วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (9,895)
  • By Webmaster
  • 03:51:21 | 2 ก.พ. 2566

วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Sensoji (Asakusa Kannon Temple) Tokyo, Japan


นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลมาเยี่ยมชมวัดอาซากุสะตลอดทั้งวัน

               วัดเซนโซจิ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

           ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ที่สั่งสมมานับตั้งแต่อดีต ทำให้วัดเซนโซจิเป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น และเป็นทั้งแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์คันนน หรือเจ้าแม่กวนอิม และเป็นที่ตั้งของเจ้าอาซากุสะอันขึ้นชื่อ รวมไปถึงศาลเจ้าชินโต และเจดีย์ห้าชั้นอีกด้วย

ร้านขายอาหาร งานฝีมือ และร้านของที่ระลึกมากมายเรียงรายอยู่บริเวณทางเข้าวัด

           แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นวัด แต่ภายในวัดเซนโซจิยังมีถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายอาหาร งานฝีมือ และของที่ระลึกมากมาย นอกจากนี้ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของวัด นักท่องเที่ยวก็จะมองเห็นโตเกียว สกายทรี สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นเป็นฉากหลังอยู่เสมอ ถือเป็นภาพอันน่าประทับใจของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เข้ากับสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน
 

ประวัติของวัดเซนโซจิ

วัดเซนโซจิเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม จึงมีรูปเคารพจำนวนมากทั้งภายในและรอบๆบวัด

           ตามตำนานเล่าว่า ในปีค.ศ. 628 พี่น้องสองคนชื่อว่า ฮิโนคุมะ ฮามานาริ และฮิโนคุมะ ทาเคนาริ มักจะออกหาปลาในแม่น้ำสุมิดะทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งสองพี่น้องจับปลาในแม่น้ำไม่ได้เลยสักตัว ด้วยความหิวโหย ทั้งสองคนจึงอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้จับปลาได้สักตัวไปเป็นอาหารเย็น ภายหลังจากอธิษฐาน ทั้งสองคนได้เหวี่ยงแหออกไป แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ติดมานั้นคือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทองคำ สูง 5 นิ้ว


ศาลเจ้าเก่าแก่ภายในบริเวณวัดเซนโซจิ

           หลังจากนั้น ทั้งสองพี่น้องได้เปลี่ยนบ้านของพวกตนซึ่งอยู่ในเขตอาซากุสะเป็นวัดขนาดเล็ก และนำพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำที่พบมาประดิษฐานไว้เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้บูชา ซึ่งบรรดาผู้ที่มาขอพรนั้นต่างก็สมปรารถนาเสมอ จนชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำองค์นี้ค่อยๆแผ่ขยายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น มีผู้คนหลั่งใหลมากราบไหว้บูชามากมาย และเมื่อโชกุนโทคุกาวะ อิเอมิทซึรู้เข้า จึงมีบัญชาให้ปรับปรุงตัวอาคารวัด รวมถึงพื้นที่รอบๆเรื่อยมาจนกลายเป็นวัดเซนโซจิอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
 

การเดินทางไปวัดเซนโซจิ

               - รถไฟ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Ginza ( สีส้ม ) มาลงที่สถานี Asakusa ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 170 เยน ออกทางออกหมายเลข 6 หรือ 7 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับวัดเซนโซจิ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/

               - รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


เจดีย์ 5 ชั้นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบริเวณประตูวัด

           บริเวณตัวอาคารหลักของวัด เปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม

           ส่วนบริเวณพื้นที่โดยรอบ เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
 

อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม


บริเวณอาคารหลักของวัดเซนโซจิเนืองแน่นไปด้วยผู้คนตั้งแต่ตอนเช้า
 

จุดที่มีชื่อเสียงในบริเวณวัดเซนโซจิ


ประตูคามินาริมง ซึ่งมีตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า แปลว่า”สายฟ้า”

               ประตูคามินาริมง – เป็นประตูหลักของวัดเซนโซจิ และยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย บริเวณประตูจะมีโคมแดงขนาดมหึมาที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นว่า อ่านว่า “คามานาริ” ซึ่งแปลว่าสายฟ้า ประตูแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ประตูสายฟ้า”


ถนนนากามิเสะที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อขนมและของฝากต่างๆได้อย่างเพลิดเพลิน

               ถนนนากามิเสะ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่านประตูคามินาริมงเข้าไป จะพบกับถนนที่ทอดยาวเข้าไปสู่ตัววัด โดย ตลอดสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆทั้งร้านขนม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ไปจนถึงร้านเช่าและขายชุดกิโมโน ถือเป็นย่านช้อปปิ้งสำคัญที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าต่างๆเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย


ประตูโฮโซมง ประตูชั้นสุดท้ายก่อนที่นักท่องเที่ยวจะพบกับอาคารหลักของวัดเซนโซจิ

               ประตูโฮโซมง – เมื่อเดินมาจนสุดถนนนากามิเสะ นักท่องเที่ยวจะพบกับประตูขนาดใหญ่อีกแห่งก่อนเข้าไปสู่บริเวณวัด ประตูโฮโซมงนั้นมีขนาดใหญ่กว่าประตูคามินาริมงเกือบเท่าตัว โดยมีความสูงถึง 22.7 เมตร ชื่อประตูมีความหมายว่า “ประตูคลังสมบัติ” ด้านในของประตูยังมี Nio หรือรูปปั้นเทพเจ้า 2 องค์ที่ทำหน้าที่ปกปักรักษาองค์พระพุทธเจ้า

           เมื่อเข้าสู่บริเวณตัววัด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับตัวอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ เจดีย์ 5 ชั้น รวมไปถึงศาลาสำหรับเสี่ยงเซียมซี และศาลาสำหรับจำหน่ายเครื่องราง
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


ต้นซากุระโบราณภายในวัดเซนโซจิผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

           เนื่องจากวัดเซนโซจิตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังวัดได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งปี

           แต่หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศที่พิเศษออกไป วัดเซนโซจินั้นมีการจัดงานเทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี โดยงานเทศกาลที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของวัดคือเทศกาล Sanja Matsuri และยังถือเป็น 1 ใน 3 งานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในศาสนาชินโตอีกด้วย โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมในทุกปี


โคมไฟแบบญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้ประดับประดา

           จุดประสงค์ของเทศกาล Sanja Matsuri คือการจัดงานเฉลิมฉลองให้แก่ผู้ก่อตั้งวัด เชื่อกันว่าเทศกาลนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 โดยพิธีในวันแรกจะเริ่มจากการอัญเชิญเทพเจ้าขึ้นสู่เกี้ยวหรือศาลเจ้าจำลองที่เรียกว่า “mikoshi” ทั้งสามหลังของศาลเจ้าอาซากุสะ โดยเกี้ยวแต่ละด้านต้องใช้คนหามถึง 40 คน วันที่สองจะเป็นวันที่ผู้คนต่างมาร่วมสนุกสนานไปกับดนตรี ขบวนแห่ ขับร้องเพลงและร่ายรำกันอย่างสนุกสนานที่บริเวณถนนสายหลักหน้าวัด และในวันสุดท้ายถือเป็นไฮไลท์ของเทศกาล ซึ่งจะมีการแห่เกี้ยวทั้งสามไปทั้ง 44 เขตของย่านอาซากาสะ ก่อนจะแห่กลับมาทำพิธีใหญ่เพื่อปิดเทศกาลในคืนนั้น
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


นักท่องเที่ยวปัดควันธูปเข้าตัวด้วยความเชื่อว่าจะนำพาความโชคดีมาให้

           วัดเซนโซจิมีธรรมเนียมเช่นเดียวกับวัดแห่งอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น นั่นคือต้องล้างหน้า ล้างมือ และล้างปากก่อนเข้าวัด ซึ่งนอกจากจะเป็นการชำระร่างกาย ยังสื่อถึงการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยภายในวัดจะมีบ่อน้ำและกระบวยตักน้ำอยู่ใกล้กับประตูโฮโซมง และนอกจากนี้ยังมีธรรมเนียมการปัดควันธูปเข้าหาตัว ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำพาสิ่งดีๆมาให้อีกด้วย
 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

วัดเซนโซจิ ( ศาลเจ้าอาซากุสะ )

Sensoji (浅草寺, Asakusa Kannon Temple)

อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าบริการเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : อาคารหลักของวัดเปิดให้บริการระหว่าง 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน

               และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม

           พื้นที่อื่นรอบบริเวณวัด เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

สถานที่ตั้ง : ย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โทรศัพท์ : (+81) 3-3842-0181

เว็บไซต์ : http://www.senso-ji.jp/

ระดับความนิยม : 

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                    เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                    เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/

                                    เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ