การเดินทางโดยวิธีต่างๆ ในฮ่องกง

  • อ่าน (11,664)
  • By Webmaster
  • 14:14:40 | 26 มิ.ย. 2562

การเดินทางโดยวิธีต่างๆ ในฮ่องกง

Transportation in Hong Kong

           ฮ่องกงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองโดยขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกสบาย เนื่องจากแต่ละจุดนั้นเชื่อมถึงกันอย่างทั่วถึง ไม่ว่าเดินทางโดยรถไฟ รถบัส รถราง เรือข้ามฟาก หรือใช้บริการแท็กซี่ก็สามารถทำได้โดยไม่ยากและทำให้ท่องเที่ยวเป็นไปอย่างสนุก


เรือข้ามฟากสตาร์เฟอรี่
(Ferries)

           สตาร์เฟอรี่ (Star Ferry) คือบริการเรือโดยสารข้ามฟากอ่าววิคตอเรีย (Victoria Harbour) ที่ให้บริการระหว่างเกาะฮ่องกง (Hong Kong Island) และ เกาลูน (Kowloon) ดำเนินงานโดยบริษัทสตาร์เฟอรี่ (Star Ferry Company) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1888 ภายใต้ชื่อบริษัทเกาลูนเฟอรี่ (Kowloon Ferry Company) ในขณะนั้นก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทสตาร์เฟอรี่ในปี ค.ศ. 1898

           เรือโดยสารสตาร์เฟอรี่มีทั้งหมด 12 ลำ ให้บริการเดินเรือแบ่งออกเป็น 2 สายข้ามอ่าววิคตอเรีย โดยสายหลักคือสายที่ให้บริการระหว่างเซ็นทรัล (Central) และจิมชาฉุ่ย (Tsim Sha Tsui) ในแต่ละวันมีผู้ใช้บริการมากกว่า 70,000 คน หรือ 26 ล้านคนต่อปี และแม้ว่าอ่าววิคตอเรียจะมีทางรถไฟพาดข้ามและมีอุโมงค์ลอดใต้ทะเลที่สามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกแต่เรือสตาร์เฟอรี่ก็ยังเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาไม่แพง เพียง 3 HKD กว่าๆ เท่านั้น


ภาพในอดีตของเรือสตาร์เฟอรี่


ท่าเรือสตาร์เฟอรี่ที่ Tsim Sha Tsui เมื่อปี ค.ศ.1950

ที่ตั้ง

             ท่าเรือฝั่งเซ็นทรัล ตั้งอยู่ติดกับ Hong Kong Maritime Museum, เฟอร์ริสวีล (Ferris Wheel) ที่สามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด และไม่ไกลจากรถไฟ MTR สถานี Central Station


ท่าเรือฝั่งเซ็นทรัล


Hong Kong Maritime Museum

             ท่าเรือฝั่งเกาลูนหรือจิมชาฉุ่ย ตั้งอยู่ติดกับ Hong Kong Cultural Centre, Kowloon Ferry Terminal ซึ่งเป็นท่าเรือสำหรับการเดินทางข้ามไปมาระหว่างฮ่องกงและมาเก๊า และไม่ไกลจากรถไฟ MTR สถานี East Tsim Sha Tsui Station


ท่าเรือฝั่งเกาลูนหรือจิมชาฉุ่ย 

ค่าโดยสาร

           2.7 HKD วันธรรมดา

           3.7 HKD วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

           เรือสาย Tsim Sha Tsui – Central จะมีแบบ Upper Deck และ Lower Deck แบบ Upper Deck ราคาจะมากกว่าเพียงนิดหน่อย


ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

วิธีใช้บริการ

           1. หยอดเหรียญที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเพื่อแลก Token แล้วนำไปแตะตรงที่กั้นคล้ายๆ กับการใช้บริการ MRT ที่ไทย

           2. ผู้ที่มีบัตร Octopus สามารถแตะเพื่อผ่านเข้าที่กั้นได้เลย

           ทั้งนี้แนะนำให้ใช้บัตร Octopus จะสะดวกและรวดเร็วกว่า ไม่ต้องรอคิวหยอดเหรียญจากเครื่องที่มีให้บริการอยู่จำกัด ซึ่งบางครั้งบางเครื่องก็ชำรุดและใช้การไม่ได้


ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วมีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษบอกขั้นตอนการใช้


เจ้าหน้าที่ยืนคอยให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวอย่างยิ้มแย้ม

           เมื่อแตะบัตรหรือ Token ผ่านที่กั้นเข้าไปแล้วก็นั่งรอที่เก้าอี้ที่มีไว้ให้บริการ ท่าสำหรับลงเรือจะมีสองฝั่งทั้งซ้ายและขวา โดยให้สังเกตว่าที่ผนังของทั้งสองฝั่งซ้ายและขวาจะมีสัญญาณไฟกลมๆ สีเขียวและสีแดงคล้ายกับสัญญาณไฟจราจรติดอยู่ เมื่อได้เวลาลงเรือฝั่งไหนสัญญาณไฟฝั่งนั้นก็จะเป็นสีเขียวและมีเสียงออดดังเพื่อบอกให้ทราบ ป้องกันการสับสน แม้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยใช้บริการเรือข้ามฟากสตาร์เฟอรี่มาก่อนก็สามารถใช้บริการได้อย่างไม่ยากและสะดวกมาก


บริเวณที่นั่งรอสำหรับขึ้นเรือ

 
ที่นั่งกว้างขวางบนเรือ


ทัศนียภาพอันสวยงามระหว่างทางที่เรือแล่นข้ามอ่าวมารีน่า

เวลาให้บริการ

           เรือสตาร์เฟอรี่ให้บริการตั้งแต่เวลา 6.30 น. – 23.30 น. ทุกวัน นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางและตรวจสอบค่าโดยสารจากท่าเรือแต่ละแห่งไปยังท่าเรือจุดหมายปลายทางได้ที่ https://www.hongkong.net/attractions/star-ferry.html


รถบัสและมินิบัส
(Buses and Minibuses)


รถบัส (Bus)


รถบัสเล็ก (Minibus)

             รถบัสในฮ่องกงมี 2 ประเภท คือรถบัส (Bus) ลักษณะคือเป็นรุ่นใหม่แบบ 2 ชั้นมีแอร์คอนดิชั่น คล้ายๆ กับรถทัวร์ของไทย และรถบัสเล็ก (Minibus) รุ่นเก่าแบบ 16 ที่นั่งไม่มีแอร์ ลักษณะคล้ายๆ กับรถร่วมบริการคันเล็กๆ ที่วิ่งในกรุงเทพฯ

ค่าโดยสาร

           ขึ้นอยู่กับระยะทางของสายต่างๆ หากเป็นการเดินทางภายในตัวเมืองระยะใกล้ๆ ค่าโดยสารอาจอยู่ที่ประมาณ 5.1HKD สำหรับรถบัสสาย A ตามด้วยตัวเลขต่างๆ (A10 A11 A12 A21 A22 A29 A31 A33 A41 A41P A43) ที่ให้บริการจากตัวเมืองไปสนามบินหรือจากสนามบินมาตัวเมือง ค่าโดยสารอยู่ที่ 30 - 40 HKD

วิธีใช้บริการ

           1. ยืนรอรถบัสสายที่ต้องการจะขึ้นให้ตรงกับหมายเลขป้ายซึ่งจะมีบอกไว้ที่แต่ละป้าย

           2. การขึ้นรถ ให้ขึ้นที่ประตูหน้าฝั่งคนขับเท่านั้น แตะบัตร Octopus ที่เครื่อง ระบบจะทำการหักเงินจากบัตรอัตโนมัติ หรือหากใช้เงินสดจ่ายก็จะมีตัวเลขขึ้นให้ทราบว่าต้องหยอดเงินจำนวนเท่าไร แต่ทั้งนี้เครื่องจะไม่มีระบบทอนเงิน ฉะนั้นควรเตรียมเงินค่ารถให้พอดี

           3. การลงรถ ให้ลงที่ประตูหลังเท่านั้น เมื่อถึงป้ายสามารถลงได้เลย ไม่มีการแตะบัตรใดๆ


ขึ้นที่ด้านหน้า และแตะบัตร Octopus ตรงบริเวณที่เป็นภาพบัตรสีส้มๆ หรือหยอดเงินตามจำนวนตัวเลขที่แสดง เช่น $5.1 ลงในช่องสำหรับเงินสดที่อยู่ข้างๆ กัน


บรรยากาศภายในรถบัส 


เวลาลงจากรถลงที่ประตูด้านหลังเท่านั้น

เวลาให้บริการ

           รถบัสในฮ่องกงส่วนใหญ่ให้บริการตั้งแต่เวลา 5.30 น.หรือ 6.00 น. ไปจนถึง 12.00 น. หรือ 12.30 น. นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางและตรวจสอบค่าโดยสารจากแต่ละป้ายไปยังป้ายจุดหมายปลายทางได้ที่ https://mobile.nwstbus.com.hk/nwp3/


รถไฟฟ้า
(MTR)

           ฮ่องกงมีเครือข่ายการขนส่งทางรถไฟที่กว้างขวางครอบคลุมทั้ง Airport Express, รถไฟไปยังเซินเจิ้น, Light Rail และ MTR ซึ่งถูกรวมเข้าเป็นเครือข่ายเดียว มีสถานีที่นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนเส้นทางได้อย่างสะดวกและมีระบบการชำระเงินที่สม่ำเสมอ รถไฟฟ้า (MTR) เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและเป็นวิธีที่สะดวกในการเดินทางข้ามเมือง โดยเชื่อมต่อเกาะฮ่องกง, เกาลูน, New Territories และเกาะลันเตา สัญลักษณ์ของ MTR คือวงกลมสีแดงที่มีสัญลักษณ์สีขาว


สัญลักษณ์ของ MTR คือวงกลมสีแดงที่มีสัญลักษณ์สีขาว

ค่าโดยสาร

            ขึ้นอยู่กับระยะทาง ยกตัวอย่างสถานีใกล้ๆ ที่ห่างกันเพียงหนึ่งสถานี เช่น สถานีจิมซาฉุ่ยไปสถานีจอร์แดน ค่าโดยสารอยู่ที่ 5 HKD ส่วนจากสถานีจิมซาฉุ่ยไปสถานีดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ซึ่งมีระยะทางที่ไกลและใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 20.8 HKD

รถไฟสายต่างๆ


แผนที่รถไฟในระบบ MTR

           รถไฟในระบบ MTR ของฮ่องกงมีทั้งหมด 10 สาย ได้แก่ Island Line, Kwun Tong Line, Tsuen Wan Line, Tung Chung Line, Tseung Kwan O Line, Ma On Shan Line, East Rail Line, West Rail Line, the Airport Express and Disneyland Resort Line โดยรถไฟสายต่างๆ ของฮ่องกงมีสถานีรวมมากกว่า 80 สถานี นอกจากนี้ยังประกอบด้วยเครือข่าย Light Rail ที่ให้บริการทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเขต New Territories

           หนึ่งในสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดเกี่ยวกับ MTR ของฮ่องกงคือการนำทาง แต่ละสถานีมีระบบนำทางที่ยอดเยี่ยม โดยมีสัญญาณบอกทางแสดงทางออกและทิศทางไปยังชานชาลาที่ชัดเจนและมีอยู่ทุกที่ รวมถึงจอแสดงผลอิเล็กทรอนิกส์บนแพลตฟอร์มแสดงเวลาโดยประมาณของรถไฟที่กำลังมาถึง นอกจากนี้ภายในรถไฟยังมีสัญลักษณ์เป็นลูกศรที่มีไฟสีเขียวชี้บอกสถานีที่กำลังจะถึงอย่างชัดเจนบนแผนที่เหนือประตูเข้าออกรถไฟซึ่งง่ายต่อการเข้าใจและไม่เกิดความสับสน


ภายในรถไฟมีสัญลักษณ์เป็นลูกศรที่มีไฟสีเขียวชี้บอกสถานีที่กำลังจะถึงอย่างชัดเจน

วิธีใช้บริการ

           1. ตรวจสอบสายรถไฟที่ต้องการขึ้นและซื้อบัตรโดยสารที่เครื่องออกบัตร หรือใช้บัตร Octopus

           2. มองหาชื่อสายรถไฟและตามสัญลักษณ์บอกทางไปยังที่กั้นก่อนเข้าไปยังชานชาลา

           3. แตะบัตร Octopus ที่แท่นแตะบัตรสีเหลือง บัตรโดยสารประเภทอื่นๆ อาจใช้วิธีสอด

           4. ผลักที่กั้นและเดินเข้าไปรอยังชานชาลาตามชื่อสายรถไฟที่จะขึ้น


แท่นแตะบัตร Octopus

 
แตะบัตรและผลักที่กั้น

สถานีผู้โดยสารแต่ละแห่งจะมีสิ่งต่างๆ ดังนี้

           1. เครื่องออกตั๋วที่ผู้โดยสามารถซื้อตั๋วเดินทางแบบเที่ยวเดียวหรือแบบไปกลับด้วยตัวเอง เครื่องรับเหรียญ 50 cents, HK$1, HK$2, HK$5 และ HK$10 และมีบางตู้ที่รับธนบัตร

           2. เครื่องเติมเงินบัตร Octopus สำหรับผู้ที่มีบัตรอยู่แล้ว เครื่องรับธนบัตร HK$50 และ HK$100

           3. เครื่องตรวจสอบบัตร Octopus ใช้สำหรับตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและรายละเอียดข้อมูลการการทำธุรกรรม Octopus 10 ครั้งล่าสุด

           4. เคาน์เตอร์ Customer Service Centre ซึ่งจำหน่ายบัตร Octopus สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตร รวมถึงบัตรประเภทอื่นๆ

 
เครื่องออกตั๋วโดยสารอัตโนมัติ


เคาน์เตอร์ Customer Service Centre

เวลาให้บริการ

           รถไฟในฮ่องกงมีให้บริการตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 1.00 น. โดยรถไฟส่วนใหญ่จะวิ่งทุก 2 - 4 นาที นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางและตรวจสอบค่าโดยสารจากแต่ละสถานีไปยังจุดหมายปลายทางได้ที่ http://www.mtr.com.hk/en/customer/main/index.html


รถราง
(Trams)

           รถรางในฮ่องกงเปิดใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ.1904 และให้บริการเฉพาะทางด้านเหนือของเกาะฮ่องกง เป็นหนึ่งในระบบขนส่งสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง ดำเนินงานโดยบริษัท Hong Kong Tramways Limited (HKT) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Veolia Transport China Limited (VTCL) ในปี ค.ศ.1904 รถรางฮ่องกงมีเพียง 26 คัน แต่ปัจจุบันมีกองทัพรถรางสองชั้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกมากกว่า 160 คัน และมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 200,000 คนต่อวัน

           รถรางฮ่องกงมีเส้นทางรถรางทั้งหมด 6 เส้นทาง, 120 ป้าย และมีรถรางวิ่งระหว่างเมืองเคนเนดี (Kennedy Town) ทางฝั่งตะวันตกและเมืองเชาเควัน (Shau Kei Wan) ทางฝั่งตะวันออกทุกวันตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึงเที่ยงคืน โดยทั่วไปความถี่ในทุกเส้นทางขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร (ปกติ 2-4 นาที) ในช่วงเวลาเร่งด่วนรถรางจะออกโดยเฉลี่ยทุก ๆ 1.5 นาที

           รถรางทุกเส้นทางจะวิ่งผ่านใจกลางเมือง (Central, Admiralty, Wan Chai หรือ Causeway Bay) รถรางนั้นไม่เร็วเมื่อเทียบกับการเดินทางประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่เป็นการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะที่ประหยัดที่สุดในฮ่องกง นอกจากนี้ทำหน้าที่ด้านการขนส่งแล้วรถรางยังกลายเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจและได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อมาฮ่องกงอีกด้วย


การขึ้นรถรางให้ขึ้นทางประตูหลัง และลงทางประตูหน้าเท่านั้น

ค่าโดยสาร

           HK $ 2.3

วิธีใช้บริการ

           1. การขึ้น ทางเข้ารถรางอยู่ทางด้านหลัง ให้ขึ้นทางประตูหลังเท่านั้น

           2. ชำระเงินเมื่อจะลงจากรถราง โดยแตะบัตร Octopus ที่แท่นใกล้คนขับ ระบบจะทำการหักเงินจากบัตรอัตโนมัติ หรือหากใช้เงินสดจ่ายก็จะมีตัวเลขขึ้นให้ทราบว่าต้องหยอดเงินจำนวนเท่าไร แต่ทั้งนี้เครื่องจะไม่มีระบบทอนเงิน ฉะนั้นควรเตรียมเงินค่ารถให้พอดี

           3. การลง ประตูสำหรับลงรถรางจะอยู่ทางด้านหน้า ให้ลงรถทางประตูหน้าเท่านั้น

เวลาให้บริการ

           ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึงเที่ยงคืนโดยประมาณ นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางและตรวจสอบค่าโดยสารจากแต่ละสถานีไปยังจุดหมายปลายทางได้ที่ https://www.hktramways.com/en/interactive-map



แท็กซี่ (Taxis)

           แท็กซี่มีอยู่มากมายทั่วฮ่องกง ยกเว้นบางพื้นที่ในแถบชนบทที่ห่างไกล นักท่องเที่ยวสามารถเรียกแท็กซี่เหล่านั้นได้ตามถนน (ยกเว้นในพื้นที่จำกัด) หรือเรียกใช้บริการผ่านโทรศัพท์ รถแท็กซี่ทุกคันจะติดมิเตอร์คิดค่าโดยสาร ราคาค่อนข้างถูก มีเครื่องปรับอากาศและสะอาด

           รถแท็กซี่ในฮ่องกงจะแบ่งป็น 3 สี ได้แก่ สีแดง สีเขียว และสีฟ้า ตามพื้นที่ให้บริการ และนอกจากนี้ยังมีแท็กซี่ที่ออกแบบมาพิเศษมารองรับความต้องการของลูกค้า แท็กซี่ทุกแบบสามารถเดินทางจากสนามบินนานาชาติฮ่องกง และฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ 


แท็กซี่สีแดง

แท็กซี่สีแดง

           แท็กซี่สีแดงให้บริการทั่วพื้นที่ฮ่องกงโดยส่วนใหญ่ ยกเว้นถนนตุงชุงบนเกาะลันเตาและทางตอนใต้ของเกาะลันเตาทั้งหมด

>>ค่าโดยสาร

           2 กิโลเมตรแรก (หรือระยะใดระยะหนึ่งในช่วง 2 กิโลเมตร) คิด HK$24.00

           ทุกๆ 200 เมตร (หรือระยะใดระยะหนึ่งในช่วง 200 เมตร) และทุกช่วงเวลาที่รอ 1 นาที (หรือเวลาใดเวลาหนึ่งในช่วง 1 นาที) สำหรับค่ามิเตอร์ที่ต่ำกว่า HK$83.50 คิด HK$1.70 สำหรับค่ามิเตอร์ราคา HK$83.50 หรือมากกว่า คิด HK$1.20


แท็กซี่สีเขียว

           แท็กซี่สีเขียวจะให้บริการเฉพาะเขตนิวเทอร์ริทอรี่ส์เท่านั้น

>>ค่าโดยสาร

           2 กิโลเมตรแรก (หรือระยะใดระยะหนึ่งในช่วง 2 กิโลเมตร) คิด HK$20.50

           ทุกๆ 200 เมตร (หรือระยะใดระยะหนึ่งในช่วง 200 เมตร) และทุกช่วงเวลาที่รอ 1 นาที (หรือเวลาใดเวลาหนึ่งในช่วง 1 นาที) สำหรับค่ามิเตอร์ที่ต่ำกว่า HK$65.50 คิด HK$1.50 สำหรับค่ามิเตอร์ราคา HK$65.50 หรือมากกว่า คิด HK$1.20


แท็กซี่สีฟ้า

           แท็กซี่สีฟ้าให้บริการเฉพาะบนเกาะลันเตาเท่านั้น

>>ค่าโดยสาร

           2 กิโลเมตรแรก (หรือระยะใดระยะหนึ่งในช่วง 2 กิโลเมตร) คิด HK$19

           ทุกๆ 200 เมตร (หรือระยะใดระยะหนึ่งในช่วง 200 เมตร) และทุกช่วงเวลาที่รอ 1 นาที (หรือเวลาใดเวลาหนึ่งในช่วง 1 นาที) สำหรับค่ามิเตอร์ที่ต่ำกว่า HK$154.00 คิด HK$1.50 สำหรับค่ามิเตอร์ราคา HK$154.00 หรือมากกว่า คิด HK$1.40

           นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.taxihongkong.com/


แท็กซี่ แอกเซสเอเบิ้ล

           Accessible taxi service ให้บริการสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการและผู้โดยสารที่มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่

           1. DiamonCab สามารถรองรับผู้โดยสารที่มีรถเข็นวีลแชร์ 2 คันและผู้ดูแล2 ท่าน หรือผู้โดยสาร 5 ท่านโดยไม่มีรถเข็นวีลแชร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.diamondcab.com.hk/en/

           2. SynCab สามารถรองรับผู้โดยสารที่มีรถเข็นวีลแชร์ 1 คันและผู้ดูแล 2 ท่าน หรือผู้โดยสาร 4 ท่านโดยไม่มีรถเข็นวีลแชร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://syncab.com.hk/en/

           ข้อควรรู้อย่างหนึ่งเกี่ยวกับการใช้บริการแท็กซี่ในฮ่องกงคือ คนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่จะไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ดังนั้น นักท่องเที่ยวควรเตรียมชื่อสถานที่ที่ต้องการไปเป็นภาษาจีนไว้ให้พร้อม หากมีภาพประกอบด้วยจะยิ่งเป็นประโยชน์มาก

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ