- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- เกาะชิมิซุ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะชิมิซุ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
- อ่าน (2,922)
- By Webmaster
- 15:47:41 | 29 พ.ย. 2561
เกาะชิมิซุ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
Shimizu Island, El Nido, Palawan, Philippines
บริเวณด้านหน้าหาดของเกาะชิมิซุ (Shimizu Island)
ประวัติความเป็นมา
ในอดีตเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมามีกลุ่มนักดำน้ำจำนวนหลายคนได้ลงสำรวจความงามใต้ทะเลของเมืองเอลนิโด้ ซึ่งในช่วงที่กลุ่มนักดำน้ำได้เดินเข้าไปในอุโมงค์ใต้น้ำลึก มีหนึ่งนักดำน้ำได้เสียชีวิตลง กลุ่มนักดำน้ำได้ใช้เวลาหลายวันจนพบเกาะที่มีทรายขาวละเอียดและมีหินที่ก่อตัวขึ้นโอบล้อมไว้ ในช่วงเวลานั้นชาวบ้านในแถบนี้ต้องการตั้งชื่อเกาะต่างๆ และรวมถึงเกาะที่ถูกสำรวจพบนี้ด้วย เนื่องจากการเสียชีวิตของ 1 ในกลุ่มนักดำน้ำที่เป็นชาวญี่ปุ่น จึงได้ตั้งชื่อเกาะนี้ว่า “ชิมิซุ (Shimizu)” มีที่มาจากนามสกุลของนักดำน้ำคนดังกล่าวเพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัย
แผนที่ตั้งของเกาะชิมิซุ (Shimizu Island)
เรือสำหรับทัวร์ท่องเที่ยวบริเวณหน้าหาดของเกาะชิมิซุ
เกาะชิมิซุ 1 ในแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยว A.
การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมือง El Nido วิธีที่ 1
- เครื่องบิน นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองเอลนิโด้ ของจังหวัดปาลาวัน จะต้องจองเที่ยวบินภายในประเทศบินจากกรุงมะนิลาไปยังสนามบินนานาชาติปวยร์โต ปรินเซซา ซึ่งมีหลายเที่ยวบินให้เลือก ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง สายการบินหลักเช่นฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ เซบูแปซิฟิกและแอร์เอเชียมีเที่ยวบินประจำวันและเที่ยวบินปกติทำให้นักท่องเที่ยวสามารถจัดสรรเวลาได้เหมาะสมต่อแต่ละคนได้ แล้วจึงนั่งรถไปยังเมืองเอลนิโด้
เมื่อมาถึงสนามบินนานาชาติปวยร์โต ปรินเซซา นักท่องเที่ยวต้องนั่งรถโดยสารสาธารณะไปยังเอล นิโด้ ไม่ว่าจะเป็นรถตู้ หรือรถบัส(Roro bus)
- รถตู้ (Shuttle van) เป็นที่นิยมกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวโดยเมื่อออกจากเทอมินอลของสนามบินแล้วสามารถซื้อตั๋วรถตู้เพื่อเดินทางไปยังเอลนิโด้ได้ทันทีโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า เนื่องจากมีหลากหลายบริษัทให้เลือก ราคาอยู่ที่ 500-700 เปโซ/คน ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงในการเดินทาง แต่มีข้อเสียคือที่นั่งคับแคบ
- รถบัส (RoRo Bus) นักท่องเที่ยวต้องนั่งรถสามล้อหรือแท็กซี่จากสนามบินเพื่อไปขึ้นรถโรโรบัส ที่ San Jose terminal ซึ่งเป็นที่นิยมในคนท้องถิ่นเมื่อต้องเดินทางไปยังเมืองเอล นิโด้เนื่องจากที่นั่งกว้างกว่ารถตู้ทำให้นั่งได้สบายกว่า ใช้เวลาในการเดินทางนานถึง 8 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 300 เปโซ/คน
การเดินทางไปยังเมือง El Nido วิธีที่ 2
- เครื่องบิน เป็นการบินตรงมาลงที่เมืองเอลนิโด้ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง โดยสายการบิน Air Swift ซึ่งเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงจากกรุงมะนิลามายังเมืองเอลนิโด้ (El Nido Airport) หรือ Lio Airport ชื่ออย่างเป็นทางการนั่นเอง ไป-กลับเริ่มต้นที่ราคาประมาณ 6,000 เปโซฟิลิปปินส์ และมีเพียงไม่กี่เที่ยวต่อวัน ตรวจสอบเที่ยวบินจากแอร์สวิฟท์ได้ที่ https://air-swift.com/
การเดินทางไปยังเกาะชิมิซุ
- เรือทัวร์ (เรือปู) เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงสถานีรถบัสของเอล นิโด้แล้ว (El Nido Bus Terminal) ต้องนั่งรถสามล้อมายังหาดในตัวเมือง เพื่อขึ้นเรือทัวร์บริเวณท่าเรือเฟอร์รี่ (El Nido Ferry Terminal) โดยจะต้องเลือกซื้อทัวร์ท่องเที่ยว A,B,C,D ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 แพ็คเกจตามที่รัฐบาลกำหนด โดยเกาะชิมิซุ (Shimizu Island) จัดอยู่ในแพ็คเกจ A. ใช้เวลาในการเดินทางโดยประมาณ 30 นาที
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
บริเวณจุดเทียบเรือท่องเที่ยวของเกาะชิมิซุ
เกาะชิมิซุเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ในช่วง เวลา 09.00 – 16.00 น. โดยเป็นช่วงเวลาตามที่รัฐบาลเมืองเอลนิโดได้กำหนด
การซื้อบัตรเข้าชม
ลักษณะหน้าผาที่โอบล้อมเกาะชิมิสุบริเวณด้านขวาเมื่อมองจากน่านน้ำ
เกาะชิมิซุจัดอยู่ในแพ็คเกจ A. ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวตามที่รัฐบาลของเมืองเอลนิโด้ได้กำหนดไว้ มีแพ็คเกจให้เลือกทั้งหมดถึง 4 แพ็คเกจ คือ A,B,C,D ส่วนราคาค่าทัวร์ของแพ็คเกจ A. จะอยู่ที่ 1200 เปโซ/คน
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
ภูเขาหินปูนที่เป็นเสมือนม่านธรรมชาติโอบล้อมเกาะชิมิซุ
สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อได้มาถึงเกาะชิมิซุคือการทำกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง เนื่องจากที่เกาะชิมิซุมีภูเขาหินปูนที่สวยงามเรียงรายตั้งตระหง่านโดดเด่น มีขอบแกะสลักที่สวยงามทำให้ดูเหมือนกับม่านธรรมชาติ ส่วนหาดทรายมีสีขาวสะอาด เกาะชิมิซุได้สร้างความแปลกใจในการมีสีต่างๆของการก่อหิน สีส้ม, สีแดง, สีน้ำตาลสลับกับรากของพืชที่มีการเติบโตในผนังหินปูน รวมถึงปะการังและปลาหลากสี ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ทะเล, เม่นทะเล, ปลาสีฟ้า, ปลาสีเหลือง, ปลานางฟ้า และสัตว์ทะเลอื่น ๆ ทำให้เกาะชิมิซุเป็นเกาะที่สมบูรณ์แบบที่มีสิ่งมีชีวิตทางทะเลอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเอลนิโด้และเหมาะแก่การดำน้ำเพื่อชื่นชมกับความสวยงามใต้ท้องทะเล
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปเที่ยวชายหาดมากที่สุด คือ ช่วง เดือนธันวาคม - เดือนพฤษภาคม ซึ่งอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาวและเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน จึงเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีฝนหรือมรสุมเหมาะแก่การเล่นน้ำ อาบแดด และดำน้ำดูปะการัง
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
น้ำทะเลบริเวณเกาะชิมิซุมีสีใสสะอาดบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ทางสิ่งมีชีวิต
ในการซื้อแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวต่างๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังต้องเสียค่าธรรมเนียมในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เมื่อมาถึงเอลนิโด้ด้วย โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมคนละ 200 เปโซ และจะมีอายุอยู่ได้ถึง 10 วัน รวมถึงต้องพกติดตัวตลอดเวลา เนื่องจากในการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอาจมีการขอตรวจจากเจ้าหน้าที่ได้
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว เกาะซิมิซุ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เกาะชิมิซุ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
(Shimizu Island, El Nido, Palawan, Philippines)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ราคาแพ็คเกจท่องเที่ยว A. คนละ 1,200 เปโซ
เวลาเปิด-ปิด : เวลา 09.00 – 16.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ธันวาคม – พฤษภาคม
สถานที่ตั้ง : เกาะชิมิซุ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com
การท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ www.tourism.gov.ph
ตรวจสอบเที่ยวบิน www.philippineairlines.com/en
ตรวจสอบรอบเรือเฟอร์รี่โอเชี่ยนเจ็ท https:www.oceanJet.net
ตรวจสอบแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยว http://elnidoboutiqueandartcafe.com/island.html
ตรวจสอบรถโรโรบัส https://www.lakas.com.ph/2012/02/roro-bus-in-palawan/
ตรวจสอบรถตู้ https://www.gopalawan.travel/Puerto_Princesa_to_El_Nido
ตรวจสอบเที่ยวบินจากแอร์สวิฟท์ https://air-swift.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000
อ่านต่อสวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997
อ่านต่อเนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย
อ่านต่อทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว
อ่านต่อถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ
อ่านต่ออุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว
อ่านต่อสะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อ