10 วัดสวยภาคกลาง...งามตระการพุทธศิลป์ ประเทศไทย

  • อ่าน (8,095)
  • ByWebmaster
  • 10:36:11 | 27 เม.ย. 2565

10 วัดสวยภาคกลาง...งามตระการพุทธศิลป์ ประเทศไทย

             ภาคกลาง นอกจากจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต ภูมิภาคนี้ของประเทศไทยยังเป็นแหล่งอารยธรรมที่หลากหลาย และเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามทรงคุณค่ามากมาย โดยเฉพาะวัดวาอารามสวยๆ ทั้งที่เก่าแก่และที่สร้างในปัจจุบันสมัย ทั้งงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ ไปจนถึงสถาปัตยกรรมแบบจีนและอินเดีย… Palanla จะพาไปชม 10 วัดสวยภาคกลางพร้อมๆ กัน


แผนที่แสดงตำแหน่งของ 10 วัดสวยภาคกลาง 


1. วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่
2)

             วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 (Wat Borom Racha Kanjanapisek Anusorn (Wat Leng Noei Yi 2) อยู่ที่ ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เป็นวัดจีนที่มีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมจีนที่คล้ายกับพระราชวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน โดยใช้พุทธศิลป์ในราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง และมีการวางผังตามแบบวัดพุทธศาสนานิกายฌาน ภายในวิหารหลักเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้าสามพระองค์เป็นพระประธาน และภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้หอมต้นเดียว รวมถึงองค์ทวยเทพที่สำคัญอื่นๆ ของนิกายมหายานอีกหลายองค์ วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในช่วงตรุษจีน โดยชาวไทยเชื้อสายจีนและผู้มีจิตศรัทธามักจะเดินทางมาไหว้ขอพรองค์ทวยเทพและแก้ปีชงกันในทุกๆ ปี

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 8.00 – 18.00 น.

พิกัด GPS : 13°54'47.6"N 100°25'16.7"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=835 


2. วัดพิพัฒน์มงคล

             วัดพิพัฒน์มงคล (Wat Pipat Mongkol) วัดสวยงามวิจิตรที่โดดเด่นด้วยศิลปะโบราณทรงไทยล้านนาบนพื้นที่ 119  ไร่ ในตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ถือเป็นสถานธรรมชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศ และยังเป็นแหล่งศึกษาเชิงพุทธศาสนา และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติด้วย  ซึ่งแต่เดิมนั้นวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างกลางทุ่งนา โดยสันนิษฐานกันว่าเป็นวัดมาก่อนประมาณ 700 ปีแล้ว ถึงแม้จะไม่ปรากฏหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ได้มีการพบรากฐานอุโบสถ เจดีย์โบราณ ซึ่งจมอยู่ใต้พื้นดินลึกลงไปประมาณ 1เมตรครึ่ง  ภายในวัดเต็มไปด้วยศิลปะที่งดงาม มีเอกลักษณ์แบบล้านนา รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย อายุราว 500 ปี ซึ่งเป็นทองคำแท้ หนักถึง 9 กิโลกรัม สร้างด้วยศิลปะสมัยสุโขทัยที่มีความงดงามและเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์กับวัดแห่งนี้และจังหวัดสุโขทัย

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 - 17.00 น.

พิกัด GPS : 17°19'21.6"N 99°33'04.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพิพัฒน์มงคล ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=809               


3. วัดป่าสว่างบุญ

             วัดป่าสว่างบุญ (Wat Pa Sawang Bun) ตั้งอยู่ที่ ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นวัดป่าตั้งอยู่ใกล้กับเชิงเขาที่มีบรรยากาศสงบและร่มรื่น วัดแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2534 ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ห้าร้อยยอด ซึ่งเป็นหมู่เจดีย์สีทองอร่าม และพระมหาเจดีย์เทพนิธากรสีทององค์ใหญ่ที่ด้านบนเขา โดยศาสนสถานทั้งสองแห่งนี้ด้านในเป็นที่บรรจุพระบรมสาริกธาตุซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาจากชาวสระบุรีมาอย่างช้านาน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดสระบุรี นิยมแวะมาเที่ยวชมความงดงามของสถานที่ต่างๆ ภายในวัด และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6.00 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 14°24'59.2"N 101°07'58.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดป่าสว่างบุญ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=586  


4. วัดมณีวงศ์

             วัดมณีวงศ์ (Wat Maniwong) ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 7 ไร่ 2 งาน 1 ตารางวา ในตำบลดงละคร อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2466 เป็นวัดเก่าอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนรุ่งเรือง ภายในวัดมีสิ่งปลูกสร้างที่สวยงามมากมาย นักท่องเที่ยวมักจะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ทำสังฆทานภายในพระอุโบสถ และสักการะทวยเทพภายในวิหารจีนที่มีพระพุุทธรูปหลวงพ่อพันล้านสีทององค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านบน และที่พลาดไม่ได้คือการเที่ยวชมวังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราช หรือถ้ำพญานาคเมืองบาดาล ที่มีการสลักเสลาองค์พญานาคนับร้อยองค์อย่างวิจิตรงดงาม

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 14°09'15.7"N 101°11'11.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดมณีวงศ์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=569               


5. วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ (พุทธคยาจำลอง)

             วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ (Wat Pa Siri Wattana Wisut) ตั้งอยู่ที่ บ้านเขาโคกเผ่น ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ วัดแห่งนี้เป็นวัดในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2527 ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 96 ไร่ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามหลายจุด โดยมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือ “เจดีย์ศรีพุทธคยา” ซึ่งจำลองแบบจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายในองค์เจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยองค์เจดีย์นั้นมีความสูง 28 เมตร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมทรงกรวย ส่วนยอดเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น และรอบเจดีย์มีพระพุทธรูปปางประทับยืนและประทับนั่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามและเขียวขจีของภูเขาโดยรอบ         

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 15°35'29.9"N 100°30'30.6"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ (พุทธคยาจำลอง) ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=973 


6. วัดอโศการาม

             วัดอโศการาม (Wat Asokaram) ตั้งอยู่ที่ ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นวัดขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 53 ไร่ ภายในวัดโดดเด่นด้วยหมู่องค์เจดีย์สีขาวที่มีชื่อว่า พระธุตังคเจดีย์ เป็นเจดีย์หมู่ 13 องค์ พระเจดีย์ทุกองค์มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในผอบทอง เงิน และนาก ภายในอาคารเป็นที่บรรจุพระธาตุพระอรหันต์ 28 องค์ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่หลุย หลวงตามหาบัว หลวงพ่อลี และอีกมากมาย ซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมภายในได้ ใกล้กันเป็นวิหารสุทธิธรรมรังสี เป็นวิหารที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนยอดมณฑป ภายในประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง รูปหล่อหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และสรีระ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร เจ้าอาวาสผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้นั่นเอง

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 13°32'50.8"N 100°36'28.9"E 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดอโศการาม ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=533


7. วัดสังกัสรัตนคีรี

             วัดสังกัสรัตนคีรี (Wat Sangkat Rattana Khiri) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาสะแกกรัง ในตำบลน้ำซึม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี แต่เดิมเรียกกันว่าวัดเขาสะแกกรังตามลักษณะของภูเขาขนาดย่อมภายในบริเวณวัดและแม่น้ำสะแกกรังที่อยู่ไม่ไกล ภายในวัดสังกัสรัตนคีรีบริเวณตรงข้ามเชิงเขาเป็นที่ตั้งของวิหารที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริดเก่าแก่ที่มีอายุประมาณ 600-700 ปี สร้างในสมัยพระเจ้าลิไทยโดยฝีมือช่างสุโขทัย ความพิเศษของพระพุทธรูปองค์นี้ คือ ส่วนพระเศียรและส่วนองค์พระต่างเป็นชิ้นส่วนที่นำมาจากพระพุทธรูปองค์อื่น แล้วนำมาซ่อมแซมปฏิสังขรณ์จนเป็นองค์เดียวกัน และได้มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระเศียร เป็นพระพุทธรูปที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาอย่างช้านาน และนิยมมากราบสักการบูชาเพื่อขอโชคลาภ และความสำเร็จในการประกอบอาชีพ นอกจากนี้อีกหนึ่งไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือมณฑปสิริมหามายากุฎาคารที่ตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และยังเป็นจุดชมวิวเมืองอุทัยธานีจากมุมสูงอีกด้วย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 6.00 น. – 20.00 น.

พิกัด GPS : 15°22'43.1"N 100°01'01.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดสังกัสรัตนคีรี ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=45                  


8. วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)

             วัดจันทาราม หรือ วัดท่าซุง (Wat Chantaram (Wat Tha Sung)) ตั้งอยู่ที่ ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองจังหวัดอุทัยธานี วัดจันทารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีการตกแต่งภายในอย่างวิจิตรประณีต ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัดอุทัยธานี ภายในวัดมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นไฮไลท์อยู่หลายแห่ง เช่น วิหารพระศรีอาริยเมตไตรยที่ภายในประดับด้วยกระจกรอบด้านซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตไตรย หรือพระวิหารสมเด็จองค์ปฐมที่ภายในตกแต่งด้วยลายแก้วอย่างงดงาม รวมถึงหอพระไตรปิฎก ปราสาททองคำ มหาวิหารแก้ว และเจดีย์พุดตาล อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาที่มีต่อพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาช้านานอีกด้วย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00 น. – 16.00 น.

พิกัด GPS : 15°19'48.7"N 100°04'16.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับวัดจันทาราม (วัดท่าซุง)ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=54


9. วัดถ้ำเขาวง

             วัดถ้ำเขาวง (Wat Tham Khao Wong) ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี วัดแห่งนี้เป็นวัดป่าและเป็นธรรมสถานเพื่อการปฏิบัติธรรมที่ตั้งอยู่บนเขา ภายในบริเวณวัดตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบและร่มรื่น โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง และมีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าซึ่งตกแต่งด้วยสะพานไม้ที่ประกอบขึ้นจากไม้ตามธรรมชาติซึ่งไม่ได้ผ่านการปรับแต่งรูปร่างแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันจึงมีความสวยงามแปลกตา ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักเข้ามาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เหนือบึงน้ำขึ้นไปโดดเด่นด้วยศาลาทรงไทยประยุกต์ 4 ชั้นที่มีความงดงาม ศาลาแห่งนี้สร้างด้วยไม้สัก ไม้มะค่า และไม้ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมถึงไม้เก่าจากเรือนไทยที่มาจากหลายจังหวัด นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีถ้ำที่ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอย่างสงบ รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. - 18:00 น.

พิกัด GPS : 15°01'53.9"N 99°27'20.8"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดถ้ำเขาวง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=53


10. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

             วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว (Wat Phra That Pha Sorn Kaew) ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 ในชื่อ “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” โดยหลวงพ่อปารมี สุรยุทโธ (หลวงพ่อยงยุทธ) และ พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นวัดที่โดดเด่นด้วยเจดีย์พระธาตุ 9 ชั้นงามสง่า ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องสี ถ้วยชามเบญจรงค์ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีและทะเลหมอกสีขาว ถือเป็นวัดสวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วยังประดิษฐาน“พระพุทธเจ้า 5 พระองค์” พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ 5 องค์ประทับนั่งซ้อนกันบนฐานดอกบัว ท่ามกลางทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากการมากราบไหว้สักการะและชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมแล้ว วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วยังเป็นจุดชมวิวสวยๆ อีกจุดหนึ่งของเขาค้อด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 16°47'21.8"N 101°02'56.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=743        


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
 : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                           เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/Home

                           บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.thhttp://www.thairoute.com   

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา (Pasaan, The Headwaters of the Chao Phraya River Symbol Building) ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านมาบรรจบกันและก่อกำเนิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนครสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม เดินเล่น ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพความสวยงามของอาคารและทิวทัศน์แม่น้ำโดยรอบกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ