สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (5,297)
  • By Webmaster
  • 14:45:34 | 27 เม.ย. 2566

สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

Jigokudani Snow Monkey Park, Nagano, Japan


ลิงหิมะนั่งอยู่บนโขดหินท่ามกลางไอน้ำริมบ่อน้ำพุร้อนของสวนลิง

             สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park) เป็นเหมือนแดนสวรรค์ของฝูงลิงป่าที่อาศัยอยู่ในหุบเขาจิโกคุดานิ และยังเป็นที่เดียวในโลกที่มีลิงแช่ออนเซ็นซึ่งเป็นภาพที่สร้างชื่อเสียงให้ที่นี่กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกโดยฝูงลิงมักจะมาแช่ออนเซ็นที่จัดไว้ให้กลางแจ้งเพื่อคลายความหนาว ก่อให้เกิดภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู และหาชมได้ยาก โดยสวนลิงแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ของหุบเขาจิโกคุดานิ ยาเอ็นโคเอ็น (Jigokudani Yaen-koen) ซึ่งแปลว่า หุบเขานรก เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้จะมีหิมะปกคลุมยาวนานถึงหนึ่งในสามของปี และมีสภาพอากาศหนาวอย่างรุนแรง รวมถึงสภาพพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหุบเขาที่มีหน้าผาสูงชัน และมีไอน้ำพวยพุ่งจากธารน้ำพุร้อนที่ไหลรินอยู่เกือบตลอดเวลา คนญี่ปุ่นโบราณจึงเปรียบเปรยว่ามีสภาพเหมือนหุบเขานรกนั่นเอง แต่ปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก  


แผนที่ตั้ง สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park) จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติ

             สวนลิงหิมะจิโกคุดานิก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1964 ในพื้นที่ของหุบเขาจิโกคุดานิ ยาเอ็นโคเอ็น มีความสูง 850 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใกล้กับอุทยานแห่งชาติโจชิเนสึ โคเก็น (Joshinetsu Kogen) สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ลิงป่าหรือที่นิยมเรียกกันว่าลิงหิมะหลากหลายช่วงอายุที่อาศัยอยู่ในบริเวณภูเขาแถบนี้ตามธรรมชาติ และด้วยความที่ลิงเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเรียนรู้ได้เร็ว พวกมันจึงรู้ว่าอาหารที่เจ้าหน้าที่จัดหาให้ที่สวนแห่งนี้ค่อนข้างดีกว่าอาหารที่พวกมันจะหาได้เองจากภูเขา และรู้ว่ามนุษย์ในสวนไม่ทำอันตรายพวกมัน พวกมันจึงพากันเข้ามาอาศัยอยู่ในสวนนี้ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเห็นฝูงลิงในสวนจิโกคุดานิอยู่กันอย่างเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวา ซึ่งแตกต่างจากชีวิตในสวนสัตว์อย่างสิ้นเชิง

             โดยฝูงลิงจะประกอบด้วยลิงตัวผู้ที่โตเต็มวัย กับลิงตัวเมียที่โตเต็มวัยเป็นจำนวนสองหรือสามเท่าของจำนวนตัวผู้ รวมถึงบรรดาลูกลิงน้อย และจะมีลิงจ่าฝูงเป็นหัวหน้าคอยดูแลฝูง สาเหตุที่ลิงมาแช่ออนเซ็นนั้นเป็นเพราะบ่อน้ำร้อนช่วยคลายความหนาวเย็นได้ ซึ่งลิงส่วนใหญ่มักจะแช่บ่อน้ำร้อนกันในช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวจัดราวเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ โดยแต่เดิมนั้นช่วงที่ก่อตั้งสวนลิงแห่งนี้ขึ้นใหม่ๆ จะมีลิงบางตัวลงไปแช่ออนเซ็นของคนระหว่างที่มารออาหารจากเจ้าหน้าที่ และพวกมันก็ลงไปแช่กันเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงสร้างออนเซ็นส่วนตัวให้ลิงใช้โดยเฉพาะซึ่งเป็นบ่อที่เห็นกันในปัจจุบัน เพื่อให้ลิงใช้บ่อน้ำร้อนแยกกับมนุษย์จะได้ถูกสุขอนามัย ตั้งแต่นั้นมาลิงก็จะมาแช่ออนเซ็นบริเวณนี้กันจากรุ่นสู่รุ่น

             ในส่วนของสภาพทางธรรมชาติของหุบเขานั้นมีทิวทัศน์ที่สวยงามสะดุดตาจากหน้าผาสูงชันและก้อนหินมากมาย มีธารน้ำโยโคยุ (Yokoyu) ที่มาจากน้ำพุเกลือร้อนที่มีความใสสะอาดซึ่งผุดออกมาจากรอยแตกของชั้นหินควอตซ์ไดโอไรต์ (Quarts diorite) ซึ่งเป็นชั้นหินหนืดใต้ดินที่แข็งตัวหลังจากการประทุของภูเขาไฟ โดยน้ำร้อนจากแหล่งธรรมชาติแห่งนี้ยังได้ถูกผันไปยังชิบุออนเซ็นและคันบายาชิออนเซ็นในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจสามารถไปใช้บริการได้


ข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้

             1. สวนลิงหิมะจิโกคุดานินั้นตั้งอยู่ด้านบนของหุบเขา จึงต้องเดินเท้าจากบริเวณเชิงเขาด้านล่างลัดเลาะไปตามทางเดินประมาณ 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงในแบบที่ค่อยๆ เดินชมวิวไปเรื่อยๆ เพื่อขึ้นไปยังด้านบน ซึ่งอาจจะมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่รู้สึกท้อใจและตัดสินใจไม่เดินขึ้นไป แต่อันที่จริงแล้วการเดินขึ้นไปนั้นไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด เนื่องจากทัศนียภาพสองข้างทางระหว่างที่เดินขึ้นไปนั้นมีความสวยงาม และสร้างความเพลิดเพลินให้จนสามารถลืมเรื่องระยะทางไปได้ เช่น บรรยากาศของต้นสนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ลำธารข้างทาง และบ่อออนเซ็น อีกทั้งด้วยสภาพเส้นทางที่ไม่ได้ลาดชันมากนัก และสภาพอากาศที่ไม่มีแดดจัดจึงสามารถเดินได้อย่างสบายๆ ถ้าเตรียมตัวมาพร้อม  


ทางเดินปกคลุมด้วยหิมะ


บริเวณทางขึ้นมีป้ายบอกระยะทางและแผนที่เส้นทาง


             2. การเตรียมตัวให้พร้อมท่องเที่ยวท่ามกลางหิมะ และสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เที่ยวได้อย่างสนุกและปลอดภัย ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเสื้อผ้า ถุงมือ ที่ปิดหู หมวก และเครื่องกันหนาวต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพร่างกายของตนเอง และที่ขาดไม่ได้คือ “รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะ” ซึ่งมีความแตกต่างจากรองเท้าธรรมดาตรงที่พื้นรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะจะมีแผงหมุดช่วยยึดเกาะพื้นและกันลื่นได้ดีกว่า เนื่องจากหิมะที่ตกสะสมในบางพื้นที่นั้นมีความลื่น โดยเฉพาะในช่วงที่หิมะกำลังละลาย หากใส่รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะโดยเฉพาะ ก็จะช่วยให้เดินได้อย่างสบายขึ้น ไม่ต้องกลัวหรือกังวลเรื่องลื่นล้ม ทำให้เที่ยวชมบรรยากาศสองข้างทางได้อย่างมีความสุข


             3. มีจุดเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะไว้บริการนักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวต้องการเดินขึ้นไปยังสวนลิงหิมะด้านบนหุบเขาแต่ไม่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะมาด้วย ก็สามารถทำการเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะได้ที่บริเวณใกล้กับเชิงเขาทางขึ้น


รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะวัสดุที่ใช้จะมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิติดลบ


พื้นรองเท้าด้านล่างจะมีลักษณะเป็นแผงหมุดไว้ยึดเกาะพื้นหิมะหรือพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งเพื่อช่วยกันลื่นและเพิ่มแรงเสียดทานในการก้าวเดินให้ทรงตัวได้ดี


รองเท้าผ้าใบทั่วไป


พื้นรองเท้าผ้าใบทั่วไปจะไม่มีแผงหมุดไว้ยึดเกาะหิมะและพื้นน้ำแข็ง


บริเวณทางเดินไปยังสวนลิงหิมะ พื้นอาจมีความลื่นจากหิมะที่ละลายไปบ้างแล้วบางส่วน


เส้นทางท่ามกลางธรรมชาติที่ปกคลุมด้วยหิมะ


หากเตรียมตัวมาพร้อมก็สามารถเดินชมทัศนียภาพได้อย่างสบายๆ


ทิวทัศน์อันสวยของงามของหุบเขาที่มีหิมะปกคลุม


มีลำธารสายเล็กๆ ภายในหุบเขา


กองหิมะใกล้กับลำธารกำลังละลาย


บรรยากาศเมืองเล็กๆ ภายในหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ


ระหว่างทางจะพบบ่อน้ำพุร้อนอยู่เป็นระยะ


บันไดทางขึ้นเขาสู่สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ


บริเวณทางเข้าไปยังที่ทำการด้านในอาคาร


ภายในอาคารยังมีการจัดแสดงป้ายข้อมูลของลิง และมีห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือน


สะพานทางเดินทอดยาวไปยังสวนลิงหิมะ


ธารน้ำจากบ่อน้ำร้อนที่ไหลอยู่ในบริเวณนี้ และทางด้านซ้ายคือออนเซ็นของลิง


เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างมาก


ลิงตัวเล็กและลิงตัวใหญ่นั่งเล่นคลายหนาวอยู่ริมบ่อออนเซ็น


ไอน้ำร้อนช่วยคลายหนาวให้ลิงรู้สึกสบายตัว


บางตัวก็ชอบปลีกวิเวกไปนั่งอยู่ตัวเดียว


ลิงวัยรุ่นกำลังเล่นกัน


ลูกลิงจะอยู่ไม่ห่างแม่ลิง


ลิงแม่ลูกนั่งกอดกันอย่างน่าเอ็นดู และธรรมชาติของแม่ลิงจะค่อนข้างหวงลูก


การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station)

             - รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 314 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยรถไฟนั้น จะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ Tokyo Station โดยมีวิธีการเดินทางตามความสะดวกอยู่ 2 วิธี ดังนี้

             วิธีแรก เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 2-3 Station เพื่อขึ้นรถไฟด่วนไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที 

             วิธีที่สอง เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 1 เพื่อขึ้นรถบัส Airport Limousine Bus ไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางมากกว่าวิธีแรกประมาณสิบห้านาที

หมายเหตุ 1. สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub

                2. สามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถและค่าโดยสารของ Airport Limousine Bus เพิ่มเติมได้ที่ https://webservice.limousinebus.co.jp/web/en/  


การเดินทางจากสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station) ไปยังสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park)

             - รถยนต์ (Car) จาก Nagano Station ไปยังบริเวณที่จอดรถของสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น ต้องเดินเท้าต่อไปตามทางเดินขึ้นหุบเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยัง Jigokudani Snow Monkey Park ใช้เวลาโดยรวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง และมีระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Nagano Station ให้เดินไปขึ้นรถบัสบริเวณประตูทางออกสถานี Nagano Station East Exit และลงป้าย Snow Monkey Park ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นต้องเดินเท้าต่อไปตามทางเดินขึ้นหุบเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยัง Jigokudani Snow Monkey Park ใช้เวลาโดยรวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง และมีระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดทำการ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.

             เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดทำการ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.


ลูกลิงกำลังเล่นหิมะ


อัตราค่าเข้าชม

             ผู้ใหญ่ ราคา 800 เยน

             เด็กอายุ 6-17 ปี ราคา 400 เยน

             เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี


บรรยากาศของหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ


กฎระเบียบที่ควรรู้

ที่สวนนี้มีกฎระเบียบข้อบังคับเพื่อความปลอดภัยของทั้งลิงและตัวนักท่องเที่ยวเอง ดังนี้

             1. ห้ามให้อาหารลิง หรือเอาอาหารมาล่อให้ลิงเข้ามาใกล้

             2. ห้ามสัมผัส อย่าจับลิงหรือตะโกนใส่ลิง อย่ารบกวนให้ลิงหงุดหงิด เพราะคุณอาจถูกกัด โดยเฉพาะลูกลิงเพราะพวกมันอาจจะขอความช่วยเหลือจากลิงตัวโตเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้น อย่าแตะต้องลิงแม้ว่าพวกมันจะอยู่ใกล้ชิดกับคุณก็ตาม

             3. ห้ามจ้องตาลิง การจ้องตาลิงอย่างใกล้ชิดพร้อมพูดด้วย สำหรับลิงแล้วจะมองอากัปกิริยาเช่นนี้เป็นศัตรูทันที ดังนั้นอย่าเข้าใกล้พวกมันมากเกินไปนัก และจงรักษาระยะห่างอยู่เสมอ

             4. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในบริเวณนี้

             5. การถ่ายภาพและวีดีโอควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง

             6. ห้ามใช้ไม้เซลฟี่ และห้ามรบกวนลิงกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ


ภาพลิงริมออนเซ็นที่หาชมได้แค่เพียงที่สวนลิงหิมะจิโกคุดะนิเท่านั้น


             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Jigokudani Snow Monkey Park สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

                         (Jigokudani Snow Monkey Park, Nagano, Japan)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 800 เยน / เด็กอายุ 6-17 ปี ราคา 400 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี

                         เวลาเปิด-ปิด : เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดทำการ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.

                                              เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดทำการ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

                         โทรศัพท์ : (+81) 269-33-4379

                         เว็บไซต์ : https://jigokudani-yaenkoen.co.jp/

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/nagano-shi/224701/weather-forecast/224701

                                          เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองนากาโนะ http://en.nagano-cvb.or.jp/

                                          เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม

หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

อาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

อ่านต่อ

หาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย

อ่านต่อ

หอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน

อ่านต่อ

วินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม

อ่านต่อ

วัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด

อ่านต่อ

น้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี

อ่านต่อ

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด

อ่านต่อ

ฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์

ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ