พระราชวังฤดูร้อนแห่งนครปักกิ่ง ประเทศจีน

  • อ่าน (6,558)
  • By Webmaster
  • 12:03:43 | 26 ก.ค. 2561

พระราชวังฤดูร้อนแห่งนครปักกิ่ง ประเทศจีน

颐和园 , Summer Palace, Beijing, China

 

             พระราชวังฤดูร้อน หรือ อี๋เหอหยวน (颐和园 / Yiheyuan / Summer Palace) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด สำหรับนักท่องเที่ยวที่เยือนเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน

 

           พระราชวังฤดูร้อน เป็นหนึ่งในพระราชวังสำคัญของจีนโบราณที่ยังคงเหลือเป็นหลักฐานความยิ่งใหญ่ตระการตาที่สุดจากอดีต โดยพระราชวังแห่งนี้มีพื้นที่รวมกว่า 3.08 ตารางกิโลเมตร ซึ่งนอกจากอาคารพระราชวังที่ได้รับการก่อสร้างอย่างสวยงามแล้ว ภายในพระราชวังฤดูร้อนยังเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างและงานศิลปะที่สวยงามทรงคุณค่าอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบคุนหมิง อันโด่งดังที่เกิดจากการใช้แรงงานคนสรรสร้าง หรือ ภูเขาว่านโซ่วซาน รวมกันกลายเป็นทัศนียภาพอันงดงามขึ้นชื่อ

           ด้วยเหตุนี้เอง ในปี 1998 องค์กรยูเนสโกได้มีมติยกย่องให้พระราชวังฤดูร้อนแห่งเมืองปักกิ่ง เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่มีคุณค่า ทั้งจากความมหัศจรรย์สถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างด้วยมือมนุษย์ และยังเป็นสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และผลงานศิลปะที่ยาวนานของประเทศจีน


ทะเลสาบคุนหมิงอันกว้างใหญ่ภายในพระราชวังฤดูร้อน 


การล่องเรือชมทะเลสาบคุนหมิงจึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความโปรดปรานจากนักท่องเที่ยว

 
หรือนั่งเรือส่วนตัวชมบรรยากาศในทะเลสาบคุนหมิงก็ได้รับความนิยมเช่นกัน 


บนทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ สะพานในพระราชวังที่ยาวที่สุด ของจีนอีกด้วย 


ด้านข้างของสะพานคือศาลาทรงโบราณที่มีผู้คนต่อแถวรอขึ้นสะพานยาวไม่แพ้กัน 


อีกฟากของทะเลสาบคือว่านโซ่วซานหรือเนินภูเขาที่ตั้งของสถาปัตยกรรมสวยงามหลายแห่งภายในพระราชวังฤดูร้อน 


บนว่านโซ่วซานก็มีผู้คนเยอะไม่แพ้กัน 


หอสูงบนว่านโซ่วซานที่สามารถมองเห็นความงามได้แม้จากระยะไกล


สถาปัตยกรรมด้านบนที่ทุกมุมต่างมีนักท่องเที่ยวมาชื่นชมความงาม 


มองทะเลสาบคุนหมิงอันยิ่งใหญ่จากบนว่านโซ่วซานในพระราชวังฤดูร้อน  


ประวัติศาสตร์กับพระราชวังฤดูร้อน

           จากบันทึกประวัติศาสตร์จีนได้ชี้ให้เห็นว่าบริเวณอันเป็นที่ตั้งของพระราชวังฤดูร้อน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมจากเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง แล้ว แต่การก่อสร้างสถานที่แห่งนี้ให้เป็นพระราชวังสำหรับตากอากาศอย่างจริงจังเริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ช่วงเวลาประมาณปี 1750 โดยในการก่อสร้างนี้มีการขุดและขยายขนาดสระที่มีอยู่แล้วเดิมที ให้กลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ และเชื่อกันว่าดินที่ได้จากการขุดขยายนี้ ได้นำไปวางถมทันและกลายเป็นภูเขาที่อยู่คู่กับพระราชวังฤดูร้อน ซึ่งในตอนนั้นได้รับชื่อว่า พระราชวังชิงอี หรือ ชิงอีหยวน


ทะเลสาบคุนหมิงที่กว้างใหญ่ ความจริงแล้วมาจากการใช้แรงงานมนุษย์ขุดเพิ่มขยาย

           ต่อมา พระราชวังชิงอีได้รับความเสียหายหลายครั้ง จากเหตุการณ์รุกรานและสงครามกับชาติตะวันตกตลอดสมัยราชวงศ์ชิง แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับความสำคัญและได้รับการซ่อมแซมฟื้นฟูอยู่เสมอ โดยเฉพาะในสมัยของพระนางซูสีไทเฮา ได้มีการเปลี่ยนชื่อพระราชวังเป็น พระราชวังอี๋เหอหยวน และมีบทบาทอย่างเป็นทางการในฐานะพระราชวังสำหรับแปรพระราชฐานในช่วงฤดูร้อน อันเป็นที่มาของชื่อพระราชวังฤดูร้อนนั่นเอง


เรือหินอ่อนที่สร้างขึ้นในสมัยของพระนางซูสีไทเฮา หนึ่งในผลงานอันเลื่องชื่อแห่งพระราชวังฤดูร้อน

           อย่างไรก็ตาม พระราชวังฤดูร้อนยังคงได้รับความเสียหายเนื่องจากเหตุการณ์สงครามอีกครั้ง กระทั่งหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองและความวุ่นวายทางการเมืองจองจีนหยุดลง พระราชวังฤดูร้อนจึงได้รับการประกาศคุ้มครองและอนุรักษ์เป็นที่แรกๆในฐานะ สมบัติของชาติจีน ก่อนจะได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก และกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศจีนตราบจนทุกวันนี้ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.summerpalace-china.com/en/Introduction/index.html)


การเดินทางไปพระราชวังฤดูร้อน เมืองปักกิ่ง

           พระราชวังฤดูร้อน ตั้งอยู่ภายในเขตเมืองปักกิ่ง (หรือเป่ยจิง /北京 / Beijing) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีน และมีท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง หรือ Beijing Capital International Airport (PEK) สนามบินขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ไว้คอยให้บริการ ทั้งนี้ หลังจากเดินทางมาถึงแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามายังเมืองปักกิ่งได้โดย

             - ชัตเตอร์บัสจากสนามบิน หลังจากมาถึงสนามบินแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการชัตเตอร์บัสจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทางเพียง 40 นาทีได้ โดยสามารถดูรายละเอียดเส้นทาง, ตารางเวลา รวมถึงค่าบริการชัตเตอร์บัสไปจุดหมายต่างๆภายในเมืองเพิ่มเติมได้ที่ http://en.bcia.com.cn/traffic/airbus/index.shtml

             - รถบัส หรือรถบัสยาวของชาวจีน เป็นหนึ่งในบริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน เนื่องจากเส้นทางและรอบเวลาที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่เมืองปักกิ่งได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง, ตารางเวลา รวมถึงอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bjbus.com/home/index.php

             - รถไฟฟ้าใต้ดิน นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน Airport Express ซึ่งเป็นบริการรถไฟใต้ดินจากสนามบินสู่ สถานี Dongzhimen ซึ่งอยู่ในตัวเมืองปักกิ่งและเป็นหนึ่งในสถานีเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟใต้ดินหรือขนส่งสารธารณะอื่นๆ โดยใช้เวลาการเดินทางเพียง 25 นาที ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง, รอบเวลาในการวิ่ง และอัตราค่าโดยสารของรถไฟใต้ดินได้ที่ https://www.bjsubway.com/en/

             - รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นของเส้นทางและเวลาเดินทาง โดยอัตราค่าบริการแท็กซี่ภายในเมืองปักกิ่งจะเริ่มต้นที่ ประมาณ 13 หยวน และอัตราค่าบริการเหมาจากสนามบินไปยังในตัวเมืองปักกิ่งจะอยู่ที่ประมาณ 100 – 140 หยวน

           และหลังจากมาถึงเมืองปักกิ่งแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางต่อไปยังพระราชวังฤดูร้อน ซึ่งอยู่ห่างจาก ใจกลางเมืองปักกิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 20 กิโลเมตร ได้โดย

             - รถโดยสารสาธารณะ เนื่องจากพระราชวังฤดูร้อนเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองปักกิ่ง จึงมีรถโดยสารสาธารณะหลายสายให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสาย 夜 8, 303, 331, 332, 584, 594, 601 และ ฯลฯ โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นเพียง 2 หยวน/คน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมายเลขรถโดยสารสาธารณะและจุดบริการป้ายรอบๆพระราชวังฤดูร้อนเพิ่มเติมได้ที่ http://www.summerpalace-china.com/en/images/bus.jpg หรือ http://beijing.8684.cn/z_264cf823 และสามารถตรวจสอบรายละเอียดรอบเวลาและเส้นทางการวิ่งของรถโดยสารแต่ละเส้นทางได้ที่ http://beijing.8684.cn/

             - รถไฟฟ้าใต้ดิน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 4 ซึ่งวิ่งจากใจกลางเมืองปักกิ่งไปยังพระราชวังฤดูร้อน โดยสามารถเลือกลงได้ทั้ง สถานี Binggongmen ซึ่งอยู่ห่างจากประตูเหนือของพระราชวังฤดูร้อนไปประมาณ 250 เมตร หรือ สถานี Xiyuan ซึ่งอยู่ห่างจากประตูตะวันออกของพระราชวังฤดูร้อนไปประมาณ 800 เมตร โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง,รอบเวลาในการวิ่ง และอัตราค่าโดยสารของรถไฟใต้ดินได้ที่ https://www.bjsubway.com/en/

             - รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ อีกหนึ่งวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบาย และความยืดหยุ่นของเส้นทางและเวลาเดินทาง อีกทั้งใกล้กับประตูทางเข้าของพระราชวังฤดูร้อนยังมี บริการลานจอดรถ อีกด้วย ทั้งนี้ อัตราค่าบริการแท็กซี่ภายในเมืองปักกิ่งจะเริ่มต้นที่ 13 หยวน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกดูเส้นทางที่เหมาะสมเพิ่มเติมได้ที่ https://map.baidu.com/


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           พระราชวังฤดูร้อน เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมความสวยงาม ทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่วันชาติจีน โดยมีเวลาเปิดบริการต่างกันไปตามฤดูกาล คือ

             ฤดูกาลท่องเที่ยว (เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม) ประตูใหญ่ของพระราชวังจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6.30 น. – 20.00 น. (เข้ารอบสุดท้ายได้ถึง 18.00 น.) แต่สำหรับสวนหรืออาคารจัดแสดงบางส่วน จะมีเวลาเปิดทำการตั้งแต่ 8.30 น. – 17.00 น. (เว้นวันชาติจีน หรือวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี ประตูจะเปิดตั้งแต่เวลา 6.00 น,)

             ฤดูกาลอื่นๆ (เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม) ประตูใหญ่ของพระราชวังจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.00 น. – 19.0 น. (เข้ารอบสุดท้ายได้ถึง 17.00 น.) แต่สำหรับสวนหรืออาคารจัดแสดงบางส่วน จะมีเวลาเปิดทำการตั้งแต่ 9.00 น. – 16.00 น.


ป้ายบอกเวลาเปิดปิดก่อนเข้าสู่อาคารพระราชวังฤดูร้อน


อัตราค่าเข้าชม

           บัตรผ่านสำหรับเข้าชมพระราชวังฤดูร้อน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ บัตรผ่านทั่วไป สำหรับผ่านประตูพระราชวังฤดูร้อนและเที่ยวชมความงามของสิ่งก่อสร้างต่างๆได้ และ บัตรผ่านแบบเหมาพิเศษ ซึ่งนอกจากจะเที่ยวชมพระราชวังฤดูร้อนได้แล้ว ยังสามารถเข้าชมแกลอรี่และส่วนจัดแสดงต่างๆทุกส่วนของพระราชวังฤดูร้อนได้อีกด้วย โดยจะมีราคาต่างกันไปตามฤดูกาลคือ

             ฤดูกาลท่องเที่ยว (เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม) บัตรผ่านทั่วไปราคา 30 หยวน/คน และ บัตรผ่านแบบเหมาพิเศษ ราคา 60 หยวน/คน

             ฤดูกาลอื่นๆ (เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม) บัตรผ่านทั่วไปราคา 20 หยวน/คน และ บัตรผ่านแบบเหมาพิเศษ ราคา 50 หยวน/คน

           ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดของบัตร, ส่วนลดต่างๆ และซื้อบัตรออนไลน์ได้ที่ http://www.summerpalace-china.com/en/visiting/index.html


บัตรผ่านสำหรับเข้าชมพระราชวังฤดูร้อนในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งยังถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว 


ความสวยงามของพระราชวังฤดูร้อน

          พระราชวังฤดูร้อนมีพื้นที่รวมกันทั้งหมด 3.08 ตารางกิโลเมตร โดย เกินครึ่งของพื้นที่คือทะเลสาบคุนหมิง อันยิ่งใหญ่ที่แม้จะถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์ แต่ความสวยงามและความลึกของทะเลสาบแห่งนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าทะเลสาบธรรมชาติแห่งใด และถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์แห่งพระราชวังฤดูร้อน 


ทะเลสาบคุนหมิงที่กว้างใหญ่ภายในพระราชวังฤดูร้อน 


หันมองไปอีกฝั่งก็ยังเห็นเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา 


บรรยากาศริมชายฝั่งของทะเลสาบคุนหมิง

           สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศของทะเลสาบคุนหมิงอย่างเต็มอิ่ม สามารถใช้บริการเรือข้ามฟากของทะเลสาบ หรือเลือกล่องเรือในทะเลสาบได้ โดยมีอัตราค่าบริการประมาณ 60 – 120 หยวน/ชั่วโมง ตามแต่ขนาดของเรือและจำนวนที่นั่งบนเรือ (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.summerpalace-china.com/en/visiting/index.html)


แผนที่บริเวณทะเลสาบคุนหมินและจุดบริการท่าเรือ


เรือข้ามฟากของทะเลสาบคุนหมิน 


นอกจากเรือมังกรข้ามฟาก ยังมีเรือสำหรับนั่งชมทิวทัศน์รอบๆทะเลสาบหลายแบบให้เลือกสรร 

           นอกจากทะเลสาบคุนหมิงอันยิ่งใหญ่ ภายในพระราชวังฤดูร้อนยังเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสวยงามที่สำคัญและทรงคุณค่าอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สะพานสิบเจ็ดโค้ง ซึ่งเป็นสะพานที่ถูกสร้างมาพร้อมๆกับการขยายทะเลสาบ และได้ชื่อว่าเป็น สะพานในพระราชวังจีนที่ยาวที่สุด อีกทั้งเสาบนสะพานยังประดับด้วยรูปปั้นสวยงามที่ไม่ซ้ำอิริยาบถกันอีกด้วย


สะพานสิบเจ็ดโค้งที่วันนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเก็บบรรยากาศพระราชวังฤดูร้อนจากอีกมุม

           และนอกจากสะพานสิบเจ็ดโค้ง ภายในพระราชวังฤดูร้อน ยังมีงานสถาปัตยกรรมที่ขึ้นชื่ออย่าง ระเบียงที่ยาวที่สุดในสวนของพระราชวังจีน อย่างระเบียงยาว ซึ่งสร้างขึ้นมาในสมัยเดียวกันกับสะพานสิบเจ็ดโค้งและทะเลสาบคุนหมิงเช่นกัน โดยระเบียงนี้มีความยาวถึง 728 เมตร และบริเวณระเบียงยังถูกประดับด้วยภาพเขียนสีสวยงามจากจิตรกรฝีมือเอกในอดีตตลอดเส้นทาง


ระเบียงที่ยาวที่สุดในบรรดาระเบียงของพระราชวังจีนโบราณที่กลายเป็นที่พักชั่วคราวของนักท่องเที่ยว

           นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์ผลงานศิลปะประติมากรรมที่พลาดไม่ได้อย่าง เรือหินอ่อน ที่นอกจากจะมีความสวยงามอันน่าตื่นตะลึงแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของการถกเถียงในปมประวัติศาสตร์จีนที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ตราบทุกวันนี้ และไฮไลต์ที่สำคัญอย่าง บริเวณภูเขาหรือเนินว่านโซ่วซาน อันเป็นเนินดินที่ถูกสร้างขึ้นเนื่องจากการขยายทะเลสาบคุนหมิงนั่นเอง โดยบนเนินนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ชิงอันล้ำค่า ไม่ว่าจะเป็นหอสูงซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะพระโพธิสัตว์ หรือห้องโถงอันกว้างใหญ่ที่เคยเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงวันพระราชสมภพของซูสีไทเฮา และจากบนเนินแห่งนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลสาบคุนหมิงอันสวยงามได้อีกด้วย


เรือหินซึ่งอยู่ทางด้านใต้อีกฝั่งของทะเลสาบคุนหมิง 


เนินว่านโซ่วซานสูงตระหง่านเคียงข้างทะเลสาบคุนหมิง


หอสูงบนเนินว่านโซ่วซานที่เคยถูกทำลายไปครั้งหนึ่งจากความวุ่นวายของสงครามก่อนจะถูกซ่อมแซมขึ้นมาใหม่


ระหว่างทางเดินขึ้นสู่เนินว่านโซ่วซานที่มีผู้ร่วมทางมากมาย


ทิวทัศน์ของทะเลสาบคุนหมิงเมื่อมองจากเนินภูเขาว่านโซ่วซาน


สถาปัตยกรรมจีนโบราณด้านข้างอีกแห่งที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ


หอสูงแห่งว่านโซ่วซานเมื่อได้เข้ามามองใกล้ๆ 


ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในพระราชวังฤดูร้อน

           ปัจจุบันเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ภายในพระราชวังฤดูร้อนได้มีบริการร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว โดยสามารถตรวจสอบที่ตั้งของร้านจำหน่ายอาหารและของทานเล่นเพิ่มเติมได้ที่ http://www.summerpalace-china.com/en/JTYM/Snack.html และ http://www.summerpalace-china.com/en/JTYM/Meals.html

           นอกจากนี้ พระราชวังฤดูร้อนยังมีบริการให้ยืม รถเข็นสำหรับผู้พิการ ได้ เพียงวางเงินมัดจำ 500 หยวน/คัน นักท่องเที่ยวก็สามารถใช้บริการรถเข็นเที่ยวชมพระราชวังฤดูร้อนได้ 


นอกจากร้านจำหน่ายอาหารและของทานเล่น ร้านจำหน่ายของที่ระลึกก็มีบริการเช่นกัน


เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมความสวยงามของพระราชวังฤดูร้อนได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม อันเป็นช่วงฤดูร้อนซึ่งพระราชวังฤดูร้อนจะมีเสน่ห์งดงามชวนชมที่สุด

           แต่นอกจากฤดูร้อนแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปชื่นชมความงามของพระราชวังฤดูร้อนได้เช่นกัน อาทิในช่วง เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย อีกทั้งมีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งน่าชื่นชมไม่แพ้กัน แต่หากเลือกมาเยือนในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวอาจจะพบกับทิวทัศน์ทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็งที่แม้จะงดงาม แต่ก็เป็นอุปสรรคในการล่องเรือชมบรรยากาศของพระราชวังฤดูร้อน


ใบบัวสีเขียว, ดอกบัวหลากสีสัน หรือหิมะเกาะใบบัว คือเสน่ห์แตกต่างตามแต่ละฤดูกาลของพระราชวังฤดูร้อน 

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวควร หลีกเลี่ยง การมาเที่ยวชมพระราชวังฤดูร้อนในช่วงวันหยุดยาว อาทิ วันชาติจีน หรือวันตรุษจีน ซึ่งอาจมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเป็นพิเศษทำให้ไม่สะดวกนักในการเข้าชม


เดือนตุลาคมเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ครึ่งวัน ในการเที่ยวชมความสวยงามภายในพระราชวังฤดูร้อน และควรตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเที่ยวชมได้ที่ https://www.accuweather.com/ 


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวพระราชวังฤดูร้อนและเมืองปักกิ่ง

           นอกจากพระราชวังฤดูร้อนที่เป็นสถาปัตยกรรมและแหล่งรวมศิลปะอันสวยงามของจีนโบราณแล้ว ภายในเมืองปักกิ่งยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังต้องห้าม, หอสักการะฟ้าเทียนถาน, จัตุรัสเทียนอันเหมิน หรือถนนหวังฝูจิ่ง ซึ่งต่างมีบรรยากาศและความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์รอให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชม


ด้านบน : พระราชวังต้องห้าม และจัตุรัสเทียนอันเหมิน, ด้านล่าง : ตลาดหวังฝูจิ่งและหอสักการะฟ้า

           โดยทุกวันนี้ การเดินทางภายในปักกิ่งถือว่าสะดวกสบายและครอบคลุมเป็นอย่างมาก อีกทั้งตามระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะอาทิ รถไฟ หรือรถไฟใต้ดินยังมีภาษาอังกฤษกำกับบอกซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ดี นอกจากระบบขนส่งสำคัญ และภายในสถานที่ท่องเที่ยวกับโรงแรมแห่งใหญ่ ยังไม่มีการให้บริการและการสื่อสารภาษาอังกฤษมากนัก นักท่องเที่ยวที่ ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรพกหนังสือรวมคำศัพท์, รวมบทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือแอพพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษา อาทิ Google Translate เผื่อไว้ด้วย 


ปัจจุบันป้ายตามสถานที่เที่ยวมักเป็นหลายภาษา แต่บางส่วนของบัตรเข้าชมกลับยังมีแต่ภาษาจีน

           และมีข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ ประเทศจีนในปัจจุบันมีการ บล็อกการเข้าถึงเว็บไซค์ Google (รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate หรือการแปลภาษา), Facebook และ Instagram หากนักท่องเที่ยวต้องการใช้งาน ควร ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่นพร้อมเปิดระบบบริการโรมมิ่งข้ามประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ อินเตอร์เน็ตจากประเทศจีน หากต้องการสนทนาผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นผ่านอินเตอร์เน็ต สามารถ ใช้โปรแกรม WeChat หรือ Weibo ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวจีน และสามารถ ค้นหาข้อมูล จากเว็บไซต์ Baidu.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์หาข้อมูลของประเทศจีน แทน Google 


บรรยากาศของทะเลสาบคุนหมิงแห่งพระราชวังฤดูร้อนที่รอคอยการไปสัมผัสจริงของนักท่องเที่ยว


           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชมความสวยงามของ พระราชวังฤดูร้อน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                              พระราชวังฤดูร้อน (อี๋เหอหยวน) แห่งเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน

                              (颐和园 , Yi He Yuan / Summer Palace, Beijing, China)

                              ระดับความนิยม

                              อัตราค่าเข้าชม : ฤดูท่องเที่ยว บัตรผ่านประตู 30 หยวน/คน บัตรผ่านแบบเหมาพิเศษ 60 หยวน

                                          ฤดูอื่นๆ บัตรผ่านประตู 20 หยวน/คน บัตรผ่านแบบเหมาพิเศษ 50 หยวน/คน

                              เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 17.30 น. สำหรับฤดูท่องเที่ยว และ 8.30 น. – 17.00 น. สำหรับช่วงอื่นๆ

                              ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนพฤษภาคม – เดือนมิถุนายน ช่วงฤดูใบไม้ผลิได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่สุด

                                                               เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม อันเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย

                                                               หลีกเลี่ยงช่วงที่มีหิมะและฝนตกซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการเที่ยวชม

                              ตั้งอยู่ที่ : เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน

                              โทร : (+88)0106-2881144        

                              เว็บไซต์ : http://www.summerpalace-china.com/         

                              ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                             จองตั๋วรถไฟ(ภาษาจีน) http://www.12306.cn/mormhweb/

                                             จองตั๋วรถไฟ(ภาษาอังกฤษ) https://english.ctrip.com/trains/

                                             บริการข้อมูลท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง http://en.bcia.com.cn/

                                             รถไฟใต้ดินเมืองปักกิ่ง https://www.bjsubway.com/en/

                                             บริการการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองปักกิ่ง http://english.visitbeijing.com.cn/

                                             ศูนย์บริการยื่นขอวีซ่าประเทศจีน http://www.visaforchina.org/BKK_TH/

                                             สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย http://www.chinaembassy.or.th/th/

                                             ภัตตาคารหูต้า เมืองปักกิ่ง http://www.hudafanguan.com/

 

 

แนะนำร้านอาหารในเมืองปักกิ่งจาก Palanla

           นอกจากกำแพงเมืองจีนปาต๋าหลิ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองปักกิ่งแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองปักกิ่งที่ขาดไม่ได้ ย่อมเป็นเมนูอาหารรสเลิศตามร้านต่างๆ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ ภัตตาคารหูต้า (胡大饭馆 / Huda Restaurant)


ภัตตาคารหูต้าแห่งเมืองปักกิ่ง

        ภัตตาคารหูต้าเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงซึ่งเปิดบริการมายาวนาน มีเมนูขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาดอาทิ กุ้งก้ามแดง (Crayfish) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า กุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด (Freshwater Lobster) นอกจากนี้ยังมีเมนูปูขนซึ่งราคาไม่สูงนัก ที่รอให้นักท่องเที่ยวมาลิ้มลองรสชาติกันได้ที่ถนนตงจื๋อเหมินเน่ย เขตตงเฉิน ของเมืองปักกิ่ง (東直門內大街 , 東城区 / Dongzhimennei Street, Dongcheng Area)


โต๊ะอาหารที่เต็มแน่นทุกโต๊ะกับเมนูอันน่าทานของภัตตาคารหูต้า


กุ้งก้ามแดง (Crayfish) หรือ กุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด (Freshwater Lobster) 1 ในเมนูยอดฮิตของร้าน


ปูขน อาหารจานเด็ดที่ราคาเพียง 200 หยวนแต่ได้ปูถึง 5 ตัว !

        และเนื่องจากภัตตาคารหูต้าเป็นภัตตาคารอาหารชื่อดัง จึงมีลูกค้ามาคอยรับบริการเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจึงควรเผื่อเวลาในการรอคิวรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง โดยสามารถเลือกนั่งรอคิวได้ในบริเวณที่ทางร้านจัดให้ (พร้อมบริการ Free wifi) หรือเดินแวะไปรองท้องก่อนเล็กน้อยกับร้านค้าอื่นๆ ซึ่งตั้งเรียงรายตลอดถนนสายนี้ได้


แถวลูกค้าที่มานั่งรอรับประทานอาหารของภัตตาคารใต้ป้ายชื่อตึกฮวาเจียหลิงหยวน


เต๊ณท์สำหรับลูกค้าที่มานั่งคอยคิวรับประทานอาหาร


คะแนนของร้านจาก www.palanla.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ