ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว

  • อ่าน (4,979)
  • By Webmaster
  • 11:22:48 | 16 ส.ค. 2561

ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว

Pak Ou Caves, Luang Prabang, Laos

ถ้ำปากอู หรือถ้ำติ่ง ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวหลวงพระบาง

             ถ้ำปากอู หรือ ถ้ำติ่ง เป็นถ้ำที่อยู่ปากทางสบอู ตั้งอยู่กลางภูเขาลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง ประมาณ 29 กิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามบ้านปากอู จุดเชื่อมของแม่น้ำสองสาย คือแม่น้ำโขงและแม่น้ำอู มาบรรจบกัน จึงเป็นที่มาของ ชื่อ "ถ้ำปากอู" แห่งนี้


ที่ตั้งแขวงหลวงพระบางในประเทศสปป.ลาวบนแผนที่โลก

ประวัติและความเป็นมา

           ถ้ำปากอู หรือ ถ้ำติ่ง มีความสำคัญมาอย่างยาวนานกับชาวลาว โดยเฉพาะหลวงพระบาง เพราะถือได้ว่าเป็นเทวสถานของเจ้าที่แม่น้ำ โดยในสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ซึ่งหินงอกหินย้อยที่มีอยู่มากมายภายในถ้ำนั้นเป็นที่สิงสถิตของผี ทั้งวิญญาณในน้ำและในถ้ำ 


ถ้ำปากอูที่ตั้งตระหง่านเหนือน่านน้ำแม่น้ำโขง

           ต่อมาศาสนาพุทธเริ่มเข้ามาเผยแผ่ผ่านมาทางชาวมอญ ในราวๆ พุทธศตวรรษที่ 13 และได้รับการนับถือกันอย่างแพร่หลายคู่ไปกับความเชื่อดั้งเดิมในเรื่องของการนับถือบูชาผีฟ้า เทวดา


ถ้ำปากอูที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแม่น้ำโขง ณ หลวงพระบาง

           ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 เข้าสู่ยุคเฟื่องฟูแห่งศาสนาพุทธ ในรัชสมัยของพระเจ้าโพธิสารราช (พ.ศ. 2063 - พ.ศ. 2090) พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้เลื่อมใสในศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก ทรงสร้างวัดวาอารามต่างๆ มากมาย และประกาศยกเลิกไม่ให้ประชาชนนับถือผีสางแต่ให้มายึดมั่นในพระพุทธศาสนา


พระพุทธรูปสมัยโบราณที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอู

           ความเชื่อในเรื่องการบูชาภูติผีจึงลดบทบาทไป ประกอบกับสภาวะบ้านเมืองในขณะนั้น ถ้ำติ่งจึงถูกทิ้งร้าง จนมาในปี พ.ศ. 2091 ถ้ำติ่งถูกค้นพบอีกครั้งโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา (พระเจ้าโพธิสารราช) ในขณะทำการก่อสร้างวัดปากอู ที่อยู่ริมแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้าม ชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มายังถ้ำปากอูก็คือฟรานซิส การ์นิเย่ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสก็มาพบเข้า


บริเวณจุดรับส่งรถที่มาส่งท่าเรือของหมู่บ้านปากอูเพื่อต่อเรือไปยังถ้ำปากอูหรือถ้ำติ่ง

           จากนั้นมาถ้ำติ่ง ก็กลายเป็นพุทธสถาน ที่นักแสวงบุญในพุทธศาสนาได้เดินทางมาสักการะอย่างต่อเนื่อง และตามธรรมเนียมความเชื่อ นักแสวงบุญก็จะทิ้งพระพุทธรูปไว้ในถ้ำ ทำให้ทุกวันนี้มีพระพุทธรูปกว่า 4,000 องค์ ส่วนใหญ่แล้วมีอายุอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 24-25 กว่า 2,500 องค์ ส่วนองค์ที่เก่าที่สุดนั้นสร้างจากไม้ และมีอีกหลายองค์ที่หล่อจากสำริดลงรักปิดทอง

การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมือง

             - รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) เป็นวิธีการเดินทางที่นิยมมาก เนื่องจากมีความสะดวกสบาย โดยมีระยะทางประมาณ 5.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที อัตราค่าโดยสารมีสองรูปแบบคือ ราคา 50,000 กีบ/3คน หรือจะจ่ายเป็นสกุลเงินไทยก็ได้ ประมาณ 200 บาท/3คน เช่นเดียวกัน

             - รถเมล์ ต้องข้ามฝั่งไปด้านตรงข้ามสนามบิน ซึ่งจะเป็นรถเมล์สีเขียววิ่งสวนกันไปมา ราคาอยู่ที่ 5,000 กีบ/คน แต่รถมาไม่ถี่นัก สามารถดู GPS ของรถเมล์ที่ต้องการได้ที่ https://lao.busnavi.asia/

การเดินทางจากตัวเมืองไปยังท่าเรือ

             - รถจักรยานยนต์ (เช่า) นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถจักรยานยนต์ได้ตรงที่พักหรือในซอยโจมา ซอยยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แล้วขับไปตามถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 13 ทางเหนือของหลวงพระบาง เรียบแม่น้ำโขงไปเรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้านช่างไหจนถึงหมู่บ้านปากอูเพื่อขึ้นเรือข้ามฟากไปยังถ้ำปากอูซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม (ท่าเรือบ้านซ่างไห) และ (ท่าเรือปากอู)


บริเวณจุดขึ้นเรือโดยสารเพื่อข้ามฟากไปยังถ้ำปากอู

           นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เดินเรือบริเวณท่าเรือปากอูหรือท่าเรือช่างไหเพื่อเดินทางข้ามฝั่งไปยังถ้ำติ่งได้เลย โดยราคาค่าเรือโดยสาร ประมาณ 10,000 กีบ/คน

เวลาทำการเปิด – ปิด

           เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ของทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์

พื้นที่กว้างบริเวณหมู่บ้านปากอู แสดงถึงความเป็นอยู่และการเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้าน

การซื้อบัตรเข้าชม

           เนื่องจากถ้ำปากอูเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวลาวหลวงพระบางให้ความเคารพนับถือกันมาอย่างยาวนาน และมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกมากมาย รวมถึงมีความสำคัญทางศาสนาอย่างมาก อัตราค่าเข้าจึงอยู่ที่ชาวลาวคนละ 5,000 กีบ และ นักท่องเที่ยวคนละ 20,000 กีบ สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้บริเวณจุดทางเข้าปากถ้ำ


พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอูซึ่งมีมาแต่โบราณกาล

จุดท่องเที่ยวสำคัญ

             ถ้ำติ่งล่าง หรือถ้ำลุ่ม ในภาษาลาว อยู่เหนือจากท่าจอดเรือเล็กน้อย บริเวณหน้าปากถ้ำมีรูปแกะสลักจิ้งจอก 2 ตัวทาสีขาวหันหัวเข้าหากัน ตรงบริเวณโขดหิน แทนสัญลักษณ์ว่าเป็นจุดที่แม่น้ำ 2 สายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำโขงและแม่น้ำอู มีพระพุทธรูปจำนวนมากหลายขนาด ทำมาจากไม้ ดิน ปูน สัมฤทธิ์ฯ โดยถ้ำติ่งลุ่มมีลักษณะเป็นโพรงตื้นๆ สูงประมาณ 60 เมตร จากพื้นน้ำ มีหินงอกหินย้อยเล็กน้อย ตามความเชื่อโบราณกล่าวว่าจะมีสิ่งของมีค่าซ่อนอยู่ภายในถ้ำ


พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ชาวหลวงพระบางเคารพนับถือมาอย่างยาวนาน

           ส่วนใหญ่พระพุทธรูปภายในถ้ำปากอูจะมีลักษณะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ความสำคัญของถ้ำติ่งในสมัยโบราณคือการเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ซึ่งเมื่อตอนค้นพบใหม่มีพระพุทธรูปจำนวนหนึ่งทำด้วยเงิน และทองคำ แต่ปัจจุบันถูกลอกออกไปหมด


พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่อยู่ภายในถ้ำปากอูซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันหลากหลาย


พระพุทธรูปส่วนใหญ่ที่อยู่ภายในถ้ำปากอูมีลักษณะเป็นพระยืนด้วยปางต่างๆ

             ถ้ำติ่งเทิง หรือถ้ำติ่งบน จะมีทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น สองข้างทางจะร่มรื่นไปด้วยเงาไม้ ลักษณะถ้ำติ่งบนเป็นปากถ้ำไม่ลึกมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำเล็กน้อย ไม่เยอะเท่าถ้ำติ่งล่าง


รูปปั้นที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำปากอู 

           การเข้าชมภายในถ้ำติ่งบนนี้ มีความมืดพอสมควร ต้องใช้ไฟฉายส่องนำทาง ซึ่งที่ปากถ้ำมีไฟฉายให้เช่าอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าไปชมภายใน


มุมจากบนถ้ำปากอูซึ่งมองเรือโดยสารที่ลอยตัวอยู่บนแม่น้ำโขง

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


สัตว์เลี้ยงของชาวหลวงพระบางลงเล่นแม่น้ำโขง

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าหากมาในช่วงฤดูร้อนหรือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม ที่นี่อาจจะมีอากาศร้อนมากจนแสบผิวได้ แนะนำให้ทาครีมกันแดด พกแว่นตากันแดดหรือใส่เสื้อแขนยาว

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ท่าเทียบเรือฝั่งบริเวณถ้ำปากอู

           นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือที่ท่าวัดเชียงทองได้ โดยเป็นเรือเช่าเหมาซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์สองฟากฝั่งแม่น้ำโขง หากนั่งเรือจากในตัวเมืองจะเป็นการนั่งทวนน้ำ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง แต่ขากลับจะล่องเรือไปตามน้ำใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ถ้ำปากอู สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       ถ้ำปากอู หลวงพระบาง ประเทศลาว

                       (Pak Ou Caves, Luang Prabang, Laos)

                       ระดับความนิยม :

                       อัตราค่าเข้าชม : คนละ 20,000 กีบ

                       เวลาเปิด – ปิด : ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ของทุกวัน

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : หมู่บ้านปากอู ห่างตัวเมืองไปประมาณ 30 กิโลเมตร ทางทิศเหนือ

                       โทรศัพท์ : -

                       เว็บไซต์ : www.louangprabang.net

                       ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com

                                         ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหลวงพระบาง http://uxolao.org/ และ http://www.fwab.org/fvc

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ

ตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด

อ่านต่อ

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที

อ่านต่อ

คลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

อ่านต่อ

เนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา

อ่านต่อ

วัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ