นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

  • อ่าน (15,972)
  • By Webmaster
  • 05:28:32 | 7 ก.พ. 2566

นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

Angkor Wat, Siem Reap, Cambodia

 

             นครวัด (Angkor Wat) เป็นปราสาทในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาพุทธ มีความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอก ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา


แผนที่แสดงที่ตั้งของนครวัด

           นครวัดมีพื้นที่รวมถึง 1.6 ตารางกิโลเมตร จึงได้ชื่อว่าเป็น ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีคูน้ำและกำแพงแก้วล้อมรอบองค์ปราสาทประธานและปราสาทเล็กสี่ด้าน อันเป็นการจำลองลักษณะจักรวาลตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อีกทั้งภายในปราสาทยังเต็มไปด้วยผลงานศิลปกรรมที่ล้ำค่ามากมาย อาทิ ภาพแกะสลักนางอัปสรที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมไปถึงรายละเอียดส่วนประกอบต่างๆของปราสาทที่ยากจะหาที่ไหนเทียบเคียงได้

           นครวัดซุกซ่อนตัวตนจากโลกภายนอกอยู่หลายร้อยปี เนื่องจากปัญหาภายในของอาณาจักรเขมรโบราณ กระทั่งกลางศตวรรษที่ 19 อ็องรี มูโอ ผู้เป็นนักสำรวจชาวฝรั่งเศสได้นำพานครวัดแห่งนี้ให้โลกรู้จักผ่าทางผลงานของเขาตามด้วยประโยคอันลือลั่นของอาร์โนลด์ โจเซฟ ทอยน์บี  นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษได้มาเยือนนครวัดในปี 1956 ที่ได้กล่าวว่า See Angkor Wat and Die ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลกอยากมาเยี่ยมชมนครวัดกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิต

           นครวัดได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้มีฐานะเป็นมรดกโลกในปี 1992 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/discover/history/unesco/)


รูปนางอัปสรอันสวยงามขึ้นชื่อของนครวัด 


บันไดนาค หนึ่งในความงามของปราสาทนครวัด 


วันนี้ของนครวัดที่ไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานแต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก 


ความยิ่งใหญ่ของปราสาทที่แม้แต่กาลเวลาก็ไม่อาจทำลายได้หมดสิ้น 


ระเบียงคดที่บอกเล่าเรื่องราวมากมายผ่านงานวิจิตรศิลป์ที่อายุกว่าพันปี
 

ประวัติศาสตร์กับการก่อสร้างนครวัด

           นครวัดถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (คศ.1113 – 1150) โดยสันนิฐานว่าทรงสร้างนครวัดในฐานะศาสนสถานประจำรัชกาล ตามคติของศาสนาพราหมณ์ ไวษณพนิกายหรือที่รู้จักกันในนามของลัทธิบูชาพระนารายณ์ ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงมีชื่อปรากฏในจารึกว่า “บรมวิษณุโลก”


ความยิ่งใหญ่ของปราสาทที่ปัจจุบันกลายเป็นเป้าหมายของคนทุกมุมโลก 

           นอกจากเป็นศาสนสถานแล้ว เชื่อกันว่านครวัดยังถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 อีกด้วย เนื่องจากความเชื่อโบราณว่าด้วยเรื่องกษัตริย์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระวิษณุ ประกอบกับการที่นครวัดหันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งถือเป็นทิศแห่งความตายผิดกับปราสาทอื่นๆที่นิยมหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

           หลังจากสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นครวัดได้มีการปรับเปลี่ยนบทบาทจากเทวสถานในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูไปเป็นวัดตามการเข้ามาของพุทธศาสนา ก่อนจะค่อยๆลดความสำคัญลง แต่ก็ไม่ถึงขั้นถูกทิ้งร้างเหมือนปราสาทอื่นๆ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/discover/history/khmer-empire/


นครวัดที่เคยยิ่งใหญ่ได้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางแมกไม้อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
 

การเดินทางจากสนามบินไปตัวเมืองเสียมราฐ

           ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ-อังกอร์ (Siem Reap International Airport / REP)  ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองได้โดย

 

             - รถแท็กซี่ การเดินทางอันสะดวกสบายที่มีให้เรียกใช้งานตั้งแต่บริเวณด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาเข้าเช่นกัน สามารถอ่านคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ https://rep.cambodia-airports.aero/en/access-parking/airport-city
 

การเดินทางไปนครวัด เมืองเสียมราฐ

 

           นครวัดตั้งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองเสียมราฐ เพียงประมาณ 2 กิโลเมตร ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกวิธีการมาเยี่ยมชมได้หลายวิธี อาทิ

             - รถตุ๊กตุ๊ก ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งแบบไป-กลับนครวัด เหมาเที่ยวนครวัดและโบราณสถานรอบๆก็ได้เช่นกัน

             - รถแท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบาย มีให้บริการทั้งแบบมิเตอร์กับแบบที่ได้รับความนิยมอย่างเหมาพาเที่ยวนครวัดรวมไปถึงปราสาทอื่นๆบริเวณใกล้เคียง
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 น. จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตก โดยจะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมตั้งแต่เวลา 05.00 น.


นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ทำมุมกับปราสาทอันสวยงามได้
 

อัตราค่าเข้าชม

           บัตรสำหรับเข้าชมปราสาทต่างๆภายในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองพระนครและโบราณสถานรอบเมืองเสียมราฐ มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ

           บัตรเข้าชมสำหรับ 1 วัน ราคา 37 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           บัตรเข้าชมสำหรับ 3 วัน (ภายในระยะเวลา 10 วัน) ราคา 62 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           บัตรเข้าชมสำหรับ 7 วัน (ภายในระยะเวลา 30 วัน) ราคา 72 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน

           ทั้งนี้ บัตรทุกประเภทต้องมีการถ่ายรูปติดบัตรไว้ด้วย โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/angkor-tip/


นักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะแวะมาบ่อยๆจึงซื้อบัตรผ่านแบบหลายวันที่คุ้มค่ากว่า
 

สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวชมนครวัด

           นอกจากเป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมอันสวยงามแล้ว ภายในตัวปราสาทนครวัดยังเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนางอัปสรซึ่งเป็นภาพแกะสลักตามผนังต่างๆ ที่มีใบหน้ารูปร่างรวมถึงเครื่องประดับที่แตกต่างจนสร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้มาเยือน หรือห้องพันพระที่เป็นส่วนระเบียงของปราสาทที่ชาวกัมพูชานิยมนำพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้ รวมไปถึงองค์ปราสาทประธานที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรตามคติของเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางจักรวาลตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู


ห้องพันพระภายในนครวัด 


เหล่านางอัปสรที่ต้อนรับผู้มาเยือนกว่าพันปี 


องค์ปราสาทประธานสูงที่ยิ่งใหญ่ของนครวัด 


ทางเดินภายในปราสาทที่กว้างใหญ่ไม่แพ้กัน 


นาคและสิงห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ของนครวัด 


ปราสาทจากอดีตและนักท่องเที่ยวของปัจจุบัน
 

เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว

           หนึ่งในไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของการมาเยือนนครวัดคือ การมาชมดูแสงอาทิตย์แรกและแสงสุดท้ายของวัดที่สาดส่องยังตัวปราสาท ซึ่งต่างมีเสน่ห์ไปคนละแบบและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงควรเผื่อเวลาในการเดินทางไว้ด้วย และควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน – 1 วัน ในการเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทนครวัด


เวลาพระอาทิตย์ตกดิน หนึ่งในเสน่ห์อันงดงามของปราสาทนครวัด

           สำหรับเมืองเสียมราฐเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนได้ทุกฤดู โดยฤดูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) ที่อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซสเซียสทำให้เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ขณะที่หากไปเยือนในช่วงฤดูร้อน (เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม) ต้องเตรียมตัวรับมือกับแดดแรงและพกน้ำไว้ติดตัว ขณะที่ช่วงฝนตกชุก (เดือนกรกฎาคม – เดือนสิงหาคม) ต้องพกร่มไว้เสมอและเพิ่มความระมัดระวังในการเที่ยวชมโบราณสถานที่อาจมีตะไคร่น้ำเป็นพิเศษด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อวางแผนการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/


นครวัดกับนักท่องเที่ยวที่พกขวดน้ำติดมือมาด้วย
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวนครวัด และประเทศกัมพูชา

           แม้สกุลเงินของกัมพูชาคือเงินเรียล (KHR) แต่ตามร้านค้า,โรงแรม รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายๆแห่งมักจะมีการเก็บเงินค่าเข้าชมหรือค่าบริการเป็นเงินดอลล่าห์สหรัฐฯ (USD) มากกว่า นักท่องเที่ยวจึงควรแลกเงินดอลล่าห์สหรัฐเผื่อเอาไว้สำหรับใช้จ่ายด้วย และเนื่องจากนครวัดถือเป็นศาสนสถานที่ยังได้รับความนับถือจากชาวกัมพูชาอยู่ นักท่องเที่ยวจึงควรแต่งตัวสุภาพโดยสามารถอ่านรายละเอียดการแต่งตัวและข้อควรปฎิบัติเพิ่มเติมได้ที่ http://angkor.com.kh/plan-your-visit/visitor-code-of-conduct/


นักท่องเที่ยวที่แต่งตัวมาพร้อมรับสภาพอากาศและการเดินเที่ยวชมนครวัด 


อีกมุมหนึ่งของปราสาทที่งดงาม
 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเยี่ยมชม นครวัด สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       นครวัด เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

                       (Angkor Wat, Siem Reap, Cambodia)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : เริ่มตั้งแต่ 37 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (1 วัน), 62 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (3 วัน) และ 72 ดอลล่าห์สหรัฐต่อคน (7 วัน)

                       เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 น. จนถึงเวลาพระอาทิตย์ตก

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ทุกฤดูกาล โดยฤดูหนาว(เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) จะได้รับความนิยมสูงสุด

                       ตั้งอยู่ที่ : เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

                       โทร : (+855)063-765-577            E-mail : info@apsaraauthority.gov.kh

                       เว็บไซต์ : http://angkor.com.kh/  

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       บริการข้อมูลท่าอากาศยานประเทศกัมพูชา https://corp.cambodia-airports.aero/  

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ