พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

  • อ่าน (7,577)
  • By Webmaster
  • 16:13:05 | 1 ต.ค. 2561

พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

That Ing Hang, Savannakhet, Laos


บริเวณเขตโดยรอบพระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต

             พระธาตุอิงฮัง พระธาตุสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสะหวันนะเขต อยู่ห่างจากตัวเมืองตามทางหลวงหมายเลข 13 ออกไปประมาณ 12 กิโลเมตร เลียบถนนไปบ้านโพนสิน กล่าวกันว่าเป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นเป็น พระธาตุคู่แฝดกับพระธาตุพนม ในประเทศไทย


แผนที่แขวงสะหวันนะเขต ที่อยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว


พระธาตุอิงฮัง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวบ้านสะหวันนะเขต 

           ทุกปีชาวลาวจะมี งานนมัสการพระธาตุอิงฮัง เป็นงานยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับที่ชาวไทยจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนม งานทั้งสองมีขบวนแห่เทียนและการฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุเช่นเดียวกัน แต่งานพระธาตุอิงฮังจะจัดขึ้นช่วงเดือนธันวาคม ส่วนพระธาตุพนมจะจัดขึ้นช่วงวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

ประวัติและความเป็นมา


แผนสลักบทสวดบูชาพระธาตุอิงฮัง โดยเป็นคำอ่านภาษาไทย

           พระธาตุอิงฮังหรือธาตุอิงฮัง สร้างขึ้นราว พ.ศ.400 ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ซึ่งต่อมาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ภายใน ด้านบนของพระธาตุเป็นทองคำแท้หนักเกือบครึ่งกิโลกรัม


กำแพงที่ล้อมรอบบริเวณพระธาตุอิงฮัง

           องค์พระธาตุมีความสูง 25 เมตร ตัวประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้าน มีภาพแกะสลักแนวกามาวิจิตรของฮินดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับการบูรณะในสมัยอาณาจักรล้านช้างและสมัยฝรั่งเศสปกครอง ฐานเบื้องล่างองค์พระธาตุเจาะเป็นช่อง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ในอดีตเปิดให้เข้าไปได้เฉพาะผู้ชาย แต่ปัจจุบันปิดไม่ให้เข้าไป รอบผนังกำแพงวัดด้านในสร้างเป็นศาลาเดินวนรอบวัด มีพระปางเงินจำนวน 160 องค์ เป็นฝีมือการหล่อของพระพุทธศาสนิกชน 2 ชาติ คือช่างคนไทยกับช่างคนลาว


บริเวณภายในพื้นที่พระธาตุอิงฮัง

           โดยคำว่า “อิงฮัง” มาจากคำว่า “พิงรัง” หรือพิงต้นรัง ซึ่งเมื่อค้นประวัติของพระธาตุพนมพบว่ามีส่วนสัมพันธ์กัน ตามตำนานกล่าวว่า “สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระอานนท์ได้เสด็จมาที่ พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน ได้ทรงพยากรณ์เมืองรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน รุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขงไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูร พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง แล้วกลับมาฉันอาหารที่ภูกำพร้าทางอากาศ”


ศาลาโรงธรรมที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างภายในบริเวณพื้นที่พระธาตุอิงฮัง

           ภูกำพร้าที่กล่าวถึงปัจจุบันคือที่ตั้งของพระธาตุพนม ตรงตำแหน่งที่ต้นรังที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเสด็จพักรับบาตรที่เมืองศรีโคตรบูรนั้นต่อมาได้มีการสร้างเป็นธาตุกู่ในสมัยพระเจ้าสุมิตราช ภายหลังได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนกระดูกสันหลังมาประดิษฐานไว้ในกู่ธาตุหรือพระธาตุอิงฮัง

           นอกจากนี้พระธาตุได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.1892 เมื่อพระเจ้าฟ้างุ้ม ทรงรวบรวมอาณาจักรลาวให้แน่นแฟ้น และมอบหมายให้เจ้าเมืองในยุคนั้น ดำเนินการในเรื่องนี้ รวมทั้งดูแลรักษาสืบมา


เครื่องบูชาที่ผู้มีจิตศรัทธานำมากราบไหว้พระธาตุอิงฮัง 

           แต่ในปี พ.ศ.2492 ประชาชนชาวลาว ได้ร่วมกันบูรณะพระธาตุอิงฮังครั้งใหญ่ มีการสร้างขยายอาณาบริเวณพระธาตุให้แผ่กว้างออกไปอีก รวมทั้งสร้างประตูโขง และกมมะเลียน หรือระเบียงคดล้อมอาคารโดยรอบ สร้างศาลาโรงธรรม สำหรับจัดงานพิธี รวมทั้งเป็นที่พักสำหรับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปกราบไหว้

การเดินทางจากสนามบินไปพระธาตุอิงฮัง

             รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) สามารถเรียกจากด้านในสนามบินได้เลย ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 23 นาที โดยใช้เส้นทางหลวง ถนนหมายเลข 13 เพื่อเข้าทางด้านหน้าพระธาตุอิงฮัง ระยะทางอยู่ที่ 14.8 กิโลเมตร และจะได้รับความนิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากสะดวกสบาย

การเดินทางจาก บขส.มุกดาหารไปพระธาตุอิงฮัง

             - รถทัวร์ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการรถทัวร์เพื่อข้ามพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาวแห่งที่ 2 ได้ โดยต้องไปขึ้นรถที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารมุกดาหาร บริเวณใกล้กับสะพานมิตรภาพฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 50 บาท รถทัวร์จะจอดให้นักท่องเที่ยวลงที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อปั๊มตราก่อน จากนั้นก็กลับขึ้นรถทัวร์คันเดิมเพื่อลงบขส.สะหวันนะเขตเพื่อต่อรถสกายแล็ปไปยังพระธาตุอิงฮัง

             - รถสกายแล็ป(ตุ๊กตุ๊ก) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารมุกดาหาร จะมีรถสกายแล็ปจอดรอให้บริการอยู่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการรอนาน และรถออกทันที อัตราค่าโดยสารในการข้ามแดนจะอยู่ที่ 100 บาท และสามารถตกลงกับคนขับให้ไปส่งที่พระธาตุอิงฮังได้เลย

             - รถส่วนตัว สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักอิสระในการเดิน เมื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 มาแล้ว ให้มุ่งหน้าไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 13 โดยจะผ่านตลาดหลัก 8 ซึ่งเป็นจุดตรวจคนเข้าเมือง การขับไปทางนี้มีระยะทาง ประมาณ 14.8 กิโลเมตร และใช้เวลา 23 นาทีจนกระทั่งถึงพระธาตุอิงฮัง

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


บริเวณส่วนหนึ่งภายในพื้นที่ของพระธาตุอิงฮัง

           นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและนมัสการพระธาตุอิงฮังได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 08:00-16:30 น. เนื่องจากพระธาตุอิงฮังเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่คนจากทั่วสารทิศให้ความเคารพนับถือและแวะเวียนมากราบไหว้เสมอตลอดทั้งสัปดาห์

การซื้อบัตรเข้าชม


ประตูโขงที่เป็นบริเวณทางเข้าโดยมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแกะสลักไว้ด้านบน

           ราคาบัตรเพื่อผ่านเข้าไปชมพระธาตุอิงฮังด้านในสำหรับประชาชนชาวลาว อยู่ที่ 2,000 กีบ

           และสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อยู่ที่ 5,000 กีบ

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


บริเวณด้านหน้าพระธาตุอิงฮัง

           ช่วงเวลาในการท่องเที่ยวที่นิยมมากเป็นช่วงฤดูหนาว คือช่วงปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากว่าในช่วงฤดูหนาวมีอากาศเย็นสบาย ทำให้ไม่มีแดดที่ร้อนจัด หรือมรสุมพายุที่อาจเกิดได้

           ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันขึ้น 13, 14 และ 15 ค่ำ เดือนอ้าย พระธาตุอิงฮังจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุประจำปี ที่วัดพระธาตุอิงฮัง หากนักท่องเที่ยวท่านใดต้องการเข้าร่วมนมัสการก็เลือกมาในเดือนธันวาคมได้


พระธาตุอิงฮังที่ถูกปฏิสังขรณ์โดยชาวสะหวันนะเขตในปี พ.ศ.2492

           นอกจากนี้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนนักท่องเที่ยวอาจหลีกเลี่ยงได้และไม่เพียงแต่ชาวลาวเท่านั้นที่ไปร่วมนมัสการ หากยังรวมถึงพุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนมากที่ข้ามฝั่งไปจากจังหวัดมุกดาหาร หรือจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียง เช่นเดียวกันกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่มุ่งหน้าไปเพื่อชมเทศกาลนี้

ข้อมูลที่ควรรู้


รูปแกะสลักบริเวณตัวพระธาตุ

           ค่าใช้จ่ายในการข้ามพรมแดนเพื่อเข้าเมืองฝั่งสปป.ลาว สำหรับที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 ด้านฝั่งลาว จะตกอยู่ที่คนละ 50 บาท


พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาประดิษฐานไว้ในบริเวณพื้นที่พระธาตุอิงฮัง

           นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมานมัสการพระธาตุ ต้องแต่งกายด้วยการ นุ่งซิ่นแบบชาวลาว หรือหากไม่ได้เตรียมมา ที่นี่ก็ได้จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวเรียบร้อย


จำนวนเครื่องบูชาบางส่วนที่ถูกนำมาวางไว้จากผู้มีจิตศรัทธาที่เดินทางมาพระธาตุอิงฮัง

           ผู้ที่จะไปกราบพระธาตุจะต้องซื้อ เครื่องบูชา ลักษณะเหมือนบายศรี โดยจะมีชาวบ้านทำมาวางขายข้างทางริมถนนก่อนถึงพระธาตุมาให้พร้อม เนื่องจากที่บริเวณวัดจะไม่มีเครื่องบูชาขาย จะมีแต่ธูปเทียนเท่านั้น


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว พระธาตุอิงฮัง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

                       (That Ing Hang, Savannakhet, Laos)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : ราคา 5,000 กีบ

                       เวลาเปิด ปิด : เวลา 08:00 - 16:30 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงเดือนธันวาคม ขึ้น 13, 14 และ 15 ค่ำ ของทุกปี

                       สถานที่ตั้ง : แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

                       ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com

                                         ตรวจสอบเที่ยวบิน www.laoairlines.com

                                         ตรวจสอบเที่ยวรถบัส https://www.busonlineticket.co.th/th  

                                         ตรวจสอบข่าวสารก่อนเดินทาง www.laogov.gov.la

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ