เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

  • อ่าน (7,381)
  • ByWebmaster
  • 02:13:26 | 26 พ.ย. 2564

เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

Lam Pao Dam, Kalasin, Thailand

 

             เขื่อนลำปาว (Lam Pao Dam) ไม่เพียงแต่เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทว่ายังเป็นแหล่งการประมงและการเกษตรที่สำคัญของกาฬสินธุ์ รวมถึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจชั้นเยี่ยมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดด้วย

 


ประวัติ

             เขื่อนลำปาว ครอบคลุมพื้นที่ของ อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอคำม่วง อำเภอยางตลาดของจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเขื่อนดินสูงจากท้องน้ำ 33 เมตร  สันเขื่อนยาว 7.8 เมตร กว้าง 8 เมตร และถือเป็นเขื่อนดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เก็บน้ำได้ 1,430 ล้าน ลูกบาศก์เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2511 สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ และเนื่องจากเขื่อนลำปาวได้ปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยางที่บ้านหนองสองห้องจึงมีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำแฝด ทางด้านเหนือเขื่อนได้ขุดร่องเชื่อมระหว่างอ่างทั้งสอง  เขื่อนลำปาวเป็นแหล่งการประมงและการเกษตรที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมถึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อยใจที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอดด้วย บริเวณที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดของเขื่อนลำปาวคือ หาดดอกเกด เนื่องจากมีทัศนียภาพที่สวยงาม ประหนึ่งเป็นชายหาดน้ำจืดของคนอีสาน

             นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีสะพานเทพสุดา เป็นสะพานน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ด้วยความยาว 80 กิโลเมตรที่ทอดข้ามเขื่อนลำปาว นอกจากเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดหนองคาย จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ต้องการจะไปยังจังหวัดมุกดาหารต้องผ่านแล้ว สะพานแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถชมทัศนียภาพสวยๆ ของเขื่อนลำปาวด้วยเช่นกัน


เขื่อนลำปาวถือเป็นเขื่อนดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย


สะพานเทพสุดาความยาว 80 กิโลเมตรทอดข้ามเขื่อนลำปาว


วิถีชีวิตการทำประมงของชาวบ้าน


การเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดกาฬสินธุ์ มีระยะทาง 520กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 20 นาที    

             จังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีเส้นทางรถไฟตัดผ่าน และยังไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟและเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือ จังหวัดร้อยเอ็ด แล้วเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทางต่อมาที่จังหวัดกาฬสินธุ์


การเดินทางไปเขื่อนลำปาว

             เขื่อนลำปาว ตั้งอยู่ที่ตำบลลำคลอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดกาฬสินธุ์ 31 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 35 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 08.30 น. – 16.30 น.


เขื่อนลำปาวเป็นแหล่งการประมงและการเกษตรที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเขื่อนลำปาว

             ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สวยงามรอบๆ สันเขื่อนลำปาว พักผ่อนหย่อนใจที่หาดดอกเกด และชมวิวสวยๆ ในช่วงพระอาทิตย์ตกที่สะพานเทพสุดา 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม เขื่อนลำปาว สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                      เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

                      (Lam Pao Dam, Kalasin, Thailand)

                      ระดับความนิยม : 

                      อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม    

                      เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 น. – 16.30 น

                      ตั้งอยู่ที่ : ตำบลลำคลอง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์

                      โทรศัพท์ :  (+66) 043 813 024, 043 227 714-5

                      เว็บไซต์ : -

                      ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                      ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ https://kalasin.mots.go.th/

                                      ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย  https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ