เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
Sensoji (Asakusa Kannon Temple) Tokyo, Japan
นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลมาเยี่ยมชมวัดอาซากุสะตลอดทั้งวัน
วัดเซนโซจิ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ที่สั่งสมมานับตั้งแต่อดีต ทำให้วัดเซนโซจิเป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น และเป็นทั้งแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์คันนน หรือเจ้าแม่กวนอิม และเป็นที่ตั้งของเจ้าอาซากุสะอันขึ้นชื่อ รวมไปถึงศาลเจ้าชินโต และเจดีย์ห้าชั้นอีกด้วย
ร้านขายอาหาร งานฝีมือ และร้านของที่ระลึกมากมายเรียงรายอยู่บริเวณทางเข้าวัด
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นวัด แต่ภายในวัดเซนโซจิยังมีถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายอาหาร งานฝีมือ และของที่ระลึกมากมาย นอกจากนี้ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของวัด นักท่องเที่ยวก็จะมองเห็นโตเกียว สกายทรี สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นเป็นฉากหลังอยู่เสมอ ถือเป็นภาพอันน่าประทับใจของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เข้ากับสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน
ประวัติของวัดเซนโซจิ
วัดเซนโซจิเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม จึงมีรูปเคารพจำนวนมากทั้งภายในและรอบๆบวัด
ตามตำนานเล่าว่า ในปีค.ศ. 628 พี่น้องสองคนชื่อว่า ฮิโนคุมะ ฮามานาริ และฮิโนคุมะ ทาเคนาริ มักจะออกหาปลาในแม่น้ำสุมิดะทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งสองพี่น้องจับปลาในแม่น้ำไม่ได้เลยสักตัว ด้วยความหิวโหย ทั้งสองคนจึงอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้จับปลาได้สักตัวไปเป็นอาหารเย็น ภายหลังจากอธิษฐาน ทั้งสองคนได้เหวี่ยงแหออกไป แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ติดมานั้นคือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทองคำ สูง 5 นิ้ว
ศาลเจ้าเก่าแก่ภายในบริเวณวัดเซนโซจิ
หลังจากนั้น ทั้งสองพี่น้องได้เปลี่ยนบ้านของพวกตนซึ่งอยู่ในเขตอาซากุสะเป็นวัดขนาดเล็ก และนำพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำที่พบมาประดิษฐานไว้เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้บูชา ซึ่งบรรดาผู้ที่มาขอพรนั้นต่างก็สมปรารถนาเสมอ จนชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำองค์นี้ค่อยๆแผ่ขยายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น มีผู้คนหลั่งใหลมากราบไหว้บูชามากมาย และเมื่อโชกุนโทคุกาวะ อิเอมิทซึรู้เข้า จึงมีบัญชาให้ปรับปรุงตัวอาคารวัด รวมถึงพื้นที่รอบๆเรื่อยมาจนกลายเป็นวัดเซนโซจิอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
การเดินทางไปวัดเซนโซจิ
- รถไฟ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Ginza ( สีส้ม ) มาลงที่สถานี Asakusa ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 170 เยน ออกทางออกหมายเลข 6 หรือ 7 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับวัดเซนโซจิ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/
- รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
เจดีย์ 5 ชั้นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบริเวณประตูวัด
บริเวณตัวอาคารหลักของวัด เปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม
ส่วนบริเวณพื้นที่โดยรอบ เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
บริเวณอาคารหลักของวัดเซนโซจิเนืองแน่นไปด้วยผู้คนตั้งแต่ตอนเช้า
จุดที่มีชื่อเสียงในบริเวณวัดเซนโซจิ
ประตูคามินาริมง ซึ่งมีตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า 雷 แปลว่า”สายฟ้า”
ประตูคามินาริมง – เป็นประตูหลักของวัดเซนโซจิ และยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย บริเวณประตูจะมีโคมแดงขนาดมหึมาที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นว่า 雷 อ่านว่า “คามานาริ” ซึ่งแปลว่าสายฟ้า ประตูแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ประตูสายฟ้า”
ถนนนากามิเสะที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อขนมและของฝากต่างๆได้อย่างเพลิดเพลิน
ถนนนากามิเสะ – เมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่านประตูคามินาริมงเข้าไป จะพบกับถนนที่ทอดยาวเข้าไปสู่ตัววัด โดย ตลอดสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆทั้งร้านขนม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ไปจนถึงร้านเช่าและขายชุดกิโมโน ถือเป็นย่านช้อปปิ้งสำคัญที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าต่างๆเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย
ประตูโฮโซมง ประตูชั้นสุดท้ายก่อนที่นักท่องเที่ยวจะพบกับอาคารหลักของวัดเซนโซจิ
ประตูโฮโซมง – เมื่อเดินมาจนสุดถนนนากามิเสะ นักท่องเที่ยวจะพบกับประตูขนาดใหญ่อีกแห่งก่อนเข้าไปสู่บริเวณวัด ประตูโฮโซมงนั้นมีขนาดใหญ่กว่าประตูคามินาริมงเกือบเท่าตัว โดยมีความสูงถึง 22.7 เมตร ชื่อประตูมีความหมายว่า “ประตูคลังสมบัติ” ด้านในของประตูยังมี Nio หรือรูปปั้นเทพเจ้า 2 องค์ที่ทำหน้าที่ปกปักรักษาองค์พระพุทธเจ้า
เมื่อเข้าสู่บริเวณตัววัด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับตัวอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ เจดีย์ 5 ชั้น รวมไปถึงศาลาสำหรับเสี่ยงเซียมซี และศาลาสำหรับจำหน่ายเครื่องราง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ต้นซากุระโบราณภายในวัดเซนโซจิผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เนื่องจากวัดเซนโซจิตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังวัดได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งปี
แต่หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศที่พิเศษออกไป วัดเซนโซจินั้นมีการจัดงานเทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี โดยงานเทศกาลที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของวัดคือเทศกาล Sanja Matsuri และยังถือเป็น 1 ใน 3 งานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในศาสนาชินโตอีกด้วย โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมในทุกปี
โคมไฟแบบญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้ประดับประดา
จุดประสงค์ของเทศกาล Sanja Matsuri คือการจัดงานเฉลิมฉลองให้แก่ผู้ก่อตั้งวัด เชื่อกันว่าเทศกาลนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 โดยพิธีในวันแรกจะเริ่มจากการอัญเชิญเทพเจ้าขึ้นสู่เกี้ยวหรือศาลเจ้าจำลองที่เรียกว่า “mikoshi” ทั้งสามหลังของศาลเจ้าอาซากุสะ โดยเกี้ยวแต่ละด้านต้องใช้คนหามถึง 40 คน วันที่สองจะเป็นวันที่ผู้คนต่างมาร่วมสนุกสนานไปกับดนตรี ขบวนแห่ ขับร้องเพลงและร่ายรำกันอย่างสนุกสนานที่บริเวณถนนสายหลักหน้าวัด และในวันสุดท้ายถือเป็นไฮไลท์ของเทศกาล ซึ่งจะมีการแห่เกี้ยวทั้งสามไปทั้ง 44 เขตของย่านอาซากาสะ ก่อนจะแห่กลับมาทำพิธีใหญ่เพื่อปิดเทศกาลในคืนนั้น
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
นักท่องเที่ยวปัดควันธูปเข้าตัวด้วยความเชื่อว่าจะนำพาความโชคดีมาให้
วัดเซนโซจิมีธรรมเนียมเช่นเดียวกับวัดแห่งอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น นั่นคือต้องล้างหน้า ล้างมือ และล้างปากก่อนเข้าวัด ซึ่งนอกจากจะเป็นการชำระร่างกาย ยังสื่อถึงการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยภายในวัดจะมีบ่อน้ำและกระบวยตักน้ำอยู่ใกล้กับประตูโฮโซมง และนอกจากนี้ยังมีธรรมเนียมการปัดควันธูปเข้าหาตัว ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำพาสิ่งดีๆมาให้อีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดเซนโซจิ ( ศาลเจ้าอาซากุสะ )
Sensoji (浅草寺, Asakusa Kannon Temple)
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าบริการเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : อาคารหลักของวัดเปิดให้บริการระหว่าง 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน
และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม
พื้นที่อื่นรอบบริเวณวัด เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : ย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 3-3842-0181
เว็บไซต์ : http://www.senso-ji.jp/
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/
เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/
พระใหญ่จงหยวน หรือนิยมเรียกในชื่อ Spring Temple Buddha ที่แปลว่า พระพุทธรูปวัดบ่อน้ำพุ ถือเป็นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่วัดฟัวเฉวียน ในเมืองหลู่ซัน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน
อ่านต่อพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชาน (Guishan Guanyin) มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมความสูง 99.19 เมตร ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมแห่งไท่หู (Guanyin of Taihu) ประดิษฐานอยู่ภายในพื้นที่ของ Great Ruyi Holy Land บนเกาะซีซาน (Xishan Island) ทางทิศใต้ของทะเลสาบไท่หู (Taihu Lake) มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อ่านต่อประเทศสิงคโปร์ ประเทศเล็กๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในประเทศศูนย์กลางทางการเงินและศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดในโลก และยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เชื้อชาติและภาษา จึงทำให้มีที่เที่ยว อาหาร และบรรยากาศหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย ด้วยเหตุนี้ประเทศสิงคโปร์จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยมาโดยตลอด วันนี้ Palanla จะมาแนะนำ 14 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในประเทศสิงคโปร์ปี 2025 ไปดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้างที่น่าสนใจและเราไม่อยากให้พลาด!
อ่านต่อมาเก๊า (Macau) เขตบริหารพิเศษแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีภูมิประเทศเป็นเกาะเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแบบ ทั้งโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างใหม่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักเดินทางชาวไทย ด้วยเวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง Palanla จึงขอเอาใจผู้อ่านพาไปเที่ยวที่นี่ ด้วยการรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 10 แห่งมาแนะนำ มีอะไรน่าสนใจบ้าง หรือใครกำลังวางแผนไปเที่ยวมาเก๊าก็สามารถดูเอาไว้เป็นตัวเลือกกันได้เลย
อ่านต่อในโลกที่ความยิ่งใหญ่และความสง่างามมาบรรจบกัน มีการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งท้าทายขีดจำกัดของความเชื่อและความสำเร็จของมนุษย์ นั่นคือพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความศรัทธา และความทุ่มเทที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของคนในชาติต่างๆ Palanla จะพาคุณออกเดินทางไปสำรวจ 10 อันดับพระพุทธรูปที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มาค้นหาความหมายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในสิ่งก่อสร้างอันงดงามเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน มีผู้เคารพนับถือบูชาในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม รวมทั้งไทย โดยมีความเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตา กรุณา และความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ในบทความนี้ Palanla จะพาไปสำรวจ 10 อันดับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกในปัจจุบัน
อ่านต่อหลวงพ่อสัจจธรรม (Great Buddha Dordenma) เป็นพระพุทธรูปที่อยู่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย
อ่านต่อไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ (Dai Kannon of Kita no Miyako Park) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮอกไกโดคันนง เป็นรูปปั้นของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม ที่ตั้งอยู่ในสวนคิตะโนะมิยาโกะ บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น รูปปั้นไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ เคยเป็นรูปปั้นที่เคยสูงที่สุดในโลกเมื่อเปิดให้เข้าชมในปีค.ศ.1989
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมแห่งหนานชาน หรือ พระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งเกาะไหหลำ (Guanyin of Nanshan) ได้รับการจดบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ใกล้กับวัดหนานชานแห่งเมืองซานย่า บนชายฝั่งทางตอนใต้ของมณฑลไห่หนาน ประเทศจีน
อ่านต่อพระใหญ่จงหยวน หรือนิยมเรียกในชื่อ Spring Temple Buddha ที่แปลว่า พระพุทธรูปวัดบ่อน้ำพุ ถือเป็นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่วัดฟัวเฉวียน ในเมืองหลู่ซัน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน
อ่านต่อพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชาน (Guishan Guanyin) มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมความสูง 99.19 เมตร ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมแห่งไท่หู (Guanyin of Taihu) ประดิษฐานอยู่ภายในพื้นที่ของ Great Ruyi Holy Land บนเกาะซีซาน (Xishan Island) ทางทิศใต้ของทะเลสาบไท่หู (Taihu Lake) มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อ่านต่อประเทศสิงคโปร์ ประเทศเล็กๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในประเทศศูนย์กลางทางการเงินและศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดในโลก และยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เชื้อชาติและภาษา จึงทำให้มีที่เที่ยว อาหาร และบรรยากาศหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย ด้วยเหตุนี้ประเทศสิงคโปร์จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยมาโดยตลอด วันนี้ Palanla จะมาแนะนำ 14 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในประเทศสิงคโปร์ปี 2025 ไปดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้างที่น่าสนใจและเราไม่อยากให้พลาด!
อ่านต่อมาเก๊า (Macau) เขตบริหารพิเศษแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีภูมิประเทศเป็นเกาะเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแบบ ทั้งโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างใหม่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักเดินทางชาวไทย ด้วยเวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง Palanla จึงขอเอาใจผู้อ่านพาไปเที่ยวที่นี่ ด้วยการรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 10 แห่งมาแนะนำ มีอะไรน่าสนใจบ้าง หรือใครกำลังวางแผนไปเที่ยวมาเก๊าก็สามารถดูเอาไว้เป็นตัวเลือกกันได้เลย
อ่านต่อในโลกที่ความยิ่งใหญ่และความสง่างามมาบรรจบกัน มีการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งท้าทายขีดจำกัดของความเชื่อและความสำเร็จของมนุษย์ นั่นคือพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความศรัทธา และความทุ่มเทที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของคนในชาติต่างๆ Palanla จะพาคุณออกเดินทางไปสำรวจ 10 อันดับพระพุทธรูปที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มาค้นหาความหมายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในสิ่งก่อสร้างอันงดงามเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ