10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย

Top 10 Travel Destinations in Surat Thani, Thailand

             สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย ทั้งภูเขา ทะเล และเกาะน้อยใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน บวกกับความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยศรีวิชัย สุราษฎร์ธานีจึงเป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับใครต่อใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ และต้องการดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ ศิลปะในขณะเดียวกัน

1. เกาะสมุย

           เกาะสมุยถือเป็นเกาะหลักของจ.สุราษฏร์ธานี และยังเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ตและเกาะช้าง และแม้ว่าเกาะสมุยจะตั้งอยู่ในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย แต่ความสวยงามของน้ำทะเลและชายหาดต่างๆนั้นก็ไม่แพ้เกาะอื่นๆที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทะเลอันดามัน และยังมีเอกลักษณ์จากต้นมะพร้าวจำนวนนับไม่ถ้วนบนเกาะ

           นอกจากชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่างหาดเฉวง หรือหาดละไม และแลนด์มาร์คอย่างหินตาหินยาย บนเกาะสมุยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายรูปแบบที่มีความน่าสนใจ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างน้ำตกหน้าเมือง น้ำตกหินลาด หรือสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างวัดพระใหญ่ วัดปลายแหลม หรือศาลเจ้ากวนอู บนเกาะแห่งนี้จึงสามารถตอบสนองการท่องเที่ยวได้ทุกรูปแบบ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการดำน้ำหรือเล่นน้ำทะเลเท่านั้น

การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถตู้ของบริษัทต่างๆทั้งจากสนามบิน สถานีรถไฟ และตัวเมืองสุราษฏร์ธานี มายังท่าเรือเฟอรี่สุราษฏร์ - เกาะสมุย ในราคาประมาณ 150 บาท ส่วนค่าเรือเฟอรี่ราคาเที่ยวละ 250 บาท

พิกัด GPS : 9°30'38.1"N 100°00'30.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะสมุยได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=129

2. หมู่เกาะอ่างทอง

            หมู่เกาะอ่างทองเป็นหมู่เกาะในจ.สุราษฏร์ธานีที่มีสถานะเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะขนาดต่างๆ จำนวนถึง 42 เกาะ มีเกาะที่มีชื่อเสียงอย่างเกาะพะลวย เกาะวัวตาหลับ และเกาะแม่เกาะ มีชื่อเสียงจากน้ำทะเลที่ใสสะอาด และมีหมู่ปะการังมากมาย นักท่องเที่ยวจึงนิยมเดินทางมาเพื่อดำน้ำ พายเรือคายัค และทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างจุดชมวิวผาจันทร์จรัสบนเกาะวัวตาหลับ และทะเลใน ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำสีเขียวมรกตที่ตั้งอยู่บนเกาะแม่เกาะ

            เนื่องจากหมู่เกาะอ่างทองอยู่ห่างจากเกาะสมุยและเกาะพะงันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อทัวร์จากเกาะทั้งสองแห่งนี้ ซึ่งมีทั้งทัวร์แบบ 1 วันและแบบค้างคืน โดยทัวร์แบบ 1 วันมีราคาประมาณ 900 – 1,500 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของเรือ (เรือใหญ่, สปีดโบ๊ท)

การเดินทาง : นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปยังหมู่เกาะอ่างทองจาเกเกาะสมุย โดยการซื้อทัวร์แบบ 1 วัน หรือแบบพักค้างคืน ซึ่งมีให้เลือกทั้งการเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ท และเรือลำใหญ่ ค่าทัวร์แบบ 1 วันเริ่มต้นที่ 900 - 1,500 บาท

พิกัด GPS : 9°39'29.9"N 99°39'57.7"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมู่เกาะอ่างทองได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=130

3. เกาะนางยวน

           เกาะนางยวนเป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือไม่ไกลจากเกาะเต่า มีลักษณะเป็นเกาะขนาดย่อยสามแห่งที่เชื่อมต่อกันด้วยหาดทรายสีขาวเป็นแนวยาว จนเกิดสันทรายเป็นลักษณะที่เรียกกันว่า “ทะเลแหวก” นอกจากนี้ น้ำทะเลของชายหาดทั้งสามด้านยังมีความใสสวยงาม และสามารถพบเห็นสัตว์น้ำสายพันธุ์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย จึงเป็นที่นิยมในการดำน้ำตื้น (Snorkelling) และยังมีจุดชุมวิวมุมสูงที่สามารถชมภาพของทะเลแหวกและตัวเกาะอีกฝั่งหนึ่งได้อย่างงดงาม

           นอกจากนี้ เกาะนางยวนมีการจำกัดการเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. เท่านั้น และมีรีสอร์ทให้บริการเพียงแห่งเดียวบนเกาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืน และยังมีข้อห้ามที่เข้มงวดในการนำขวดพลาสติกขึ้นไปบนเกาะ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและธรรมชาติไม่ให้ได้รับความเสียหายจากขยะเหล่านี้

การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังเกาะนางยวนจากเกาะเต่า ทั้งจากการซื้อทัวร์แบบ 1 วันจากบริษัทต่างๆ ในราคาประมาณ 1,000 - 1,500 บาท หรือใช้บริการเรือหางยาวของชาวประมงที่จอดอยู่ตามชายหาด ซึ่งมีราคาไปกลับประมาณคนละ 400 บาท

พิกัด GPS : 10°07'19.2"N 99°48'46.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะนางยวนได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=131

4. เกาะเต่า

           เกาะเต่าถือเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากที่สุด เนื่องจากความสงบจากระยะทางที่อยู่ค่อนข้างไกลจากแผ่นดินใหญ่ และความสวยงามของท้องทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นแหล่งดำน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองโลกรองจากออสเตรเลีย ซึ่งบนเกาะมีการเปิดคอร์สสอนดำน้ำระดับมืออาชีพอย่างแพร่หลายทั้งในรูปแบบระยะสั้นและระยะยาว โดยมีจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียง 3 จุดหลักคือ กองหินชุมพร หินใบ และกองหินตุ้งกู

           บนเกาะเต่ายังมีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง เช่นหาดโฉลกบ้านเก่า อ่าวหินวง และหาดทรายรี แต่เนื่องจากลักษณะทางภูมิประเทศของเกาะเต่าที่เป็นภูเขาสูง และพื้นที่ติดทะเลบางส่วนเป็นโขดหิน ชายหาดบางแห่งบนเกาะเต่าจึงสามารถเข้าถึงได้เฉพาะการนั่งเรือจากจุดอื่นๆเข้าไปเท่านั้น และยังมีจุดชมวิวมุมสูงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือ จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ

การเดินทาง : การเดินทางมายังเกาะเต่าจากสุราษฏร์ธานี จะต้องขึ้นเรือเฟอรี่ของบริษัทลมพระยา ซึ่งจะแวะจอดที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเก่าเต่าเป็นลำดับสุดท้าย ค่าโดยสารแบบรวมทั้งรถรับส่งจากสนามบินหรือสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีและค่าเรือเฟอรี่คนละ 1,000 บาท

พิกัด GPS : 10°04'58.4"N 99°50'17.7"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะเต่าได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=132

5. ฟูลมูนปาร์ตี้ เกาะพะงัน

           เกาะพะงัน เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะสมุยและเกาะเต่า และมีชื่อเสียงมานับตั้งแต่ในอดีตเมื่อครั้งที่ร.5 เสด็จมาประพาสบนเกาะแห่งนี้หลายต่อหลายครั้ง จนนำมาสู่การตั้งชื่อสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆบนเกาะมาจนถึงปัจจุบัน เช่นหาดธารเสด็จ และน้ำตกธารเสด็จ บรรยากาศบนเกาะค่อนข้างเงียบสงบและมีความเป็นชุมชนท้องถิ่นมากกว่าเกาะอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง

           สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับเกาะพะงัน และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มารวมตัวกัน ก็คืองานฟูลมูนปาร์ตี้ ซึ่งเป็นงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นบริเวณหาดริ้นเพียงเดือนละครั้งในคืนพระจันทร์เต็มดวง แต่ละครั้งมีผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่าหมื่นคน ภายในงานนอกจากจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานจากเสียงเพลงแล้ว ยังมีการสร้างบรรยากาศจากการโชว์ควงกระบองไฟตามชายหาด และการประดับตกแต่งร่างกายด้วยการเพนท์หรือติ๊ดสติ๊กเกอร์เรืองแสงต่างๆเข้าร่วมงาน

การเดินทาง : การเดินทางมายังเกาะพะงัน หากเริ่มต้นจากสุราษฏร์ธานี จะต้องขึ้นเรือเฟอรี่ของบริษัทลมพระยา ซึ่งจะแวะจอดที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ค่าโดยสารแบบรวมทั้งรถรับส่งจากสนามบินหรือสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีและค่าเรือเฟอรี่คนละ 850 บาท และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเกาะพะงันจากเกาะสมุย จะมีเรือเฟอรี่ของบริษัทต่างๆที่ให้บริการในราคาเที่ยวละ 300 บาท

              การเดินทางไปยังงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่หาดริ้น จากท่าเรือท่าศาลาของเกาะพะงัน จะมีรถสองแถววิ่งให้บริการตลอดทั้งคืนในราคาเที่ยวละ 100 บาท

เวลาเปิดทำการ : งานฟูลมูนปาร์ตี้จัดขึ้นเดือนละครั้ง ในคืนพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางการจัดงานในแต่ละเดือนได้ที่ https://www.facebook.com/FullMoonParty/

พิกัด GPS : 9°40'33.7"N 100°04'04.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟูลมูนปาร์ตี้ เกาะพะงันได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=133

6. อุทยานแห่งชาติเขาสก

           อุทยานแห่งชาติเขาสกเป็นผืนป่าที่มีความยิ่งใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของภาคใต้ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 461,712.5 ไร่ สภาพทั่วไปเป็นภูเขาดินและภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อนและมีแนวหน้าผาสูงชัน ด้านทิศเหนือคือที่ตั้งของเขื่อนรัชชประภา ที่มีบรรยากาศของทะเลสาบสีมรกตสวยงาม และอุดมสมบูรณ์

           กิจกรรมที่เป็นที่นิยม อาทิ การล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง ดูนก และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งไฮไลต์ของการเดินป่าที่เขาสกคือการตามหา “บัวผุด” ดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เส้นผ่าศูนย์กลางของตัวดอกประมาณ 70 - 80 เซนติเมตร ซึ่งจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงมกราคม

การเดินทาง : จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้เส้นทางสุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า (ทางหลวงหมายเลข 401) ถึงกิโลเมตรที่ 109 มีแยกขวาไปอีก 1.5 กิโลเมตร ถึงบริเวณที่ทำการอุทยานฯ หรือจากสถานีรถไฟ อำเภอพุนพิน สุราษฎร์ธานี มีรถประจำทางสายพุนพิน - ภูเก็ต ลงรถบริเวณกิโลเมตรที่ 109 แล้วต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ 

             ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางด้วยบริการรถตู้สาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถเลือกต้นทางได้จากสถานที่สำคัญ เช่น ตลาดสดเกษตร 2, สนามบินสุราษฎร์ธานี, สถานีขนส่งสุราษฎร์ธานี และปากทางเข้าเขื่อนรัชชประภา โดยรถตู้จะพานักท่องเที่ยวมาส่งถึงที่บริษัทรถตู้ ตำบลคลองสก อ.พนม บริเวณ กม. ที่ 401 จากนั้นต้องนั่งรถจ้างเข้าไปยังอุทยานหรือที่พัก

เวลาเปิดทำการ : 08.00 – 17.00 น.

ค่าเข้าชม : ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติ 40 บาท

พิกัด GPS : 8°54'55.7"N 98°31'42.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติเขาสกได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=152

7. เขื่อนรัชชประภา

           เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลานเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสกที่ครอบคลุมพื้นที่กว่าสี่แสนไร่ ภาพทิวทัศน์ของภูเขาหินปูนลูกน้อยใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือทะเลสาบสีเขียวมรกตกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นบรรยากาศที่สวยงาม สงบ และเป็นเอกลักษณ์ ของที่นี่ ที่ดึงดูดให้ใครๆ ต่างก็อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

           นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือชมความงามขุนเขากลางทะเลสาบที่ได้รับการขนานนามให้เป็นกุ้ยหลินแห่งเมืองไทย และพักค้างคืนที่แพในเขื่อนเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติภายในเขื่อน นอกจากนี้ยังมีถ้ำสวยงามหลายแห่ง รวมถึงเส้นทางเดินป่าศึกษาพรรณไม้หายากและสัตว์ป่าหลายชนิด

การเดินทาง : จากอำเภอเมืองฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 401 แยกเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส.2 (เชี่ยวหลาน) ตรงหลักกิโลเมตรที่ 60 ระยะทาง 14 กิโลเมตร ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางด้วยบริการรถตู้สาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถเลือกต้นทางได้จากสถานที่สำคัญ เช่น ตลาดสดเกษตร 2, สนามบินสุราษฎร์ธานี, สถานีขนส่งสุราษฎร์ธานี และปากทางเข้าเขื่อนรัชชประภา โดยรถตู้จะพานักท่องเที่ยวมาส่งถึงที่บริเวณท่าเรือเทศบาลเขื่อนรัชชประภา

เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 16.00 น.

ค่าเข้าชม : ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติ 40 บาท

พิกัด GPS : 8°58'21.0"N 98°48'20.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขื่อนรัชชประภาได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=153
 

8. วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร

           วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารเป็นวัดที่มีสำคัญคู่บ้านคู่เมืองชาวไชยาและสุราษฎร์ธานีมาตั้งแต่โบราณกาล สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 13 - 14 เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ ยังเป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของช่างศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยไว้ได้อย่างสมบูรณ์

           แม้จะผ่านกาลเวลามานานหลายยุคหลายสมัย แต่ร่องรอยทางโบราณสถานที่แสดงให้เห็นถึงศรัทธาและความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาอย่างสูงสุดในขณะนั้นยังคงปรากฏให้เห็นได้อย่างเด่นชัดแม้ในปัจจุบัน

การเดินทาง : วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารอยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 54 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 41 และแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 4011 เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 137 ก่อนถึงทางรถไฟ วัดอยู่ด้านขวามือ

เวลาเปิดทำการ : 08.00 - 16.00 น.

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

พิกัด GPS : 9°23'04.5"N 99°11'03.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=155

9. สวนโมกขพลาราม

           สวนโมกขพลาราม หรือชื่อเรียกทางการว่า วัดธารน้ำไหล ตั้งอยู่อำเภอไชยา เป็นวัดที่พระธรรมโกศาจารย์ หรือ ท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นผู้เริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2502 วัตถุประสงค์ของการสร้างวัดแห่งนี้เพื่อให้เป็นสถานที่แสวงหาความสงบและศึกษาธรรม  ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ยกย่องให้ท่านเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษาศาสนา วัฒนธรรม และสันติภาพในปี พ.ศ. 2549

           ภายในวัดปราศจากโบสถ์และศาลาอย่างวัดทั่วไป รอบๆ บริเวณเป็นสวนป่าร่มรื่น เต็มไปด้วยปริศนาธรรม เหมาะสำหรับเป็นที่ฝึกอบรมจิตใจและศึกษาพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังมีการสอนฝึกสมาธิสำหรับทั้งคนไทยและต่างประเทศ

การเดินทาง : โดยรถยนต์ สามารถเดินทางมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ประมาณ กม.ที่ 135-136 โดยรถไฟ ลงที่สถานีไชยา จากนั้นนั่งรถสองแถวสีฟ้า ไชยา-สวนโมกข์-พุนพิน (สายบน) มายังสวนโมกข์

              โดยรถตู้สาธารณะ เดินทางโดยรถตู้สายเกษตร 2 – ไชยา

เวลาเปิดทำการ : 08.00 - 17.00 น.

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

พิกัด GPS : 9°21'36.9"N 99°10'16.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนโมกขพลารามได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=156

10. วัดถ้ำสิงขร

           วัดถ้ำสิงขร ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นวัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นสถานที่ที่สำรวจพบเครื่องมือเครื่องใช้ สมัยหินกลาง สมัยหินใหม่ และสมัยโลหะ ถ้ำสิงขรเป็นแหล่งโบราณคดีที่ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2480

           ภายในวัดมีถ้ำขนาดใหญ่ ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปปูนปั้นปางป่าเลไลยก์ ตามแนวของผนังภายในถ้ำมีพระพุทธรูปเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยบริเวณผนังถ้ำนั้นตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น รูปเทวดา ยักษ์ และสัตว์ในเทพนิยาย ส่วนเพดานเป็นลวดลายก้านขด บางส่วนใช้กระเบื้องถ้วยชามประดับ  

การเดินทาง : วัดถ้ำสิงขรอยู่ห่างจากอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 50 กิโลเมตร ถนนสายสุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า ระหว่างกิโลเมตรที่ 34 - 35 จะมีทางแยกเข้าวัดระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

เวลาเปิดทำการ : 08.30 - 16.30 น.

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

พิกัด GPS : 9°02'34.2"N 99°02'23.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดถ้ำสิงขรได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=154

ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : 

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ

  www.accuweather.com

- สำนักงานการท่องเที่ยว จ.สุราษฎร์ธานี

  https://suratts.mots.go.th/

- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

  https://thai.tourismthailand.org/ 

- บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) 

  http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com 

- สกุลเงินที่ใช้ : บาท (THB)

แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศไทย

- Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศไทย

- Google Map​ สามารถดาวน์โหลดได้ App Store (iOS) และ Play Store (Android)