7 สะพานสวยเมืองไทย น่าไปเช็กอิน

  • อ่าน (1,768)
  • ByWebmaster
  • 13:28:31 | 8 ก.ย. 2565

7 สะพานสวยเมืองไทย น่าไปเช็กอิน

             หากเอ่ยถึงสะพานสวยๆ ในประเทศไทย แน่นอนว่าคงมีสะพานหลายๆ แห่งที่เคยได้ผ่านหูผ่านตาปรากฏขึ้นมาในจินตภาพของเรา บ้างชัดเจน บ้างเพียงรางๆ… Palanla จะพาไปชม 7 สะพานสวยในประเทศไทยแบบใกล้ๆ ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว แต่ละแห่งยังมีที่มาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว


แผนที่แสดงตำแหน่งสะพานทั้ง 7 แห่ง


1. สะพานพุทธยอดฟ้า

             สะพานพุทธยอดฟ้า (Phra Phuttha Yodfa Bridge) ตั้งอยู่ที่ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2472 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี โดยพระองค์ทรงมีพระราชดำริว่าควรสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมฝั่งพระนครและธนบุรีเข้าด้วยกัน เพื่อขยายพระนครและทำให้การคมนาคมสะดวกยิ่งขึ้น ผู้ออกแบบโครงสร้างสะพานแห่งนี้คือกรมรถไฟหลวง ส่วนผู้ก่อสร้างคือบริษัทดอร์แมน ลอง (Dorman Long) ประเทศอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “สะพานพระพุทธยอดฟ้า” และเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในการเปิดสะพาน เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 13°44'21.4"N 100°29'51.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานพุทธยอดฟ้า ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=192


2. สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย

             สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย (Ta Pai Memorial Bridge) ตั้งอยู่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน สะพานโครงเหล็กสีเขียวเข้มปูพื้นด้วยไม้ทอดข้ามแม่น้ำปาย อายุราวหนึ่งร้อยปีแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่ปาย สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อครั้งที่กองทัพญี่ปุ่นได้เข้ามาใช้เส้นทางนี้เพื่อไปรบในประเทศพม่าและได้เกณฑ์ชาวไทยในหมู่บ้านให้สร้างสะพานขึ้นมาเพื่อใช้ในการลำเลียงอาวุธและเสบียง ต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ทหารญี่ปุ่นได้ถอยทัพกลับและเผาสะพานทิ้ง ส่งผลให้ชาวเมืองที่เคยใช้สะพานร่วมกับทหารญี่ปุ่นเกิดความเดือดร้อนในการสัญจรไปมา จึงได้ช่วยกันสร้างสะพานไม้ขึ้นใหม่ ทว่าไม่นานนักก็เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่จนพัดสะพานไม้หายไป ในขณะนั้นทางเชียงใหม่ได้ทำการสร้างสะพานนวรัฐขึ้นใหม่ ทางอำเภอปายจึงทำเรื่องขอสะพานนวรัฐของเดิมที่ไม่ได้ใช้การแล้ว ขนย้ายมาประกอบขึ้นใหม่กลายเป็นสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ไม่ได้ใช้สัญจรเป็นหลักแล้ว แต่กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งเมืองปายที่ไว้บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน       

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 19°17'49.3"N 98°27'55.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=461


3. สะพานบุญโขกู้โส่ หมู่บ้านแพมบก

             สะพานบุญโขกู้โส่ (Kho Kuu So Bridge at Pambok Village) อยู่ที่หมู่บ้านแพมบก อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนห่างจากสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายไปราวสิบเอ็ดกิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย “โขกู้โส่” เป็นภาษาท้องถิ่น โดยคำว่า โข แปลว่าสะพาน ส่วนคำว่า กู้โส่ แปลว่ากุศลหรือผลบุญ โขกู้โส่ จึงหมายถึง “สะพานบุญ” นั่นเอง สะพานโขกู้โส่ เป็นสะพานไม้ทอดยาวผ่านทุ่งนาอันเขียวขจี สะพานแห่งนี้เป็นสะพานบุญที่สร้างจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านเพื่อให้พระสงฆ์ที่พำนักอยู่ที่สำนักสงฆ์พุทธอุทยานห้วยคายคีรีที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในหมู่บ้านสะดวกในการเดินออกมาบิณฑบาต นอกจากนี้ยังช่วยให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์ได้อย่างสะดวกขึ้นอีกด้วย ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวจะได้เดินชมวิวทุ่งนาบนสะพานโขกู้โส่แล้ว ยังมีคาเฟ่ไว้หลบร้อน และมีโฮมสเตย์ไว้บริการอีกด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 น. – 18.00 น.

พิกัด GPS : 19°19'22.9"N 98°23'40.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานบุญโขกู้โส่ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=464


4. สะพานพ่อขุนผาเมือง (ห้วยตอง)

             สะพานพ่อขุนผาเมือง (สะพานห้วยตอง) (Pho Khun Pha Muang Bridge (Huai Tong)) ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอหล่มสัก บริเวณทางหลวงหมายเลข 12 สะพานแห่งนี้เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่สร้างผ่านหุบเขาโดยเป็นทางเชื่อมภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าไว้ด้วยกัน ถือเป็นประตูสู่ภาคอีสานและภาคเหนือ และยังเป็นสะพานที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย โดยตอม่อต้นที่สูงที่สุดมีความสูงอยู่ที่ 50 เมตร สะพานมีระยะทาง 103.4 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างรวม 6 ปี เปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2518 สองข้างทางมีทิวทัศน์ของภูเขาและป่าไม้อันเขียวขจีซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยมีจุดชมวิวสะพานให้แวะพักชมทัศนียภาพที่สามารถมองเห็นสะพานท่ามกลางป่าไม้และภูเขา ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่เป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 16°43'46.8"N 101°21'51.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานพ่อขุนผาเมือง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=745


5. สะพานอัษฎางค์

             สะพานอัษฎางค์ (Asdang Bridge) อยู่ที่พระราชวังจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เป็นสะพานไม้ทรงไทยสีขาวที่ทอดยาวไปในท้องทะเล เป็นหนึ่งในมุมยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพของผู้ที่มาเที่ยวพระราชวังเก่าบนเกาะแห่งนี้ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ด้วยกัน ได้แก่ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 โดยรัชกาลที่ 5 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อน และพระราชทานนามว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน” นั่นเอง เมื่อขึ้นไปบนจุดชมวิวบนเขาในบริเวณของพระราชฐาน จะสามารถมองเห็นยอดตำหนักสีขาวโดดเด่นขึ้นมาจากหมู่ต้นลีลาวดี ท่ามกลางวิวท้องฟ้าสีฟ้า น้ำทะเลสีคราม และสะพานอัษฎางค์ที่ทอดยาวไปในท้องทะเล พระจุฑาธุชราชฐานได้รับขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ทั้งยังเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 13°09'02.2"N 100°49'05.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานอัษฎางค์  ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=314


6. สะพานมอญ

             สะพานมอญ หรือ สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (Mon Bridge) ตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดจังหวัดกาญจนบุรี เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ทอดข้ามลำน้ำซองกาเลีย ในอำเภอสังขละบุรี ลำน้ำที่หล่อเลี้ยงผู้คนสองฟากฝั่งแม่น้ำและเชื่อมสัมพันธ์ของสองประเทศคือไทยและพม่าเข้าไว้ด้วยกันมาตั้งแต่อดีต สะพานแห่งนี้ดำเนินการสร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะ จุดประสงค์ในการสร้าง คือ ให้คนไทย คนกะเหรี่ยง และคนมอญ ได้เดินข้ามสัญจรไปมาหาสู่กัน เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ของคนทั้งสามกลุ่ม จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่มีมนต์เสน่ห์ สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอแห่งนี้ และกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญทางการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 15°08'36.3"N 98°26'59.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานมอญ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=52


7. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

             สะพานข้ามแม่น้ำแคว (River Kwai Bridge) ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรีเพราะเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟสายมรณะที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คน มาเร่งสร้างสะพานในปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2485 โดยการก่อสร้างใช้การนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้นๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง จนแล้วเสร็จภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นงานที่ยากลำบากและโหดร้ายจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 สถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้งจนสะพานท่อนกลางหัก เมื่อสงครามสิ้นสุดลงรัฐบาลไทยจึงได้บูรณะซ่อมแซมสะพานขึ้นใหม่ และในปัจจุบันได้มีการยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและกลายเป็นแลนด์มาร์กประจำจังหวัดกาญจนบุรีนับแต่นั้นมา และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสะพานเหล็กและชมทิวทัศน์ของแม่น้ำแควเบื้องล่างได้อย่างใกล้ชิด และสะพานข้ามแม่น้ำแควยังเคยใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฉากหนึ่งในเรื่อง The Railway Man ซึ่งเป็นภาพยนตร์ดังระดับโลกที่ถ่ายทอดเหตุการณ์ช่วงสงครามครั้งนั้นเอาไว้อย่างละเอียดอีกด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 14°02'30.2"N 99°30'14.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=47


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
 : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                             การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/

                             บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.thhttp://www.thairoute.com   

                             เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร https://bit.ly/2HIt51t 

                             เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน https://maehongson.mots.go.th/  

                             เว็บไซต์จังหวัดเพชรบูรณ์ https://phetchabun.mots.go.th

                             เว็บไซต์จังหวัดชลบุรี http://www.chonburimots.go.th/th/  

                             เว็บไซต์จังหวัดกาญจนบุรี http://www.kanchanaburi.go.th/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร

อ่านต่อ

วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

อ่านต่อ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า

อ่านต่อ

วัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต

อ่านต่อ

วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์

อ่านต่อ

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง

อ่านต่อ

ตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน

อ่านต่อ

น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี

อ่านต่อ

ต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน

อ่านต่อ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ