6 ปราสาทขอมโบราณ ศาสนสถานเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ที่อีสานใต้ของไทย

  • อ่าน (10,118)
  • ByWebmaster
  • 11:34:50 | 30 ส.ค. 2566

6 ปราสาทขอมโบราณ ศาสนสถานเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ที่อีสานใต้ของไทย

             ประเทศไทยมีโบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือปราสาทขอมที่พบอยู่ในหลายจังหวัดของประเทศ เนื่องจากในอดีตบางพื้นที่ของประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมขอมหรือเขมรโบราณเข้ามาในช่วงระหว่างช่วงพุทธศตวรรษที่ 12 - 18 ซึ่งตามคติความเชื่อโบราณนั้นปราสาทขอมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นศาสนสถานและศูนย์กลางของชุมชน แผนผังการสร้างปราสาทส่วนใหญ่จะจำลองให้คล้ายกับเขาพระสุเมรุซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแกนกลางของจักรวาล โดยจะประกอบไปด้วยปราสาทประธาน ปราสาทบริวาร และบารายที่เป็นสระน้ำหรืออ่างเก็บน้ำ ด้วยเหตุนี้การสร้างปราสาทจึงเป็นพระกรณียกิจที่สำคัญของพระมหากษัตริย์หรือเจ้าผู้ครองนครในสมัยนั้น ซึ่งเมื่อขึ้นครองราชย์แล้วจะต้องสร้างปราสาทขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางให้ชุมชนได้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และสร้างบารายให้แก่ประชาชนเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ด้วยเหตุนี้ขนาดของปราสาทจึงแสดงถึงบุญบารมีและอำนาจของผู้ปกครองในสมัยนั้น และยังส่งผ่านความน่าทึ่งทางสถาปัตยกรรมมายังชนรุ่นหลังอีกด้วย วันนี้ Palanla จึงได้รวบรวมหกปราสาทขอมเก่าแก่ที่ควรค่าแก่ไปเที่ยวชมมาฝาก ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ นครราชสีมา สระแก้ว สุรินทร์ และศรีสะเกษ 


แผนที่ปราสาทขอมโบราณทั้ง 6 แห่งในประเทศไทย


1. ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์

             ปราสาทพนมรุ้งเป็นปราสาทหินที่ได้รับการยอมรับว่างดงามที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 15 ด้วยศิลปะขอมผ่านภูมิปัญญาอันแยบยลของคนโบราณที่ถ่ายทอดความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาฮินดูไศวนิกายผ่านลายสลักบนหินนับร้อยนับพันก้อนอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งนอกจากความงดงามและยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมแล้ว ความน่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของปราสาทพนมรุ้งคือ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน โดยในหนึ่งปีจะมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น คือช่วงวันที่ 6-8 มีนาคม, 3-5 เมษายน, 8-10 กันยายน และ 6-8 ตุลาคม ของทุกปี โดยมีความเชื่อกันว่าปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นการเสริมพลังชีวิตและเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่ได้รับชม

การเดินทาง : จากตัวเมืองบุรีรัมย์ไปยังปราสาทพนมรุ้งมีระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 14°31'54.7"N 102°56'25.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทพนมรุ้ง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=270


2. ปราสาทหินพิมาย จังหวัดนครราชสีมา

             ปราสาทหินพิมาย เป็นปราสาทหินใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นประมาณช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมขอมแบบบาปวนผสมผสานกับศิลปะแบบนครวัดที่มีความงดงาม ภายในบริเวณปราสาทหิน มีโบราณสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น คลังเงิน สะพานนาคราช  พระระเบียง  ปรางค์ประธาน ปรางค์พรหมทัต ปรางค์หินแดง สระน้ำหรือบาราย ประตูชัย และกุฏิฤๅษี

การเดินทาง : จากตัวเมืองนครราชสีมาไปยังปราสาทหินพิมายมีระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 น.

พิกัด GPS : 15°13'12.1"N 102°29'38.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทหินพิมาย ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=278


3. ปราสาทเมืองต่ำ จังหวัดบุรีรัมย์

             ปราสาทเมืองต่ำเป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู โดยสันนิษฐานว่าปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาพระศิวะเช่นเดียวกับปราสาทพนมรุ้งที่อยู่ในละแวกใกล้กัน โดยปราสาทเมืองต่ำสร้างขึ้นในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 16 -17 ด้วยสถาปัตยกรรมขอมและบาปวน ลักษณะที่โดดเด่นของปราสาทเมืองต่ำ คือมีการสลักส่วนต่างๆ ด้วยลวดลายอันประณีตสวยงาม และมีบารายขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่าทะเลเมืองต่ำที่ขุดขึ้นเมื่อแรกสร้างปราสาทเพื่อให้ชาวเมืองใช้ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งนับเป็นความสามารถอันน่าทึ่งทางสถาปัตยกรรมของคนสมัยโบราณที่หาชมได้ยาก

การเดินทาง : จากตัวเมืองบุรีรัมย์ไปยังปราสาทเมืองต่ำมีระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 14°29'46.4"N 102°58'56.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับปราสาทเมืองต่ำได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=271


4. ปราสาทศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

             ปราสาทศรีขรภูมิสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17 ตามรูปแบบศิลปกรรมเขมรโบราณเพื่อใช้เป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ปัจจุบันเป็นหนึ่งในปราสาทหินที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ มีลักษณะเด่นคือทับหลังสลักเป็นรูปการร่ายรำของพระศิวะที่มีความงดงามและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และยังมีทับหลังสลักรูปนางอัปสราถือดอกบัวที่มีลักษณะคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ปรากฏที่ปราสาทขอมโบราณแห่งอื่นๆ ในประเทศไทย

การเดินทาง : จากตัวเมืองสุรินทร์ไปยังปราสาทศรีขรภูมิมีระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 14°56'40.3"N 103°47'53.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทศรีขรภูมิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=383


5. ปราสาทสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีษะเกษ

             ปราสาทสระกำแพงใหญ่ สร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 ด้วยศิลปะขอมแบบบาปวน โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่มีลักษณะเป็นปรางค์ 3 องค์ ก่อด้วยหินทรายแซมอิฐ ทอดยาวเรียงกันในแนวทิศเหนือไปทิศใต้ และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก โดยมีปรางประธานอยู่ตรงกลาง สันนิษฐานว่าใช้เป็นเทวาลัยถวายแด่พระศิวะ นอกจากนี้ยังมีการขุดพบบารายขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "สระกำแพง" และพบโบราณวัตถุที่สำคัญหลายชิ้น เช่น พระพุทธรูปปางนาคปรกหินทรายที่ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสระกำแพงใหญ่ที่อยู่ในบริเวณใกล้กัน

การเดินทาง : จากตัวเมืองศรีสะเกษไปยังปราสาทสระกำแพงใหญ่มีระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.30 – 16.30 น.

พิกัด GPS : 15°06'05.9"N 104°07'40.5"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=417


6. ปราสาทสด๊กก๊อกธม จังหวัดสระแก้ว

             ปราสาทสด๊กก๊อกธม เป็นปราสาทที่มีชื่อค่อนข้างแปลกหู เนื่องจากเป็นภาษาเขมร หมายถึง ปราสาทใหญ่ที่มีต้นกกขึ้นรกรุงรัง สร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 ด้วยสถาปัตยกรรมเขมรโดยใช้หินทรายและศิลาแลง มีการตกแต่งพื้นผิวในพื้นที่สำคัญด้วยการแกะสลักลวดลายลงบนเนื้อหินเป็นภาพเล่าเรื่องราวในศาสนาพราหมณ์ฮินดู และลายพันธุ์พฤกษาซึ่งเทียบเคียงได้กับศิลปกรรมในวัฒนธรรมเขมรโบราณแบบคลังผสมกับบาปวน นอกจากนี้ บริเวณปราสาทมีการค้นพบศิลาจารึกที่ทำให้ชนรุ่นหลังได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของตัวปราสาทและรายชื่อลำดับราชวงศ์เขมรในยุคพันปีก่อนอีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งในปราสาทขอมที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวชม

การเดินทาง : จากตัวเมืองสระแก้วไปยังปราสาทสด๊กก๊อกธมมีระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.30 – 16.30 น.

พิกัด GPS : 13°50'36.9"N 102°44'14.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทสด๊กก๊อกธม ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=425


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                             การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/

                             เว็บไซต์อุทยานประวัติศาตร์เสมือนจริง http://virtualhistoricalpark.finearts.go.th/index.php/th/

                             เว็บไซต์ฐานข้อมูลแหล่งข้อมูลโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร https://www.sac.or.th/databases/archaeology/

                             บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th ,  http://www.thairoute.com

                             สกุลเงินที่ใช้ : บาท (THB)

                             ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/


แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในประเทศไทย

                   - Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)


อัตราค่าบริการแท็กซี่ (TAXI FARE)


อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)


สภาพอากาศ (WEATHER)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ