One Day Trip กาญจนบุรี...เที่ยววัดงาม ตามรอยประวัติศาสตร์

  • อ่าน (7,200)
  • ByWebmaster
  • 16:32:34 | 11 ก.พ. 2565

One Day Trip กาญจนบุรี...เที่ยววัดงาม ตามรอยประวัติศาสตร์

             จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จึงสามารถไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้อย่างสะดวก โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งให้เที่ยวชม โดยเฉพาะวัดวาอารามและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า วันนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปเที่ยวยัง 3 สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีแบบวันเดย์ทริป โดยแต่ละสถานที่นั้นได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยจะมีที่ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลยค่ะ


แผนที่ One Day Trip กาญจนบุรี จากกรุงเทพฯ - วัดถ้ำเสือ - สะพานข้ามแม่น้ำแคว - เจดีย์ยุทธหัตถี - กลับกรุงเทพฯ


1. วัดถ้ำเสือ

             วัดถ้ำเสือ (Wat Tham Suea) จากกรุงเทพฯ เราจะเริ่มออกเดินทางกันตอนเช้า โดยจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการเดินทางสู่วัดถ้ำเสือ ในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี วัดถ้ำเสือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี และยังเป็นวัดที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของภาคตะวันตกอีกด้วย ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขา จึงต้องเดินขึ้นบันไดนาคจำนวน 157 ขั้นขึ้นไป ซึ่งถ้าหากใครไม่สะดวกเดินขึ้น ทางวัดก็มีรถรางขึ้นเขาให้บริการด้วยเช่นกัน เมื่อขึ้นไปยังด้านบนเขาก็จะพบกับความสง่างามน่าเลื่อมใสของหลวงพ่อชินประทานพร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีขนาดหน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอก 9 นิ้ว และมีความสูง 9 วา 9 นิ้ว เมื่อสักการะองค์พระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคลเสร็จแล้ว ก็ต้องไม่พลาดกับการเที่ยวชมความงดงามของสิ่งปลูกสร้างสำคัญภายในบริเวณวัดอย่างเช่น พระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาทที่มีความสูง 69 เมตร มีจำนวน 9 ชั้น แต่ละชั้นมีพระพุทธรูปสำริดประดิษฐานอยู่ภายใน โดยชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย และพระอุโบสถทรงไทยที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม นอกจากนี้บริเวณด้านบนยอดเขาแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวเทือกเขาและทุ่งนาสีเขียวที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากอีกด้วย

การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ไปยัง วัดถ้ำเสือ มีระยะทางประมาณ 113 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 13°57'14.1"N 99°36'18.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดถ้ำเสือ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=565


2. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

             สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge of the River Kwai) เมื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเที่ยวชมวัดถ้ำเสืออันงดงามกันเสร็จแล้ว เราจะเดินทางต่อไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อไปเที่ยวยังสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี สะพานประวัติศาสตร์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขามในอำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นสะพานของเส้นทางรถไฟสายมรณะที่สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คน มาสร้างสะพานในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ทางรถไฟสายนี้สร้างข้ามแม่น้ำแควใหญ่เพื่อเป็นเส้นทางไปสู่ประเทศพม่า การสร้างสะพานและทางรถไฟสายสร้างโดยการนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้นๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและโครงสะพานเป็นไม้ ซึ่งการก่อสร้างเต็มไปด้วยความยากลำบาก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความโหดร้ายของสงครามและโรคภัยไข้เจ็บตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 สถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้งจนสะพานท่อนกลางหัก เมื่อสงครามสิ้นสุดลงรัฐบาลไทยจึงได้บูรณะซ่อมแซมสะพานขึ้นใหม่ และในปัจจุบันได้มีการยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสะพานเหล็กและชมทิวทัศน์ของแม่น้ำแควสีเขียวเข้มเบื้องล่างได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ที่นี่ยังเคยใช้เป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์ดังระดับโลกเรื่อง The Railway Man ที่สร้างจากหนังสือของ Eric Lomax ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่นายทหารแห่งกองทัพบกสหราชอาณาจักรที่เคยถูกส่งไปยังค่ายเชลยศึกสงครามของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1942 ที่ได้ถ่ายทอดเหตุการณ์ช่วงสงครามครั้งนั้นเอาไว้อย่างละเอียด

การเดินทาง : จากวัดถ้ำเสือ ไปยัง สะพานข้ามแม่น้ำแคว มีระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 14°02'30.1"N 99°30'14.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=47 


3. เจดีย์ยุทธหัตถี

             เจดีย์ยุทธหัตถี (Chedi Yutthahatthi) หลังจากเที่ยวชมสะพานข้ามแม่น้ำแควกันเสร็จแล้ว ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เราจะเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์กันอีกแห่งหนึ่งก่อน โดยเราจะไปกันที่เจดีย์ยุทธหัตถีที่ตำบลดอนเจดีย์ในอำเภอพนมทวน เจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์โบราณอายุสี่ร้อยกว่าปีที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา โดยเชื่อกันว่าเป็นเจดีย์ยุทธหัตถีที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างขึ้นหลังจากที่พระองค์ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชากษัตริย์แห่งพม่าในปีพ.ศ. 2135 องค์เจดีย์สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบอธุธยา มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลม ก่ออิฐถือปูน บริเวณยอดผุพังไปตามกาลเวลา มีความสูงราว 3 เมตร ภายในบริเวณยังได้มีการจัดสร้างอาคารนิทรรศการเพื่อจัดแสดงประวัติความเป็นมาและแผนที่ที่เกี่ยวข้องกับการรบในขณะนั้น รวมถึงมีพื้นที่สักการะพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระสุพรรณกัลยา และพระเอกาทศรถอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณสวนอีกด้านยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชขณะทรงพระคชาธารออกศึกที่มีความสง่างามและยิ่งใหญ่ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งสามารถมองเห็นได้โดยรอบจากบริเวณสวน สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีที่ไม่ควรพลาด

การเดินทาง : จากสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไปยัง เจดีย์ยุทธหัตถี มีระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.

พิกัด GPS : 14°03'32.7"N 99°40'53.8"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ เจดีย์ยุทธหัตถี ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=560


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
: เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                            เว็บไซต์จังหวัดกาญจนบุรี http://www.kanchanaburi.go.th/   

                            การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/

                            บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com


 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ