในฤดูหนาวก็สามารถชมพรรณไม้นานาพันธุ์ได้ในเรือนกระจกบรรยากาศสบายๆ ที่เปิดให้เที่ยวชมตลอดช่วงฤดูหนาว ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจบนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์
อ่านต่อสกายไลน์ควีนส์ทาวน์ (Skyline Queenstown) เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ และจะต้องขึ้นลงด้วยกระเช้ากอนโดล่าเท่านั้น ซึ่งกระเช้ากอนโดล่านี้เป็นกระเช้าที่มีความชันที่สุดในซีกโลกใต้เลยทีเดียวจึงทำให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมไฮไลท์ของเมืองควีนส์ทาวน์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยด้านบนจะมองเห็นเมืองควีนส์ทาวน์ ทะเลสาบวาคาตีปู และเทือกเขาสูงต่างๆ ที่โอบล้อมเมืองและทะเลสาบอยู่ ซึ่งเป็นทัศนียภาพในแบบพาโนรามาที่สวยงามเป็นอย่างมาก
อ่านต่อซิดนีย์ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบคลาสสิก บรรยากาศชายหาดอันผ่อนคลายๆ แบบออสซี่ ย่านช้อปปิ้ง ห้างหรู ไปจนถึงพื้นที่สีเขียวริมอ่าว และตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกก็รวมกันอยู่ ณ มหานครแห่งนี้อย่างกลมกล่อมและครบทุกมิติ Palanla จะพาไปชม 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกติดอันดับ 4 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit (EIU) ประจำปี 2023
อ่านต่อบริสเบน (Brisbane) นอกจากจะเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจแล้ว เมืองนี้ยังเป็นเมืองชายทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของแดนจิงโจ้โดยเป็นเมืองตากอากาศที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla จะพาออกเดินทางไปค้นหา 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบริสเบนที่คุณจะต้องชื่นชอบ
อ่านต่อสะพานสตอรี่ (Story Bridge) สะพานเหล็กอันเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองบริสเบน ที่ทอดข้ามแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ประเทศออสเตรเลีย สตอรี่บริดจ์ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางคมนาคมเท่านั้น ทว่ายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบริสเบนอีกด้วย
อ่านต่ออาสนวิหารแองกลิกันเซนต์จอห์น (Saint John’s Anglican Cathedral) เป็นอาสนวิหารงามสง่าในรูปแบบฟื้นฟูกอธิคในเมืองบริสเบนที่สร้างมานานกว่า 122 ปี
อ่านต่ออนุสรณ์สถานจัตุรัสแอนแซค (Anzac Square Memorial) เป็นสถานที่สำคัญในเมืองบริสเบนและเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพต่อผู้ที่เสียสละชีวิตรับใช้ประเทศออสเตรเลียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
อ่านต่อตลาดเซาธ์ แบงค์ (South Bank Market) เป็นตลาดที่คึกคัก มีชีวิตชีวา ละลานตาไปด้วยร้านค้าต่างๆ รวมถึงอาหารอร่อยๆ กับบรรยากาศแสนผ่อนคลายและทัศนียภาพที่สวยงามริมแม่น้ำบริสเบน
อ่านต่อเซาธ์ แบงค์ พาร์คแลนด์ (South Bank Parklands) 1 ใน 7 สวนสาธารณะของออสเตรเลียที่ได้รับรางวัล Green Flag Award (ปี ค.ศ.2016) ซึ่งเป็นรางวัลด้านความเป็นเลิศในเรื่องพื้นที่สีเขียว มีเส้นทางเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และท่าเรือเลียบไปกับแม่น้ำบริสเบนที่ไหลผ่านกลางเมือง
อ่านต่อประเทศนิวซีแลนด์นั้นขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศทั้งบนเกาะเหนือและเกาะใต้ โดยจุดเด่นของเกาะเหนือคืออุทยานความร้อนใต้พิภพ ส่วนจุดเด่นของเกาะใต้คือเทือกเขาและทะเลสาบ ในบทความนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวที่เกาะใต้ ซึ่งสามารถเดินทางมาด้วยการต่อเครื่องบินจากสนามบินโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศนิวซีแลนด์ที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือ มาลงยังสนามบิน ควีนส์แลนด์หรือสนามบินไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ เพื่อไปชม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะใต้ที่ไม่ควรพลาดดังต่อไปนี้
อ่านต่อสวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณอันหลากหลายที่สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล เพราะจะมีต้นไม้และดอกไม้เติบโตและผลิบานแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เช่น ดอกกุหลาบที่บานในช่วงฤดูร้อน ดอกแดฟโฟดิลที่บานในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และในฤดูหนาวก็สามารถชมพรรณไม้นานาพันธุ์ได้ในเรือนกระจกบรรยากาศสบายๆ ที่เปิดให้เที่ยวชมตลอดช่วงฤดูหนาว ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจบนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์
อ่านต่อสกายไลน์ควีนส์ทาวน์ (Skyline Queenstown) เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ และจะต้องขึ้นลงด้วยกระเช้ากอนโดล่าเท่านั้น ซึ่งกระเช้ากอนโดล่านี้เป็นกระเช้าที่มีความชันที่สุดในซีกโลกใต้เลยทีเดียวจึงทำให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมไฮไลท์ของเมืองควีนส์ทาวน์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยด้านบนจะมองเห็นเมืองควีนส์ทาวน์ ทะเลสาบวาคาตีปู และเทือกเขาสูงต่างๆ ที่โอบล้อมเมืองและทะเลสาบอยู่ ซึ่งเป็นทัศนียภาพในแบบพาโนรามาที่สวยงามเป็นอย่างมาก
อ่านต่อซิดนีย์ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบคลาสสิก บรรยากาศชายหาดอันผ่อนคลายๆ แบบออสซี่ ย่านช้อปปิ้ง ห้างหรู ไปจนถึงพื้นที่สีเขียวริมอ่าว และตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกก็รวมกันอยู่ ณ มหานครแห่งนี้อย่างกลมกล่อมและครบทุกมิติ Palanla จะพาไปชม 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกติดอันดับ 4 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit (EIU) ประจำปี 2023
อ่านต่อบริสเบน (Brisbane) นอกจากจะเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจแล้ว เมืองนี้ยังเป็นเมืองชายทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของแดนจิงโจ้โดยเป็นเมืองตากอากาศที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla จะพาออกเดินทางไปค้นหา 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบริสเบนที่คุณจะต้องชื่นชอบ
อ่านต่อสะพานสตอรี่ (Story Bridge) สะพานเหล็กอันเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองบริสเบน ที่ทอดข้ามแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ประเทศออสเตรเลีย สตอรี่บริดจ์ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางคมนาคมเท่านั้น ทว่ายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบริสเบนอีกด้วย
อ่านต่อ