เช็คพอยท์ชาร์ลี เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

  • อ่าน (3,970)
  • By Webmaster
  • 17:23:53 | 25 ก.ย. 2562

เช็คพอยท์ชาร์ลี เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

Checkpoint Charlie, Berlin, Germany


การจัดแสดงสถานการณ์จำลองของด่านชาร์ลีในยุคนั้น

           เช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) หรือด่านชาร์ลี แต่เดิมเป็นด่านตรวจเข้าออกพรมแดนระหว่างเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตกในช่วงสงครามเย็น (Cold War) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนฟรีดริชสตราสเซอ (Friedrichstraße) และซิมเมอร์สตราสเซอ (Zimmerstraße) และยังเป็นบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การเผชิญหน้ากันของรถถังอเมริกากับโซเวียตในปี ค.ศ. 1961 ในปัจจุบันเช็คพอยท์ชาร์ลีเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในกรุงเบอร์ลิน โดยมีการจำลองด่าน ธงชาติ ป้ายประกาศ และแผงกระสอบทรายกันกระสุนไว้ตรงที่เดิม พร้อมนักแสดงที่ใส่ชุดทหารประกอบ เพื่อสร้างบรรยากาศในยุคนั้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่คึกคักของอาคารร้านค้าสองข้างทางในยุคนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับการแต่งนวนิยายแนวสืบสวนชื่อดังอย่างเช่นเรื่อง James Bond in Octopussy ไปจนถึง The Spy Who Came In From The Cold


แผนที่ตั้ง เช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี


ประวัติ

           ตัวอักษร "C" ที่ขึ้นต้นคำว่า "Charlie" เป็นรหัสตัวอักษรที่ใช้สื่อสารเรียกด่านแต่ละด่านในแนวเขตแดนแบ่งแยกเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตก เปรียบเหมือนเป็นชื่อเล่นของด่านนั้นๆ ตั้งโดยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO: North Atlantic Treaty Organization) ซึ่งเป็นองค์การที่ฝ่ายพันธมิตรซึ่งปกครองเยอรมนีตะวันตกในขณะนั้นได้เข้าร่วม โดยด่านต่างๆ มีชื่อเรียกเรียงตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ได้แก่ ด่านอัลฟา (Alpha) ในเขตเฮล์มสเต็ดท์ (Helmstedt) ด่านบราโว (Brovo) ในเขตเดรียลินเดน (Dreilinden) และด่านชาร์ลี (Charlie) ที่ถนนฟรีดริชสตราสเซอ (Friedrichstraße) ซึ่งเช็คพอยท์ชาร์ลีนั้นเป็นจุดผ่านแดนแห่งที่สามที่ตั้งขึ้นโดยฝ่ายพันธมิตร อยู่ในความดูแลของสหรัฐอเมริกา (ด่านอัลฟากับด่านบราโวอยู่ในความดูแลของฝรั่งเศสและอังกฤษ) โดยผู้ที่สามารถผ่านเข้าออกได้มีเพียงแค่นักการทูตและชาวต่างชาติเท่านั้น

           ในช่วงสงครามเย็น (Cold War) กองทัพสหรัฐฯ ได้ตั้งค่ายทหารขึ้นที่เช็คพอยท์ชาร์ลีในวันที่ 22 กันยายนปี ค.ศ. 1961 และกองทัพอังกฤษและฝรั่งเศสก็ได้ตามมาสมทบเพื่อกดดันทางฝั่งโซเวียต (ที่ปกครองเยอรมนีตะวันออกอยู่ในขณะนั้น) เพื่อปกป้องสิทธิพื้นฐานของชาวเบอร์ลิน ทางโซเวียตจึงได้นำรถถังออกมาประจันหน้ากับรถถังของกองทัพสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความกดดันและความตึงเครียดอยู่ราวสิบหกชั่วโมง จนชาวโลกหวั่นเกรงว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม แต่ในที่สุดก็สามารถเจรจาหารือกันในระดับสูงได้ เช็คพอยท์ชาร์ลีจึงโด่งดังไปทั่วโลกจากเหตุการณ์ครั้งนี้

           หลังจากกำแพงเบอร์ลินล่มสลายลงในวันที่ 9 พฤศจิกายน ปีค.ศ.1989 กำแพงและด่านต่างๆ ได้ถูกรื้อออกไป ทางพิพิธภัณฑ์ Mauermuseum The Wall Le Mur ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับเช็คพอยท์ชาร์ลี ได้เก็บรวมรวมและจัดแสดงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเช็คพอยท์ชาร์ลีในสมัยนั้นเอาไว้ เช่น ชิ้นส่วนและเรื่องราวของกำแพงเบอร์ลิน หอสังเกตการณ์ รั้วลวดหนาม รถถัง วีรบุรุษ สายลับ วิธีการและนวัตกรรมที่ชาวเยอรมันตะวันออกใช้หลบหนีมายังตะวันตกในยุคนั้น รวมถึงนิทรรศการกลางแจ้งที่จำลองป้ายประกาศ ธงชาติ ด่านตรวจ และทหาร เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

 
นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกบริเวณนี้ จากภาพจะเห็นพิพิธภัณฑ์ Mauermuseum The Wall Le Mur ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ


ภาพของ Sergeant Jeff Harper ทหารอเมริกันที่เคยยืนประจำการที่ด่านชาร์ลี


ภาพของทหารโซเวียตในยุคนั้น ซึ่งไม่ปรากฎชื่อว่าคือใคร


ภาพแผนที่แสดงเขตแดนระหว่างเบอร์ลินตะวันออกกับเบอร์ลินตะวันตกโดยจุดกลมสีแดงคือด่านชาร์ลี


ซากประตูด่านที่นำมาจัดแสดง ด้านหลังเป็นศูนย์แสดงข้อมูลเกี่ยวกับกำแพงเบอร์ลิน


การเดินทางจากสนามบินเบอร์ลินเทเกิลไปยังสถานีรถไฟกลางเบอร์ลิน (Berlin Central Station)

             - รถยนต์ (Car) จาก Berlin-Tegel Airport (TXL) ไปยัง Berlin Central Station มีระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จากอาคารผู้โดยสารขาเข้า ให้เดินต่อไปยังอาคาร Airport Tegel Berlin Bus Station และขึ้นรถบัสสาย TXL ระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี S+U Berlin Hauptbahnhof ก็จะถึง Berlin Central Station (ชื่อสถานีภาษาเยอรมันคือ Berlin Hauptbahnhof อ่านว่า เบอร์ลิน โฮพท์-บาห์น-ฮอฟ)


การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเบอร์ลินไปยังเช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie)

             - รถยนต์ (Car) จาก Berlin Central Station ไปยัง Checkpoint Charlie มีระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงสถานี Berlin Friedrichstraße station เพื่อมาต่อรถไฟสาย U และไปลงยังสถานี U Kochstraße/Checkpoint Charlie จากนั้นเดินต่อไปยัง Checkpoint Charlie อีกประมาณ 140 เมตร ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 12 นาที


เวลาทำการเปิด-ปิด

           เปิดทุกวัน วันจันทร์ – วันอาทิตย์ 09:00 น. - 22:00 น.


ป้ายจำลองคำเตือนในยุคนั้น ซึ่งป้ายของจริงถูกเก็บรักษาและจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์


อัตราค่าเข้าชม

           บริเวณแลนด์มาร์ก ไม่เสียค่าเข้าชม

           บริเวณพิพิธภัณฑ์ Mauermuseum The Wall Le Mur มีค่าเข้าชม ดังนี้

                 - ตั๋วผู้ใหญ่ ราคา 14.50 Euro

                 - ตั๋วผู้ใหญ่ที่มาเป็นกลุ่มจำนวน 25 คนขึ้นไป ราคา 9.50 Euro

                 - ตั๋วนักเรียน/นักศึกษา อายุระหว่าง 7-18 ปี ราคา 7.50 Euro

                 - ตั๋วสำหรับผู้พิการที่มีเอกสารยืนยัน ราคา 9.50 Euro

                 - ผู้ดูแลผู้พิการที่ผ่านการลงทะเบียนเข้าชมฟรี

                 - เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

          ตลอดทั้งปี


มีป้ายจัดแสดงข้อมูลเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นที่เช็คพอยท์ชาร์ลีให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้


           นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Checkpoint Charlie สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       เช็คพอยท์ชาร์ลี เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

                       (Checkpoint Charlie, Berlin, Germany)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : บริเวณแลนด์มาร์ก ไม่เสียค่าเข้าชม

                                    บริเวณพิพิธภัณฑ์ Wall Museum - Museum Haus am Checkpoint Charlie มีค่าเข้าชม ดังนี้

                                         - ตั๋วผู้ใหญ่ ราคา 14.50 Euro

                                         - ตั๋วผู้ใหญ่ที่มาเป็นกลุ่มจำนวน 25 คนขึ้นไป ราคา 9.50 Euro

                                         - ตั๋วนักเรียน/นักศึกษา อายุระหว่าง 7 - 18 ปี ราคา 7.50 Euro

                                         - ตั๋วสำหรับผู้พิการที่มีเอกสารยืนยัน ราคา 9.50 Euro

                                         - ผู้ดูแลผู้พิการที่ผ่านการลงทะเบียนเข้าชมฟรี

                                         - เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09:00 น. – 22:00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

                       โทรศัพท์ : +49 30 253725-0

                       เว็บไซต์ : https://www.mauermuseum.de/en/start/

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather

                                        เว็บไซต์ทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.berlin.de/en

                                        เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.visitberlin.de/en

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล

อ่านต่อ

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป

อ่านต่อ

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก

ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!

อ่านต่อ

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย

อ่านต่อ

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ