ปราสาทโอซาก้า จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (3,655)
  • By Webmaster
  • 17:58:00 | 24 มิ.ย. 2562

ปราสาทโอซาก้า จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

Osaka Castle, Osaka, Japan


ปราสาทโอซาก้าเป็นปราสาทที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจีมากมาย

           ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) คือหนึ่งในปราสาท ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ และแสดงถึงความยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ของเมืองชื่อดังอย่างโอซาก้า ปราสาทโอซาก้านั้นสร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1583 ตัวปราสาทกลางจะมีทั้งหมด 8 ชั้น เป็นส่วนบนพื้นดิน 5 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น ซึ่งปราสาทแห่งนี้ถูกห้อมล้อมไปด้วย คูน้ำ กำแพงหิน สวนนิชิโนมารุ (Nishinomaru Garden) รวมเป็นพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตร (15 เอเคอร์) ทำให้นอกจากความยิ่งใหญ่ของตัวปราสาทโอซาก้าเองแล้ว ยังเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีผู้คนมาทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงยังเป็นแหล่งชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโอซาก้าอีกด้วย


แผนที่ตั้ง ปราสาทโอซาก้า จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติ


ปราสาทโอซาก้ามีนักท่องเที่ยมมาเยี่ยมชมมากมายแม้ฝนจะตก

             ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งทุกคนที่มาเที่ยวโอซาก้าจะต้องแวะมาแน่นอน เพราะปราสาทแห่งนี้ เป็นเหมือนภาพแทนที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ และประวัติศาสตร์มากมายของเมือง ซึ่งเกิดขึ้นโดยมีปราสาทแห่งนี้เป็นศูนย์กลาง โดยปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) สร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1583 โดย โทโยมิ ฮิเดะโยชิ (Toyomi Hideyoshi) หนึ่งในแม่ทัพที่ทรงอิทธิพลที่สุดของญี่ปุ่นในช่วงนั้น โดยหวังให้ตัวปราสาทแห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลางความยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น และตลอดระยะเวลาหลังจากนั้น ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ก็ผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญๆ ของเมืองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโดนรุกรานจากสงคราม ภัยธรรมชาติ ตลอดจนทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จนมาในปีค.ศ.1931 ได้มีการบูรณะปราสาทครั้งใหญ่ จากการระดมทุนของชาวโอซาก้า จนกลายเป็นปราสาทโอซาก้าที่สวยงาม และยิ่งใหญ่อย่างในปัจจุบัน


ทางขึ้นไปยังตัวปราสาทกลางอีกด้านของปราสาทโอซาก้า

           นอกจากนั้นด้านในของปราสาทยังมีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ซึ่งปัจจุบันตัวปราสาทกลางมีทั้งหมด 8 ชั้น แบ่งเป็นส่วนที่อยู่พื้นดิน 5 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น โดยภายในจะมีตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการที่เล่าถึงเรื่องราวตลอดเวลาที่ผ่านมาของปราสาทได้อย่างน่าสนใจ ทั้งยังมีการตั้งแสดงเครื่องแต่งกาย ของใช้ อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยโบราณ ให้ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย รวมถึงชั้นบนสุดของปราสาท ที่เคยใช้เป็นหอคอยสังเกตการณ์ข้าศึกในช่วงสงคราม ปัจจุบันถูกปรับให้เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองโอซาก้าได้รอบทิศทางอีกด้วย


ชั้นหินที่เป็นฐานรากหลักของตัวปราสาทโอซาก้า

           ไม่เพียงแต่ตัวปราสาทกลางซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีอนุสรณ์สถาน สิ่งก่อสร้างอย่างฐานรากของปราสาท สวนสาธารณะ และต้นซากุระมากกว่า 300 ต้น ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะออกดอกสีชมพูสวยงาม ชนิดที่เป็นแหล่งรวมตัวสำคัญ ที่มีผู้คนมาเยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้าเลยทีเดียว


การเดินทางจากสนามบินคันไซไปยังเมืองโอซาก้า

              - รถบัส จากสนามบินให้เดินไปขึ้นรถบัสที่ Kansai-Airport Station เพื่อขึ้นรถที่ป้ายรอรถบัสหมายเลข 5 เลือกคันที่ไป Osaka Station City ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 52 นาที

              - รถไฟ จากสนามบินให้เดินไปขึ้นรถไฟที่ Kansai-Airport Station เลือกรถไฟสาย Kansaikuko Line แล้วลงที่สถานี Umeda Station ตัวสถานีจะอยู่กลาง Osaka Station City ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 59 นาที


การเดินทางจากตัวเมืองไปยังปราสาทโอซาก้า

              - รถไฟ จาก Osaka Station City ให้ขึ้นรถไฟสาย Osaka Loop Line ที่สถานี Osaka Station แล้วลงที่สถานี Osakajokoen Station ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 27 นาที ก่อนจะเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงปราสาทโอซาก้า


เวลาเปิด-ปิดทำการ


ปราสาทโอซาก้าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากันตลอดเวลา

           ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09:00 น. – 17:00 น.จะปิดแค่ช่วงสิ้นปีในวันที่ 28 ธ.ค. – 1 ม.ค.


อัตราค่าเข้าชม

 
สวนสาธารณะบริเวณปราสาทที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเดินเล่นได้ฟรี และลำน้ำที่ไหลเวียนอยู่รอบปราสาทโอซาก้า

           ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) มีค่าเข้าชมด้านในของปราสาทสำหรับผู้ใหญ่ 600 เยน ส่วนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรี รวมถึงบริเวณรอบปราสาท ยังมีสวนสาธารณะ และต้นไม้มากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้มาทำกิจกรรมต่างๆ กันฟรีอีกด้วย


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


ทิวทัศน์ของปราสาทโอซาก้าเมื่อมองจากที่ไกล

           ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมตลอดปี แต่หากมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะได้เห็นต้นซากุระออกดอกสีชมพูบานสะพรั่ง ยิ่งเสริมให้ตัวปราสาทดูสวยงามเหมาะแก่การมาเที่ยว และถ่ายรูปมากที่สุด


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ปราสาทโอซาก้า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       ปราสาทโอซาก้า จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

                       (Osaka Castle, Osaka, Japan)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : บริเวณรอบปราสาทสามารถเข้าชมได้ฟรี หากต้องการเข้าไปด้านในปราสาท จะมีค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 600 เยน

                                    เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรี

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09:00 น. – 17:00 น.

                                   จะปิดแค่ช่วงสิ้นปีคือวันที่ 28 ธ.ค. – 1 ม.ค.   

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ฤดูใบไม้ผลิ

                       สถานที่ตั้ง : จังหวัดโอซาก้า, ประเทศญี่ปุ่น

                       โทรศัพท์ :  (+81) 6-6941-3044

                       เว็บไซต์ : https://www.osakacastle.net/

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                       เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดโอซาก้า https://osaka-info.jp/th/

                                       เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ