- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
- อ่าน (6,810)
- By Webmaster
- 15:15:08 | 28 พ.ย. 2561
พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
Tuol Sleng Genocide Museum, Phnom Penh, Cambodia
พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง (Tuol Sleng Genocide Museum) ตั้งอยู่ในเมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สำคัญที่บอกเล่าถึงอดีตอันเจ็บปวดของประเทศกัมพูชาที่นักท่องเที่ยวควรหาเวลามาเยี่ยมชมสักครั้ง
ทั้งนี้พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง หรือที่มักเรียกย่อๆว่าตวลสเลง ถูกแปรสภาพจากโรงเรียนให้กลายเป็นคุกเพื่อสอบสวน ทรมาน และสังหารนักโทษที่ถูกกล่าวหาโดยรัฐบาลเขมรแดง เชื่อกันว่าเวลาไม่กี่ปีในช่วง 1975 – 1979 มีผู้ที่เสียชีวิตในสถานที่แห่งนี้ไม่ต่ำกว่าหมื่นคน
แม้ทุกวันนี้ตวลสเลงจะไม่ได้เป็นคุกอีกแล้ว แต่เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น รัฐบาลกัมพูชาในปัจจุบันจึงได้เปลี่ยนตวลเสลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความโหดร้ายที่เกิดขึ้นไว้เป็นบทเรียนแก่คนรุ่นหลังต่อไป
แผนผังของพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง
ตัวอาคารที่กลายเป็นคุกและเป็นที่ดับลมหายใจของผู้คนที่ถูกส่งมายังสถานที่แห่งนี้
ภายในอาคารมีการจัดแสดงภาพถ่ายจากอดีตเกี่ยวกับสถานที่นี้
และภาพวาดที่บอกเล่าถึงเหตุการณ์โหดร้ายที่เคยเกิดขึ้น
ผู้เสียชีวิตที่หลงเหลือไว้เพียงโครงกระดูก
กับภาพถ่ายที่กลายบางภาพกลายเป็นภาพสุดท้ายของชีวิต
ประวัติศาสตร์ของตวลสเลง
ก่อนหน้าที่เขมรแดงจะประสบชัยชนะในปี 1975 ตวลเสลงเป็นโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองพนมเปญ โดยชื่อของโรงเรียนแห่งนี้ตั้งตามพระนามของกษัตริย์พระองค์หนึ่งของกัมพูชาในอดีต
แต่หลังจากที่เขมรแดงประกาศชัยชนะในการล้มล้างอดีตผู้นำอย่างนายพลลอน นอล โรงเรียนมัธยมแห่งนี้ก็ได้ถูกแปรสภาพเป็นคุกที่เรียกว่า Security Prison 21 หรือ S-21 โดยได้ใช้เป็นที่คุมขังบุคคลที่เขมรแดงมองว่าเป็นอันตรายต่อการปกครอง หรือก็คือกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเดิม รวมไปถึงนักวิชาการ พระภิกษุและปัญญาชน แม้แต่คนที่ใส่แว่นก็ถูกตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าคนพวกนี้ก็อาจจะมีแนวคิดที่เป็นภัยต่อความมั่นของเขมรแดง จึงมีการจับตัวคนเหล่านี้มาที่คุกตวลเสลงเพื่อทรมาน ก่อนจะจบลงด้วยความตายในที่แห่งนี้ หรือไม่ก็ถูกส่งต่อไปยังทุ่งสังหารเจิงเอก ซึ่งมีความตายรออยู่ไม่ต่างกัน
ช่องก่ออิฐที่ใช้เพื่อคุมขังนักโทษ
บางห้องแม้จะมีเตียง แต่ความจริงแล้วใช้เพื่อล่ามนักโทษให้อยู่กันอย่างแออัด
สถานที่ที่กลายเป็นหลุมฝังร่างของผู้ที่ถูกส่งมายังตวลสเลง
การเดินทางจากสนามบินไปตัวเมืองพนมเปญ
ท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ (Phnom Penh International Airport / PHN) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองพนมเปญซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศกัมพูชาไปประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองได้โดย
- รถบัสจากสนามบิน หรือ Airport express bus ที่ให้บริการรับนักท่องเที่ยวจากสนามบินไปส่งตัวเมือง โดยมีค่าบริการประมาณ 5 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD) ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วได้ทั้งที่เคาท์เตอร์ในสนามบินหรือจะซื้อจากคนขับก็ได้เช่นกัน โดยความถี่ของรถบัสจะมีตั้งแต่ 30 นาทีในช่วงที่ผู้โดยสารเยอะ ไปจนถึง 60 นาทีในตอนที่ผู้โดยสารน้อย ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเส้นทางและการให้บริการเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kkstarbus.com/page?lang=en
- รถไฟจากสนามบิน หรือ Shuttle train ที่ให้บริการโดยการรถไฟของกัมพูชา พานักท่องเที่ยวจากสนามบินไปส่งที่สถานีรถไฟพนมเปญที่อยู่ใจกลางเมือง โดยใช้เวลาในการเดินทางเพียง 30 นาทีเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.royal-railway.com/
- รถแท็กซี่ อีกหนึ่งการเดินทางอันสะดวกสบายที่มีให้เรียกใช้งานตั้งแต่บริเวณด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาเข้าเช่นกัน โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการเพิ่มเติมได้ที่ https://pnh.cambodia-airports.aero/en/access-parking/airport-city
การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง เมืองพนมเปญ
พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง ตั้งอยู่ภายในเขตของตัวเมืองพนมเปญ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินเท้าไปชม หรือใช้บริการรถโดยสารต่างๆ อาทิ
- รถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางในเขตเมืองครั้งละประมาณ 2-4 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD) หรือเหมาเที่ยวทั้งวันประมาณ 20 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)
รถตุ๊กตุ๊กที่ให้บริการภายในเมืองพนมเปญ
- รถแท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบาย มีบริการมิเตอร์ค่าโดยสาร แต่บางส่วนนิยมใช้บริการแบบพาเหมาเที่ยวรอบเมืองหรือตลอดทั้งวัน
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น.
บรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมตวลสเลงในยามบ่าย
อัตราค่าบริการ
6 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD)/คน (รวมค่าบริการ Audio guide ภาษาต่างๆ รวมถึงภาษาไทยไว้แล้ว)
ผู้เยี่ยมชมที่ต่อแถวรอซื้อบัตรเข้าชมตวลสเลง มีราคาบอกอยู่ที่ด้านขวามือของแถว
เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว
พนมเปญเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนได้ทุกฤดู โดยฤดูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 25 องศาเซสเซียส ทำให้เดินเล่นอย่างสบายๆ ขณะที่ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปนักท่องเที่ยวต้องเตรียมพร้อมาสำหรับอากาศที่จะร้อนขึ้น ก่อนเข้าสู่ฤดูฝนตามลำดับ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อวางแผนการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมทุ่งสังหารเจิงเอก ควรใช้เวลาในการเยี่ยมชมไม่น้อยกว่า 2 – 3 ชั่วโมง ในการเดินชมรอบๆทุ่งสังหาร
เลือกไปเยือนในวันที่ท้องฟ้ามีแสงแดดสดใสจะทำให้นักท่องเที่ยวชมร่องรอยที่หลงเหลือได้ชัดเจนขึ้น
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลเสลง และประเทศกัมพูชา
แม้สกุลเงินของกัมพูชาคือเงินเรียล (KHR) แต่ตามร้านค้า,โรงแรม รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายๆแห่งมักจะมีการเก็บเงินค่าเข้าชมหรือค่าบริการเป็นเงินดอลล่าห์สหรัฐฯ (USD) มากกว่า นักท่องเที่ยวจึงควรแลกเงินดอลล่าห์สหรัฐเผื่อเอาไว้สำหรับใช้จ่ายด้วย
นอกจากนี้ สะพานลอยและทางม้าลายเป็นของหาได้ยากมากในเมืองพนมเปญ นักท่องเที่ยวที่ต้องการข้ามถนน จึงต้องใช้ความระมัดระวังและหาจังหวะในการข้ามอย่างมาก
พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลเสลง ตัวแทนแห่งความโหดร้ายจากอดีตที่ส่งผ่านบทเรียนให้กับผู้เยี่ยมชม
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลเสลง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลเสลง เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
(Tuol Sleng Genocide Museum, Phnom Penh, Cambodia)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 6 ดอลล่าห์สหรัฐ
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 น. – 17.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ทุกฤดูกาล โดยฤดูหนาว(เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) จะได้รับความนิยมสูงสุด
ตั้งอยู่ที่ : เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
บริการข้อมูลท่าอากาศยานประเทศกัมพูชา https://corp.cambodia-airports.aero/
เว็บไซต์เมืองพนมเปญ http://phnompenh.gov.kh/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
อ่านต่อชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที
อ่านต่อคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
อ่านต่อเนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”
อ่านต่ออามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
อ่านต่อวัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
อ่านต่อ