วัดกินคะคุจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (5,931)
  • By Webmaster
  • 04:12:19 | 2 ก.พ. 2566

วัดกินคะคุจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

Gingakuji Temple, Kyoto, Japan


Gingakuji Temple

             วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่า “วัดเงินแห่งเกียวโต” เป็นวัดในนิกายเซนถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ที่ถูกยกให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งเมืองเกียวโต และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1994


แผนที่ตั้งวัด Gingakuji Temple จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติและความเป็นมา


สวนหินภายในวัดกินคะคุจิ

             วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ซึ่งวัดกินคะคุจิเป็นวัดนิกายเซน ถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอชิกากะ โยชิมาสะ หลานชายของท่านโชกุน ที่สร้างวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าวัดทอง


ดอกซากุระที่กำลังผลิบาน

           สำหรับอาคารของวัดเงินสร้างขึ้นในรูปแบบเดียวกัน เพียงแต่จะไม่ได้มีสีทอง เป็นอาคาร 2 ชั้น และมีนกฟินิกซ์อยู่บนหลังคาอาคารเช่นเดียวกัน อาณาบริเวณของวัดซึ่งอยู่บนเขายังคงสภาพความเป็นธรรมชาติป่าอย่างสมบูรณ์แบบ มีต้นไม้นานาพรรณ ในแบบสวนญี่ปุ่น เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นเย็นสบาย


สวนหินอีกมุมหนึ่งของวัดกินคะคุจิ

           ทั้งนี้ยังมีลานสวนหินทราย หรือที่เรียกว่า “Sea of Silver Sand” และกรวยหินทรายที่ถูกก่อขึ้น เรียกว่า “Moon Viewing Platform” ซึ่งจุดประสงค์ของการสร้างลานสวนหินทราย คือ เพื่อให้แสงของดวงจันทร์กระทบกับลานหินทรายในยามค่ำคืน และเมื่อแสงของดวงจันทร์กระทบกับลานหินทรายแสงที่ตกกระทบก็จะสว่างไปทั่วบริเวณหน้าอาคาร เช่นเดียวกับแสงแดดในเวลากลางวันที่กระทบกับสีเงินของหินทรายจะส่องประกายอย่างระยิบระยับไปทั่วบริเวณนั้นเช่นกัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่วัดนี้


การเดินทางจากสนามบินคันไซไปยังตัวเมืองเกียวโต

             - รถไฟด่วน (Kansai International Airport Express Haruka) สายฮารุกะประจำสนามบินนานาชาติคันไซ ซึ่งมีตัวสถานีที่เชื่อมต่อกับตัวอาคารผู้โดยสารของสนามบินโดยตรง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังสถานีประมาณ 500 เมตร โดยขึ้นที่ Kansai Kuko Daiichi Terminal มุ่งตรงเข้าเมืองเกียวโตลงที่สถานี Kyoto Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยราคาตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่ง 2,770 เยน ตั๋วแบบระบุที่นั่ง 3,080 เยน


การเดินทางไปยังวัดกินคะคุจิ

             - รถไฟ จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) นั่งรถไฟสาย Kasasuma Line (สีเขียว) ลงที่สถานี Imadegawa Station เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถประจำทางสาย 203 นั่งไปลงที่ป้ายรถประจำทาง Ginkakujimae Bus Stop แล้วเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร

             - รถประจำทาง จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ให้เดินไปอีกประมาณเล็กน้อยจะเจอป้ายรถประจำทางเกียวโต (Kyoto Ekimae Bus Stop) ขึ้นรถประจำทางสาย 17 หรือ 5 นั่งไปลงที่ป้ายรถประจำทาง Ginkakujimae Bus Stop แล้วเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงวัดกินคะคุจิ


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


ทางเดินด้านหน้าวัดที่เต็มไปด้วยต้นซากุระทั้งสองข้างทาง

           เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. ทั้งนี้ในเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ จะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.30 น.


การซื้อบัตรเข้าชม


สวนภายในวัดกินคะคุจิอีกมุมหนึ่ง

           อัตราค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 500 เยน แต่สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา – มัธยมศึกษาตอนต้น อัตราค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 300 เยน


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว


ร้านขายของบริเวณด้านหน้าวัดกินคะคุจิ

           ช่วงที่เหมาะสมในการเดินทางไปท่องเที่ยวยังวัดกินคะคุจิมากที่สุด คือช่วงฤดูใบไม้ผลิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม เนื่องจากสองข้างทางจะเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระที่กำลังผลิบานทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสวยงาม แต่ทั้งนี้นักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางมาได้ตลอดทั้งปี


สองข้างทางเต็มไปด้วยสีชมพูจากดอกซากุระที่กำลังผลิบาน

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/


ข้อมูลที่ควรรู้


สวนหินภายในบริเวณวัด

           วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า “วัดเงิน” นั้น ถูกสร้างขึ้นมาตามต้นแบบวัดทอง (Kinkakuji Temple) โดยวัดทองเดิมทีนั้นถูกสร้างมาเพื่อเป็นบ้านพักของโชกุนอชิกากะ โยชิมิสุ (Ashikaga Yoshimitsu) และยังมีไว้เพื่อรับรองแขกระดับสำคัญ ซึ่งภายหลังที่ท่านเสียชีวิตจึงได้ยกที่พักแห่งนี้ให้กลายมาเป็นวัดในนิกายเซน ต่อมาได้กลายเป็นวัดคินคะคุจิอย่างปัจจุบัน และด้วยความงดงามตระการตาจึงกลายมาเป็นต้นแบบของวัดกินคะคุจิหรือวัดเงินที่ถูกสร้างโดยหลานชายของโชกุนในเวลาต่อมา


บรรยากาศสองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ

           ทั้งนี้เอกลักษณ์ที่ทำให้วัดคินคะกุจิหรือวัดทองเป็นที่โดดเด่นในเมืองเกียวโตจนได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1994 เนื่องจาก วัดคินคะคุจิมีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่งดงามด้วยอาคารสีทองทั้งหลัง การตกแต่งอย่างมีสไตล์โบราณแบบญี่ปุ่นอีกทั้งยังได้รับการผลักดันให้กลายเป็นวัดที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งที่อาคารหลายส่วนนั้นเคยถูกเผาทำลายในช่วงสงครามโอนิน (Onin)


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดกินคะคุจิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดกินคะคุจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

                       (Gingakuji Temple, Kyoto, Japan)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน แต่สำหรับนักเรียนประถม – มัธยม 300 เยน

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงฤดูใบไม้ผลิ(เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม)

                       สถานที่ตั้ง : จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

                       เว็บไซต์ : http://www.shokoku-ji.jp/

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                       เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองเกียวโต https://kyoto.travel/th

                                       เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวเกียวโต http://www.kyototourism.org/en/

                                       เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เช็คตารางเวลารถ http://highway-buses.jp/fuji/

                                       เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ