- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
- อ่าน (5,754)
- By Webmaster
- 12:12:51 | 17 ต.ค. 2562
อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
Burj Khalifa, Dubai, United Arab Emiretes
พื้นที่ด้านหน้าอาคารเบิร์จ คาลิฟาที่มีสระน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง
อาคารเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกนับตั้งแต่เปิดใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ. 2009 เป็นสิ่งก่อสร้างที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งด้านสถาปัตยกรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล
แผนที่ตั้ง อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
ประวัติ
ทัศนียภาพของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากลานน้ำพุขนาดใหญ่หน้าอาคาร
อาคารเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) แลนด์มาร์กสำคัญที่ปรากฏอยู่ในสื่อทุกสำนักที่มีการจัดอันดับอาคารที่สูงที่สุดในโลก โดยอาคารเบิร์จ คาลิฟา เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาเมืองขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม และสร้างรายได้ให้กับประเทศ หลังจากมีนโยบายทางเศรษฐกิจที่เน้นพึ่งพาทรัพยากรหลักของประเทศอย่างน้ำมันมากเกินไป ทำให้อาคารเบิร์จ คาลิฟา ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการเปลี่ยนผ่านแนวทางการพัฒนาประเทศครั้งใหญ่ ตัวอาคารได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกันชื่อ เอเดรียน ดี. สมิธ (Adrian D. Smith) จากสำนักงานสถาปนิกสคิดมอร์ โอวิงส์ แอนด์ เมอร์ริลล์ (SOM) บริษัทที่ออกแบบอาคารชื่อดังของโลกหลายแห่ง
นอกจากโครงสร้างภายนอกอาคารที่สร้างสถิติใหม่หลายอย่างแล้ว พื้นที่ภายในก็อลังการไม่แพ้กันเพราะได้รับการออกแบบโดย จอร์โจ อาร์มานี (Giorgio Armani) นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี แบ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว สำนักงาน สระน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ จุดชมวิว ฯลฯ รวมทั้งหมด 163 ชั้น และยอดบนสุดของอาคารยังติดตั้งเสาอากาศสื่อสารของเจ้าหน้าที่ราชการในเมืองดูไบ โดยอาคารเปิดใช้งานครั้งแรกในวันที่ 2 ธันวาคม 2009 ใช้เวลาในการสร้างทั้งหมด 6 ปี
ปัจจุบันอาคารเบิร์จ คาลิฟา ถือครองสถิติระดับโลกหลายสถิติ ทั้งการเป็นอาคารที่มีจำนวนชั้นมากที่สุดในโลก (163 ชั้น), มีความสูงที่สุดในโลก (828 ชั้น), มีปล่องลิฟต์ที่ยาวที่สุดในโลก (514 เมตร), ลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก (8 ม/วินาที) ฯลฯ และเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ปฏิบัติการไร้เงา (Mission: Impossible – Ghost Protocol) จนถูกยกให้เป็นอาคารที่ประสบความสำเร็จที่สุดหลังหนึ่งของโลกทั้งในด้านสถาปัตยกรรม และกลายเป็นแหล่งดึงดูรายได้จากนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
การเดินทางจากสนามบินดูไบไปยังสถานีรถไฟหลักของเมืองดูไบ
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานี Burjuman Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 นาที ตัวสถานีจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นชุมทางหลักในการเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟเส้นอื่น
- รถไฟ จากสนามบินให้เดินมาขึ้นรถไฟได้ทั้งด้านหน้าเทอร์มินัล 1 (Airport Terminal Station 1) และ 3 (Airport Terminal Station 3) เพื่อไปลงที่สถานี Burjuman Station ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที ตัวสถานีจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นชุมทางหลักในการเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟเส้นอื่นของเมือง
การเดินทางจากสถานีรถไฟหลักของเมืองไปยังอาคารเบิร์จ คาลิฟา
- รถยนต์ จาก Burjuman Station ไปยังอาคารเบิร์จ คาลิฟา ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที
- รถไฟ จากสถานี Burjuman Station ให้ขึ้นรถไฟสายสีแดง ไปลงสถานี Burj Khalifa / Dubai Mall Station ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 21 นาที แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง อาคารเบิร์จ คาลิฟา
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดให้เข้าตลอดเวลา / จุดชมวิวในชั้น 123 - 124 เปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 23:00 น. / พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ 10:00 น. – 24:00 น.
โครงสร้างสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคารเบิร์จ คาลิฟา
อัตราค่าเข้าชม
นักท่องเที่ยวเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิว และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้ทีเดียวในราคา 202 เดอร์แฮ่ม (AED) / เด็ก (4 - 12ปี) ราคา 170 เดอร์แฮ่ม (AED)
สถาปัตยกรรมของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากมุมต่างๆ โดยรอบอาคาร
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่มาเดินเล่นบริเวณหน้าอาคารเบิร์จ คาลิฟา
โครงสร้างของอาคารเบิร์จ คาลิฟาเมื่อมองมาจากอีกฝั่งของตัวอาคาร
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว อาคารเบิร์จ คาลิฟา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
อาคารเบิร์จ คาลิฟา รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
(Burj Khalifa, Dubai, United Arab Emiretes)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิว และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ได้ทีเดียวในราคา 202 เดอร์แฮ่ม (AED) / เด็ก (4-12ปี) ราคา 170 เดอร์แฮ่ม (AED)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าตลอดเวลา
จุดชมวิวในชั้น 123 - 124 เปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 23:00 น.
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ 10:00 น. – 24:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : รัฐดูไบ ประเทศอาหรับเอมิเรตส์
โทรศัพท์ : (+971) 4-366-1688
เว็บไซต์ : https://www.burjkhalifa.ae/en/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองดูไบ https://dubaiculture.gov.ae/en/Pages/default.aspx
เว็บไซต์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเมืองดูไบ https://www.dubai-online.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
อ่านต่อชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที
อ่านต่อคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
อ่านต่อเนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”
อ่านต่ออามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
อ่านต่อวัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
อ่านต่อ