ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว

  • อ่าน (4,998)
  • By Webmaster
  • 11:22:48 | 16 ส.ค. 2561

ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว

Pak Ou Caves, Luang Prabang, Laos

ถ้ำปากอู หรือถ้ำติ่ง ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวหลวงพระบาง

             ถ้ำปากอู หรือ ถ้ำติ่ง เป็นถ้ำที่อยู่ปากทางสบอู ตั้งอยู่กลางภูเขาลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง ประมาณ 29 กิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามบ้านปากอู จุดเชื่อมของแม่น้ำสองสาย คือแม่น้ำโขงและแม่น้ำอู มาบรรจบกัน จึงเป็นที่มาของ ชื่อ "ถ้ำปากอู" แห่งนี้


ที่ตั้งแขวงหลวงพระบางในประเทศสปป.ลาวบนแผนที่โลก

ประวัติและความเป็นมา

           ถ้ำปากอู หรือ ถ้ำติ่ง มีความสำคัญมาอย่างยาวนานกับชาวลาว โดยเฉพาะหลวงพระบาง เพราะถือได้ว่าเป็นเทวสถานของเจ้าที่แม่น้ำ โดยในสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ซึ่งหินงอกหินย้อยที่มีอยู่มากมายภายในถ้ำนั้นเป็นที่สิงสถิตของผี ทั้งวิญญาณในน้ำและในถ้ำ 


ถ้ำปากอูที่ตั้งตระหง่านเหนือน่านน้ำแม่น้ำโขง

           ต่อมาศาสนาพุทธเริ่มเข้ามาเผยแผ่ผ่านมาทางชาวมอญ ในราวๆ พุทธศตวรรษที่ 13 และได้รับการนับถือกันอย่างแพร่หลายคู่ไปกับความเชื่อดั้งเดิมในเรื่องของการนับถือบูชาผีฟ้า เทวดา


ถ้ำปากอูที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแม่น้ำโขง ณ หลวงพระบาง

           ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 เข้าสู่ยุคเฟื่องฟูแห่งศาสนาพุทธ ในรัชสมัยของพระเจ้าโพธิสารราช (พ.ศ. 2063 - พ.ศ. 2090) พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้เลื่อมใสในศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก ทรงสร้างวัดวาอารามต่างๆ มากมาย และประกาศยกเลิกไม่ให้ประชาชนนับถือผีสางแต่ให้มายึดมั่นในพระพุทธศาสนา


พระพุทธรูปสมัยโบราณที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอู

           ความเชื่อในเรื่องการบูชาภูติผีจึงลดบทบาทไป ประกอบกับสภาวะบ้านเมืองในขณะนั้น ถ้ำติ่งจึงถูกทิ้งร้าง จนมาในปี พ.ศ. 2091 ถ้ำติ่งถูกค้นพบอีกครั้งโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา (พระเจ้าโพธิสารราช) ในขณะทำการก่อสร้างวัดปากอู ที่อยู่ริมแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้าม ชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มายังถ้ำปากอูก็คือฟรานซิส การ์นิเย่ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสก็มาพบเข้า


บริเวณจุดรับส่งรถที่มาส่งท่าเรือของหมู่บ้านปากอูเพื่อต่อเรือไปยังถ้ำปากอูหรือถ้ำติ่ง

           จากนั้นมาถ้ำติ่ง ก็กลายเป็นพุทธสถาน ที่นักแสวงบุญในพุทธศาสนาได้เดินทางมาสักการะอย่างต่อเนื่อง และตามธรรมเนียมความเชื่อ นักแสวงบุญก็จะทิ้งพระพุทธรูปไว้ในถ้ำ ทำให้ทุกวันนี้มีพระพุทธรูปกว่า 4,000 องค์ ส่วนใหญ่แล้วมีอายุอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 24-25 กว่า 2,500 องค์ ส่วนองค์ที่เก่าที่สุดนั้นสร้างจากไม้ และมีอีกหลายองค์ที่หล่อจากสำริดลงรักปิดทอง

การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมือง

             - รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) เป็นวิธีการเดินทางที่นิยมมาก เนื่องจากมีความสะดวกสบาย โดยมีระยะทางประมาณ 5.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที อัตราค่าโดยสารมีสองรูปแบบคือ ราคา 50,000 กีบ/3คน หรือจะจ่ายเป็นสกุลเงินไทยก็ได้ ประมาณ 200 บาท/3คน เช่นเดียวกัน

             - รถเมล์ ต้องข้ามฝั่งไปด้านตรงข้ามสนามบิน ซึ่งจะเป็นรถเมล์สีเขียววิ่งสวนกันไปมา ราคาอยู่ที่ 5,000 กีบ/คน แต่รถมาไม่ถี่นัก สามารถดู GPS ของรถเมล์ที่ต้องการได้ที่ https://lao.busnavi.asia/

การเดินทางจากตัวเมืองไปยังท่าเรือ

             - รถจักรยานยนต์ (เช่า) นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถจักรยานยนต์ได้ตรงที่พักหรือในซอยโจมา ซอยยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แล้วขับไปตามถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 13 ทางเหนือของหลวงพระบาง เรียบแม่น้ำโขงไปเรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้านช่างไหจนถึงหมู่บ้านปากอูเพื่อขึ้นเรือข้ามฟากไปยังถ้ำปากอูซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม (ท่าเรือบ้านซ่างไห) และ (ท่าเรือปากอู)


บริเวณจุดขึ้นเรือโดยสารเพื่อข้ามฟากไปยังถ้ำปากอู

           นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เดินเรือบริเวณท่าเรือปากอูหรือท่าเรือช่างไหเพื่อเดินทางข้ามฝั่งไปยังถ้ำติ่งได้เลย โดยราคาค่าเรือโดยสาร ประมาณ 10,000 กีบ/คน

เวลาทำการเปิด – ปิด

           เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ของทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์

พื้นที่กว้างบริเวณหมู่บ้านปากอู แสดงถึงความเป็นอยู่และการเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้าน

การซื้อบัตรเข้าชม

           เนื่องจากถ้ำปากอูเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวลาวหลวงพระบางให้ความเคารพนับถือกันมาอย่างยาวนาน และมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกมากมาย รวมถึงมีความสำคัญทางศาสนาอย่างมาก อัตราค่าเข้าจึงอยู่ที่ชาวลาวคนละ 5,000 กีบ และ นักท่องเที่ยวคนละ 20,000 กีบ สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้บริเวณจุดทางเข้าปากถ้ำ


พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอูซึ่งมีมาแต่โบราณกาล

จุดท่องเที่ยวสำคัญ

             ถ้ำติ่งล่าง หรือถ้ำลุ่ม ในภาษาลาว อยู่เหนือจากท่าจอดเรือเล็กน้อย บริเวณหน้าปากถ้ำมีรูปแกะสลักจิ้งจอก 2 ตัวทาสีขาวหันหัวเข้าหากัน ตรงบริเวณโขดหิน แทนสัญลักษณ์ว่าเป็นจุดที่แม่น้ำ 2 สายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำโขงและแม่น้ำอู มีพระพุทธรูปจำนวนมากหลายขนาด ทำมาจากไม้ ดิน ปูน สัมฤทธิ์ฯ โดยถ้ำติ่งลุ่มมีลักษณะเป็นโพรงตื้นๆ สูงประมาณ 60 เมตร จากพื้นน้ำ มีหินงอกหินย้อยเล็กน้อย ตามความเชื่อโบราณกล่าวว่าจะมีสิ่งของมีค่าซ่อนอยู่ภายในถ้ำ


พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ชาวหลวงพระบางเคารพนับถือมาอย่างยาวนาน

           ส่วนใหญ่พระพุทธรูปภายในถ้ำปากอูจะมีลักษณะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ความสำคัญของถ้ำติ่งในสมัยโบราณคือการเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ซึ่งเมื่อตอนค้นพบใหม่มีพระพุทธรูปจำนวนหนึ่งทำด้วยเงิน และทองคำ แต่ปัจจุบันถูกลอกออกไปหมด


พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่อยู่ภายในถ้ำปากอูซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันหลากหลาย


พระพุทธรูปส่วนใหญ่ที่อยู่ภายในถ้ำปากอูมีลักษณะเป็นพระยืนด้วยปางต่างๆ

             ถ้ำติ่งเทิง หรือถ้ำติ่งบน จะมีทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น สองข้างทางจะร่มรื่นไปด้วยเงาไม้ ลักษณะถ้ำติ่งบนเป็นปากถ้ำไม่ลึกมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำเล็กน้อย ไม่เยอะเท่าถ้ำติ่งล่าง


รูปปั้นที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอู 

           การเข้าชมภายในถ้ำติ่งบนนี้ มีความมืดพอสมควร ต้องใช้ไฟฉายส่องนำทาง ซึ่งที่ปากถ้ำมีไฟฉายให้เช่าอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าไปชมภายใน


มุมจากบนถ้ำปากอูซึ่งมองเรือโดยสารที่ลอยตัวอยู่บนแม่น้ำโขง

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


สัตว์เลี้ยงของชาวหลวงพระบางลงเล่นแม่น้ำโขง

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าหากมาในช่วงฤดูร้อนหรือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม ที่นี่อาจจะมีอากาศร้อนมากจนแสบผิวได้ แนะนำให้ทาครีมกันแดด พกแว่นตากันแดดหรือใส่เสื้อแขนยาว

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ท่าเทียบเรือฝั่งบริเวณถ้ำปากอู

           นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือที่ท่าวัดเชียงทองได้ โดยเป็นเรือเช่าเหมาซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์สองฟากฝั่งแม่น้ำโขง หากนั่งเรือจากในตัวเมืองจะเป็นการนั่งทวนน้ำ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง แต่ขากลับจะล่องเรือไปตามน้ำใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ถ้ำปากอู สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว

                       (Pak Ou Caves, Luang Prabang, Laos)

                       ระดับความนิยม :

                       อัตราค่าเข้าชม : คนละ 20,000 กีบ

                       เวลาเปิด – ปิด : ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ของทุกวัน

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : หมู่บ้านปากอู ห่างตัวเมืองไปประมาณ 30 กิโลเมตร ทางทิศเหนือ

                       โทรศัพท์ : -

                       เว็บไซต์ : www.louangprabang.net

                       ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com

                                         ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหลวงพระบาง http://uxolao.org/ และ http://www.fwab.org/fvc

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ