บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ จังหวัดเลย ประเทศไทย

  • อ่าน (4,886)
  • ByWebmaster
  • 17:36:39 | 15 พ.ย. 2564

บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ จังหวัดเลย ประเทศไทย

Tai Dam Museum House, Loei, Thailand


พิพิธภัณฑ์บ้านไทดำ

             บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ (Tai Dam Museum House) เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่แสดงถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวไทดำที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อีกกลุ่มหนึ่งในประเทศไทยซึ่งอพยพมาจากประเทศลาวและเวียดนามตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์บ้านไทดำได้มีการจัดแสดงบ้านไม้ตามแบบของชาวไทดำ และมีลานกิจกรรมที่แสดงการละเล่น “แซปาง” ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไทดำ รวมถึงเครื่องแต่งกายในชุดพื้นเมืองและร้านขายของที่ระลึก


แผนที่ตั้ง บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ (Tai Dam Museum House) จังหวัดเลย ประเทศไทย 


ประวัติ

             บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำตั้งอยู่ที่บ้านนาป่าหนาดตำบลเขาแก้วในอำเภอเชียงคาน แต่เดิมนั้นชาวไทดำตั้งรกรากอยู่ที่เมืองแถง (ปัจจุบันคือเมืองเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม) แต่ในปี พ.ศ. 2423 ได้เกิดสงครามฮ่อขึ้น ทำให้ชาวไทดำส่วนหนึ่งอพยพมาตั้งที่พักอาศัยชั่วคราวทั้งในจังหวัดลพบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม จนถึงปี พ.ศ. 2430 ก็อพยพกลับไปยังเมืองแถงดังเดิม แต่ในช่วงนั้นทั้งลาวและเวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ชาวไทดำจึงอพยพมาที่เมืองไทยอีกครั้งซึ่งมีชาวไทดำกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาตั้งบ้านเรือนที่บ้านนาป่าหนาดเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2460 โดยมีผู้นำกลุ่มคือ “เพียหก” หรือเจ้าคนที่หก

             ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 นายเพชรตะบอง ไพศูนย์ เห็นว่าชาวไทดำที่บ้านนาป่าหนาดนั้นมีภาษาพูด ภาษาเขียน การแต่งกาย ขนบธรรมเนียมประเพณี พิธีกรรม ความเชื่อ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เขาจึงร่วมกับญาติพี่น้องในตระกูลรวบรวมทุนทรัพย์ส่วนตัวและสร้างชมรมบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำขึ้นบนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เพื่อจัดแสดงข้าวเครื่องใช้โบราณของคนในหมู่บ้าน โดยในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีชาวไทดำจากเวียดนาม ลาว เพชรบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี และลพบุรี มาร่วมงาน และยังมีการแสดงประเพณีและการละเล่นพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย


แหล่งวัฒนธรรมชุมชนบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ


บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำอยู่ในความดูแลของวิสาหกิจชุมชนตุ้มนก


บริเวณชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์บ้านไทดำเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม


ทางขึ้นไปยังชั้นบนของบ้านไม้โบราณที่ใช้จัดแสดงความเป็นอยู่ของชาวไทดำ


การจัดแสดงสภาพความเป็นอยู่ภายในบ้านของชาวไทดำในสมัยก่อน


ภายในมุมจำหน่ายเสื้อผ้าและของที่ระลึก


สินค้าแฮนด์เมดที่วางจำหน่ายอยู่ภายใน


โคมสีสันสวยงามประดับอยู่โดยรอบ


บ้านไม้โบราณภายในบริเวณ


ร้านกาแฟภายในบริเวณบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ 


การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดเลย

             - รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดเลยโดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 545 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง

             - เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

             - อื่นๆ (others) จากกรุงเทพ หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ สามารถไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ และลงรถที่สถานีขนส่งเลย โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/ 


การเดินทางไปบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ

             - รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองเลย ไปบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ มีระยะทางประมาณ 39 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที

             สามารถเหมารถหรือเช่ารถไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดเลยได้ตามความสะดวก


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำ จังหวัดเลย ประเทศไทย

                         (Tai Dam Museum House, Loei, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดเลย ประเทศไทย

                         โทรศัพท์ : (+66) 084-925-0771

                         เว็บไซต์ : https://db.sac.or.th/museum/museum-detail/1580

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com   

                                          เว็บไซต์จังหวัดเลย https://loei.mots.go.th

                                          เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ