บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (11,090)
  • By Webmaster
  • 14:48:58 | 27 เม.ย. 2566

บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น

Beppu Jigoku Meguri, Oita, Japan

 

             บ่อนรก หรือ จิโกกุ (Jigoku) อยู่ที่เมืองเบปปุ (Beppu) ในจังหวัดโออิตะ (Oita) ภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่น (Japan) เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว จิโกกุเรียกได้ว่าเป็นแหล่งออนเซนที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และที่นี่ยังถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.2009 อีกด้วย

 


ประวัติ

             บ่อนรก หรือ จิโกกุ ที่ว่านี้มีอยู่ทั้งหมด 7 บ่อด้วยกัน ส่วนแรกตั้งอยู่ในเขตคันนาว่า (Kannawa) มีอยู่ 5 บ่อด้วยกัน แต่ละบ่อตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ใช้เวลาไม่นานนักก็เดินครบ ส่วนที่สองมีอยู่ 2 บ่อ ตั้งอยู่ที่เขตชิบาเซกิ (Shibaseki) อยู่ห่างจากกลุ่ม 5 บ่อแรกออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร สำหรับคนที่ชอบเดิน สามารถเดินไปได้สบายๆ หรือหากต้องการประหยัดเวลาก็สามารถนั่งรถบัสได้ โดยมีรถบัสให้บริการไปถึงด้านหน้าของบ่อทั้ง 2 นี้เลย น้ำพุร้อนธรรมชาติเหล่านี้แต่ละบ่อจะมีลักษณะและสีของน้ำที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุในบ่อนั้นๆ สิ่งนี้เองที่สร้างความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการเที่ยวชมให้ครบทุกบ่อ


ส่วนแรก ในเขตคันนาว่า (Kannawa) มี 5 บ่อ ประกอบด้วย

             1. อุมิ จิโกกุ (Umi Jigoku) (ทะเลนรก) บ่อทะเลนรกอุมิ จิโกกุ ถือเป็นบ่อที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมด มีความลึกประมาณ 200 เมตร น้ำในบ่อจะเป็นสีน้ำเงินโคบอลต์หรือคล้ายกับสีของน้ำทะเล (ตามชื่อ อุมิ ที่แปลว่า ทะเล ในภาษาญี่ปุ่น) อุณหภูมิของบ่อนี้จะอยู่ที่ประมาณ 98 องศา ด้วยน้ำที่มีความร้อนมากจึงทำให้เกิดควันสีขาวลอยขึ้นมาสวยงาม

 
บ่อนรก อุมิ จิโกกุ (Umi Jigoku)

 
บ่อนรก อุมิ จิโกกุ (Umi Jigoku)

             2. โอนิอิชิ โบสุ จิโกกุ (Oniishi Bozu Jigoku) (นรกพระปีศาจหิน) ว่ากันว่า ชื่อว่าบ่อนรกโอนิอิชิโบสุ มาจากโคลนที่ผุดออกมา มีลักษณะคล้ายกับหัวของพระสงฆ์ (คำว่า โบสุ แปลว่า พระสงฆ์) บ่อนี้มีลักษณะแปลกตาที่สุด เป็นบ่อโคลนสีเทาที่มีความร้อน 99 องศา มองดูแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนเห็นโคลนที่กำลังเดือด

 
บ่อนรก โอนิอิชิ โบสุ จิโกกุ (Oniishi Bozu Jigoku)

 
บ่อนรก โอนิอิชิ โบสุ จิโกกุ (Oniishi Bozu Jigoku)

             3คามาโดะ จิโกกุ (Kamado Jigoku) (เตาไฟนรก) บ่อแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอีกบ่อ ตามตำนานเล่าว่าแต่ก่อนบ่อนี้เคยใช้เป็นที่ปรุงอาหารให้แก่เทพเจ้า ชื่อของที่นี่มาจากวัฒนธรรมของศาลเจ้า Kamado Hachiman หรือที่เรียกว่า Uchigamado ที่หุงข้าวศักดิ์สิทธิ์โดยใช้ไอร้อนจากน้ำพุ และน้ำในบ่อแต่ละจุดก็จะมีสีสันและคุณภาพน้ำที่แตกต่างกัน

 
บ่อนรกคามาโดะ จิโกกุ (Kamado Jigoku)

 
บ่อนรกคามาโดะ จิโกกุ (Kamado Jigoku)

             4โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku) (บ่อจระเข้) บ่อนรกโอนิยามะ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “บ่อนรกจระเข้” เพราะมีการนำน้ำอุ่นจากบ่อน้ำพุแห่งนี้ไปใช้เลี้ยงสัตว์เขตร้อนอย่างจระเข้ โดยน้ำในบ่อมีสีเขียวอ่อน

 
บ่อนรก โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku)

 
บ่อนรก โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku)

 
บ่อนรก โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku)

             5ชิราอิเกะ จิโกกุ (Shiraike Jigoku) (นรกบ่อขาว) บ่อน้ำพุร้อนชิราอิเกะ หรือบ่อน้ำพุร้อนสีขาว ในบ่อนี้ประกอบไปด้วยเกลือของกรดบอริก, โซเดียมคลอไรด์, กรดซิลิก และแคลเซียมไบคาร์บอเนต

 
บ่อนรก ชิราอิเกะ จิโกกุ (Shiraike Jigoku)

ส่วนที่สอง ในเขตชิบาเซกิ (Shibaseki) มีอยู่ 2 บ่อด้วยกัน ประกอบด้วย

             6ชิโนเกะ จิโกกุ (Chinoke Jigoku) (นรกบ่อเลือด) บ่อน้ำพุร้อนชิโนเกะ หรือบ่อโคลนสีแดง เป็นบ่อน้ำพุทางธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีอุณหภูมิสูงถึง 78 องศา เกิดจากปฏิกิริยาใต้พื้นดิน ทำความร้อนจากเหล็กออกไซด์กับแมกนีเซียมรวมกัน จนปะทุออกมาเกิดเป็นโคลนสีแดง ทำให้น้ำในบ่อเป็นสีแดงไปด้วย คนจึงนิยมเรียกกันว่าบ่อเลือดนั่นเอง

 
บ่อนรก ชิโนเกะ จิโกกุ (Chinoke Jigoku)

 
บ่อนรก ชิโนเกะ จิโกกุ (Chinoke Jigoku)

             7ทัตสึมากิ จิโกกุ (Tatsumaki Jigoku) (นรกทอร์นาโด) บ่อน้ำพุทัตสึมากิ บ่อแห่งนี้มีอุณหภูมิของน้ำใต้ดิน 150 องศา เป็นแหล่งของไกเซอร์ (Geyser) น้ำพุร้อนที่ปล่อยน้ำเดือดกับไอร้อนออกมาเป็นช่วงเวลาทุกๆ 30 นาทีและพุ่งได้ได้สูงถึง 50 เมตรเลยทีเดียว

 
บ่อนรก ทัตสึมากิ จิโกกุ (Tatsumaki Jigoku)

 
บ่อนรก ทัตสึมากิ จิโกกุ (Tatsumaki Jigoku)


การเดินทางจากสนามบินโออิตะไปยังสถานีรถไฟโออิตะ

            - รถบัส จากสนามบิน ให้ขึ้นรถบัสสาย Air Liner [X] ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ก็จะถึงป้าย Oita Eki mae ที่สถานีรถไฟโออิตะ (Oita Station)


การเดินทางจากตัวเมืองโออิตะไปยังบ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ

             - รถยนต์ จากสถานีรถไฟโออิตะ ไปยัง บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ มีระยะทาง 23.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที  

             - รถไฟ จากสถานีรถไฟโออิตะ ให้ขึ้นรถไฟสาย Sonic-NichirinSonic 44Limited ExpressHakata เพื่อไปลงที่สถานี Beppu Station แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถบัส

                       - เขตคันนาว่า (Kannawa) นั่งรถบัส Kamei สาย 5, 7 หรือ 9 ไปลงที่สถานี Kannawa

                       - เขตชิบาเซกิ (Shibaseki) นั่งรถบัส Kamei สาย 16/16A ไปลงที่สถานี Shibaseki


เวลาเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.


อัตราค่าเข้าชม 

             ค่าเข้าชม 400 เยนต่อบ่อ หรือ ซื้อบัตรเข้าชม 8 บ่อ ราคา 2,000 เยน   


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี

 


             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น

                       (Beppu Jigoku Meguri, Oita, Japan)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 400 เยนต่อบ่อ หรือ ซื้อบัตรเข้าชม 8 บ่อ ราคา 2,000 เยน  

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : เมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น

                       โทรศัพท์ : (+81) 977 660 178

                       เว็ปไซต์ : https://kamadojigoku.com/english

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                       เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดโออิตะ https://www.discover-oita.com/

                                       เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ

ตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด

อ่านต่อ

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที

อ่านต่อ

คลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

อ่านต่อ

เนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา

อ่านต่อ

วัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ