ทะเลสาบโชจิโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,148)
  • By Webmaster
  • 03:54:29 | 2 ก.พ. 2566

ทะเลสาบโชจิโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

Shojiko Lake, Yamanashi, Japan


ทิวทัศน์ของทะเลสาบโชจิโกะยามฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

           ทะเลสาบโชจิโกะ คือทะเลสาบที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการทำกิจกรรมทางน้ำและธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

           ทะเลสาบโชจิโกะเมตร มีต้นกำเนิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิในอดีต จนทำให้ลาวาที่กระจายตัวออกมาปิดกั้นพื้นที่เดิมซึ่งเป็นแม่น้ำ จนกลายมาเป็นทะเลสาบ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าแต่เดิมนั้น ทะเลสาบโชจิโกะ ทะเลสาบไซโกะ และทะเลสาบโมโตสุโกะ เคยเป็นทะเลสาบเดียวกันมาก่อน แต่เมื่อภูเขาไฟฟูจิมีการประทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้ลาวาไหลมาแบ่งทะเลสาบออกเป็น 3 ส่วนดังที่ปรากฏในปัจจุบัน

           ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กร Unesco พร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และน้ำตกชิระอิโตะ ในปี ค.ศ. 2013 มีพื้นที่รวม 0.51 ตารางกิโลเมตร มีความลึก 15.2 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 900 เมตร มีพื้นที่ติดกับป่าแห่งความตาย หรือป่าอาโอกิกาฮาระ ซึ่งมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บวกกับพื้นที่โดยรอบนั้นยังไม่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นที่เที่ยวหรือที่พักเหมือนกับทะเลสาบคาวากุจิโกะและทะเลสาบยามานากาโกะ จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับความนิยมในการเดินป่า ตั้งแคมป์ บวกกับขนาดของทะเลสาบที่ไม่ใหญ่จนเกินไป จึงทำให้เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมทางน้ำทั้งตกปลา เล่นเจ๊ทสกี และพายเรืออีกด้วย


มุมที่เป็นเอกลักษณ์ของทะเลสาบโชจิโกะ คือจุดที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟโอมุระ ซ้อนทับกับภูเขาไฟฟูจิเช่นนี้

           ความงดงามของทะเลสาบโชจิโกะถูกแนะนำให้กับชาวโลกเป็นครั้งแรกโดยนักเดินทางชาวอังกฤษชื่อว่า แฮร์รี่ สจ๊วต วิทเวิร์ธ ซึ่งเดินทางมาเยือนทะเลสาบแห่งนี้ตั้งแต่ในยุคเมจิ และนำเรื่องราวการเดินทางไปเขียนลงในหนังสือจนได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติจำนวนมาก ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “สวิสเซอร์แลนด์แห่งตะวันออก” โดยจุดชมวิวขึ้นชื่อนั้นคือมุมที่สามารถมองเห็นภูเขาโอมุโระ และภูเขาไฟฟูจิซ้อนทับกันเป็นฉากหลังอย่างพอดิบพอดี
 

การเดินทางไปยังทะเลสาบโชจิโกะจากโตเกียว

           - รถบัส จากโตเกียว มีรถบัสของบริษัท Highway Bus วิ่งระหว่างโตเกียว – ทะเลสาบโชจิโกะ-ทะเลสาบโมโตสุโกะ แต่จะให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อน หรือระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายนเท่านั้น โดยจุดขึ้นรถจะอยู่ที่สถานีรถบัสด่วนพิเศษชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,200 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ  2 ชั่วโมง 45 นาที นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bus-en.fujikyu.co.jp/highway/detail/id/1
 

การเดินทางบริเวณทะเลสาบโชจิโกะ

           - รถบัส เป็นวิธีการเดินทางรูปแบบเดียวสำหรับระบบขนส่งสาธารณะบริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเริ่มต้นจาก สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ซึ่งมีรถบัสของบริษัท Fujikyu สายสีฟ้า ซึ่งจะวิ่งจากสถานีคาวากุจิโกะ ผ่านทะเลสาบโชจิโกะ และสิ้นสุดปลายทางที่ทะเลสาบโมโตสุกะ ให้บริการตั้งแต่ 09.20-16.40 น. มี 2-day pass จำหน่ายในราคา 1,500 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bus-th.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/1/

           - รถแท็กซี่ บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิมีรถแท็กซี่ให้บริการทั้งแบบคิดตามมิเตอร์ และแบบเหมา โดยอัตรามิเตอร์เริ่มต้นที่ 730 เยน และเพิ่มขึ้นครั้งละ 90 เยนทุกๆระยะทาง 244 เมตร ส่วนอัตราเหมาเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 6,900 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fujiq-taxi.jp/en/taxi/
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           เนื่องจากทะเลสาบโชจิโกะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จึงไม่มีวันหยุดและวันปิดทำการ


นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากจุดชมวิวต่างๆที่อยู่โดยรอบทะเลสาบโชจิโกะ
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


บรรยากาศรอบทะเลสาบโชจิโกะยามใบไม้เปลี่ยนสี ที่สามารถมองเห็นภูเขาต่างๆเปลี่ยนสีสันตามเหล่าพรรณไม้

           นักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนทะเลสาบโชจิโกะได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ตารางการเดินรถและกิจกรรมต่างๆรอบทะเลสาบอาจมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


เช่นเดียวกับทะเลสาบอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง ทะเลสาบโชจิโกะก็เป็นที่นิยมในการล่องเรือตกปลาเช่นกัน

           รถบัสสายสีฟ้าของบริษัท Fujikyu ถือเป็นระบบขนส่งสาธารณะเพียงชนิดเดียวระหว่างสถานีคาวากุจิโกะและทะเลสาบโชจิโกะ ตลอดการเดินทางนักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบตารางการเดินรถ และรักษาเวลาในการท่องเที่ยวให้ดี

           เนื่องจากทัศนวิสัยและสภาพอากาศบริเวณทะเลสาบโชจิโกะอาจมีความแปรปรวนและส่งผลต่อการมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์พยากรณ์อากาศที่เป็นสากลอย่าง Accuweather แล้ว นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย เนื่องจากการพยากรณ์อากาศในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีความแม่นยำสูง และเชื่อถือได้ โดยหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือกรมอุตุวิทยาประเทศญี่ปุ่น (JMA) ที่มีการพยากรณ์สภาพอากาศในทุกจังหวัดของญี่ปุ่นแบบรายชั่วโมง และยังคอยแจ้งเตือนแผ่นดินไหว หรืออุบัติภัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

               เว็บไซต์กรมอุตุวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) : http://www.jma.go.jp/jma/indexe.html

           จากตัวอย่างในภาพ หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศในจังหวัด Yamanashi เป็น รูปดวงอาทิตย์ ถือว่ามีโอกาสสูงประมาณ 90% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีเมฆบดบัง หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศเป็น รูปดวงอาทิตย์และก้อนเมฆ จะมีโอกาสประมาณ 50-70% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ หากเป็น รูปก้อนเมฆอย่างเดียว จะมีจะมีโอกาสประมาณ 20-40% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ และหากเป็น รูปก้อนเมฆพร้อมฝน ถือว่าแทบไม่มีโอกาสมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเลย

           นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศ เพื่อข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิยังมี 2 หน่วยงานหลักที่ ติดตั้งกล้อง Webcam ไว้ตามจุดต่างๆ เพื่ออัพเดทภาพภูเขาไฟฟูจิแบบสดๆ หรืออัพเดทเป็นรายนาที ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตรวจสอบภาพพื้นที่โดยรอบภูเขาไฟฟูจิในช่วงเวลาปัจจุบันได้ทันทีบนเว็บไซต์ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรเดินทางไปท่องเที่ยวบริเวณนั้นหรือไม่

             1. องค์การการท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture Tourism Organization)

           กล้องขององค์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ มีทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งครอบคลุมภาพจากบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดอื่นๆ ซึ่งมีการทำแผนที่แสดงมุมกล้องอย่างชัดเจนบน เว็บไซต์ : https://www.yamanashi-kankou.jp/fujisanwatcher/live/index.html

             2. Fujigoko TV

           กล้องของบริษัท Fujigoko TV มีจำนวนกว่า 20 ตัวรอบภูเขาไฟฟูจิ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆอย่างโอชิโนะ ฮักไก และภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 โดยส่วนใหญ่จะเป็นภาพนิ่งจากกล้องที่มีการอัพเดททุกๆ 1-5 นาที และยังสามารถดูภาพย้อนหลังในช่วงเวลาอื่นของวันได้อีกด้วย เว็บไซต์ http://www.fujigoko.tv/english/

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ทะเลสาบโชจิโกะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ทะเลสาบโชจิโกะ

                         (Shojiko Lake)

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

                         เวลาเปิด-ปิด : ไม่มีวันปิดทำการ

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

                         โทรศัพท์ : (+81) 555-87-2311 (Shojiko Tourism Association)

                         ระดับความนิยม :

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ http://www.yamanashi-kankou.jp/english/

                                         เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ