- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
- อ่าน (8,859)
- ByWebmaster
- 17:49:57 | 10 พ.ย. 2560
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
Wat Chantaram (Wat Tha Sung), Uthai Thani Province, Thailand
วัดจันทารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัดอุทัยธานี
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี เป็นศาสนสถานที่มีชื่อเสียงในด้านความงดงามทางสถาปัตยกรรม ที่ถูกสร้างด้วยความประณีตและตั้งอยู่ภายในวัด รวมไปถึงแรงศรัทธาต่อ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” ที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาช้านาน จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดอุทัยธานีที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
ประวัติความเป็นมาของวัดจันทาราม(วัดท่าซุง)
“วัดจันทาราม” หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า “วัดท่าซุง” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปาก เนื่องจากในอดีตบริเวณนี้ เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญ และมีการล่องซุงกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งแพซุงก็มักจะแวะหยุดพักกันที่หน้าวัดนี้ ต่อจากนั้นวัดก็ไม่ได้บูรณะมานานถึง 47 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2511 พระราชพรหมยาน หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในนาม “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” ได้มาริเริ่มบูรณะวัดอีกครั้ง และได้สร้างอาคารต่างๆ มากมายที่ประดับ และตกแต่งอย่างวิจิตร โดยจิตรกรฝีมือดี ทำให้วัดท่าซุงแห่งนี้เป็นสถานที่ทางศาสนา ที่คนส่วนใหญ่ให้ความนิยมมาท่องเที่ยวและกราบสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต (สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: http://thebest.uthaithani.go.th/th/home.html)
หนึ่งในอาคารที่สร้างขึ้นอย่างประณีตภายในวัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
องค์พระประธานภายในพระอุโบสถ
บริเวณพื้นที่สักการะพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
การเดินทางไปจังหวัดอุทัยธานี
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุทัยธานี มีระยะทาง 227 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง
การเดินทางไป วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
- รถโดยสารประจำทาง การเดินทางภายในจังหวัดสามารถเดินทางได้โดยใช้บริการรถสองแถว ซึ่งสามารถขึ้นรถได้ที่ ตลาดสดในเมืองอุทัยธานี และสถานีขนส่งของจังหวัดอุทัยธานี
- รถยนต์ส่วนตัว การเดินทางจาก อ.เมือง ไปยัง วัดจันทาราม(วัดท่าซุง) ด้วยระยะทาง 13.7 กิโลเมตร วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 3265 มาเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรโดยประมาณ ก็จะถึงวัดจันทาราม(วัดท่าซุง)
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสถานที่ภายในแต่ละพื้นที่ ตามเวลาดังนี้
- วิหารแก้ว 100 เมตร : ช่วงเช้า เวลา 09.00 น. - 11.30 น. ช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. - 16.00 น.
- วิหารสมเด็จองค์ปฐม - มณฑปพระศรีอาริย์ : ช่วงเช้า เวลา 09.00 น. - 10.30 น. ช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. - 16.00 น.
(วันเสาร์ - อาทิตย์ เปิด 09.00 น. - 16.00 น.)
- ศาลานวราช : ช่วงเช้า เวลา 08.00 น. - 10.30 น. ช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. - 16.00 น.
จุดที่น่าสนใจภายใน
- วิหารพระศรีอาริยเมตไตรย
พระศรีอาริยเมตไตรย
วิหารพระศรีอาริยเมตไตรย วิหาร 2 ชั้น ประดับด้วยกระจกรอบด้าน ชั้นบนประดิษฐานรูปหล่อเสมือนของ “พระศรีอาริยเมตไตรย” ตามความเชื่อที่ว่าจะจุติมาเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต ที่โลกจะมีแต่ความสงบสุข และพระศาสนาจะมีความรุ่งเรืองกว่าปัจจุบัน มีจุดเด่นเป็นรูปประทับยืน ทรงเครื่องเทวดา ปิดทองคำเปลวและแผ่นเงินโดยรอบ ในลักษณะปล่อยแขนลงทั้งสองข้าง โดยมือขวาถือจักร หมายถึง ธรรมจักร ใช้ในการปราบผู้ที่มีกิเลสหนา และทิฏฐิมาก ส่วนมือซ้ายถือพระขรรค์ ใช้ปราบผู้มีกิเลสน้อย มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม เหมาะแก่การเข้ามาสักการะเพื่อเป็นมงคลให้กับชีวิต
- พระวิหารสมเด็จองค์ปฐม
สมเด็จองค์ปฐม
พระวิหารสมเด็จองค์ปฐม เป็นที่ประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าพระองค์แรก โดยเมื่อปี พ.ศ. 2511 หลวงพ่อได้ทำสมาธิกรรมฐาน และได้เกิดปาฏิหาริย์ปรากฏองค์พระพุทธเจ้า หลวงพ่อจึงสร้างรูปท่าน เพื่อเป็นการสำนึกพระคุณของ สมเด็จองค์ปฐม โดยบรรยากาศด้านในยังคงตกแต่งด้วยลายแก้วที่เป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างสวยงาม
- พระยืน 30 ศอก
พระยืน 30 ศอก
พระยืนขนาดความสูง 30 ศอก หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา ประดิษฐานอยู่ที่ด้านหน้าหอพระไตรปิฏก โดยรวบรวมปัจจัยจากประชาชนที่มาร่วมทำบุญก่อสร้างอย่างล้นหลาม จึงเป็นที่มาของชื่อ “หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา” โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวว่า พระยืนองค์นี้บันดาลลาภให้กับผู้ที่มีแรงอธิษฐานที่ดี นักท่องเที่ยวจึงนิยมมากราบไหว้ขอพร เพื่อความมั่งคั่งและเป็นสิริมงคลกันเป็นจำนวนมาก
- เจดีย์พุดตาล
เจดีย์พุดตาล
เจดีย์พุดตาล เจดีย์ฐาน 8 เหลี่ยม ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ พระยืน 30 ศอก ถูกสร้างด้วยปูน ประดับด้วยลวดลายดอกพุดตาล ข้างในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และวัตถุมงคลอีกมากมาย ตลอดจนแก้วแหวนเงินทอง เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ควรค่าแก่การสักการะเป็นอย่างยิ่ง
- ปราสาททองคำ
ด้านในปราสาททองคำ
ปราสาททองคำ สร้างด้วยการประดับลวดลายไทย ปิดทองคำเปลวติดกระจก รอบปราสาท มีซุ้มพระยืน 8 ศอก ประดิษฐานตั้งอยู่บนยอดของปราสาท โดยปราสาททองคำสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระที่ทรงเสวยราชย์เป็นปีที่ 50 โดยภายในปราสาททองคำมี 3 ชั้นด้วยกัน
ชั้นแรก เป็นอาคารสมบัติพ่อให้ โดยมีประวัติของพระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่างๆ ให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้เข้าไปศึกษา
ปราสาททองคำชั้นที่ 1
ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 เป็นสถานที่เก็บพระพุทธรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่างๆ ที่ญาติโยมนำมาถวาย แต่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม เนื่องจากยังไม่เสร็จสมบูรณ์
- มหาวิหารแก้ว 100 เมตร
ไฮไลท์สำคัญของวัดท่าซุง คือ “มหาวิหารแก้ว 100 เมตร” วิหารสำคัญที่ด้านหน้ามีพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 ปั้นด้วยปูนปิดทองคำเปลวทั้งองค์ และป้ายพระบรมฉายาลักษณ์จารึกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ด้านในมหาวิหารแก้ว 100 เมตร
องค์พระพุทธรูปภายในวิหาร
สรีระของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ซึ่งทันทีที่เข้าไปก็จะสัมผัสได้ถึงความวิจิตรตระการตา เพราะภายในประดับด้วยกระจก และโมเสคแก้วใสแวววับ บนเพดานวิหารประดับด้วยช่อไฟระย้าทั้งขนาดเล็กและใหญ่รวมกว่า 119 ช่อ สร้างเป็นทางยาว 100 เมตร และมีเสาเรียงรายสวยงามนำสายตาไปสู่องค์พระประธาน คือ “พระพุทธชินราช” จำลอง และอีกฟากหนึ่งจะมีสรีระของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อยไว้ในโลงแก้วให้สักการะบูชา
อัตราค่าเข้าชม
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะบูชา และทำพิธีทางศาสนาพุทธอยู่เป็นประจำ จึงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกฤดูกาล หากนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บภาพบรรยากาศ สามารถ ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง ได้ที่เว็บไซต์ พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยววัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่สำคัญทางศาสนา ดังนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่สถานที่
เวลาเปิด-ปิดของแต่ละสถานที่ในวัดท่าซุง มีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ควรศึกษาเวลาเปิด-ปิดให้ดีก่อนเข้าชม
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
(Wat Chantaram (Wat Tha Sung), Uthai Thani Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ฟรีค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 08.00 - 16.00 น.
วันเสาร์-วันอาทิตย์ 08.00 - 16.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
ตั้งอยู่ที่ : หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
โทรศัพท์ : (+66)56-502655
เว็บไซด์ : http://www.watthasung.com/home.php
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
จองตั๋วรถโดยสารประจำทาง http://www.busticket.in.th
จองตั๋วรถไฟ https://www.thairailwayticket.com/
จองตั๋วรถตู้ http://van.itthailand.net
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อสวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย
อ่านต่อพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ
อ่านต่อน้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง
อ่านต่อตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย
อ่านต่อตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้
อ่านต่อวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967
อ่านต่อวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย
อ่านต่อ10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อหอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ